เกาะติดความคืบหน้าของโครงการ “เที่ยวปันสุข” นับตั้งแต่คณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 63 เห็นชอบในหลักการมาตรการกระตุ้น “ไทยเที่ยวไทย” ใน 3 แพ็คเกจ ได้แก่ 1. แพ็คเกจ "กำลังใจ" 2. แพ็คเกจ "เราไปเที่ยวกัน" 3. แพ็คเกจ "เที่ยวปันสุข" ที่รัฐบาลสนับสนุนงบ 22,400 ล้านบาท ภายใต้โครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ภายใต้กรอบเงินกู้ 4 แสน กระตุ้นการท่องเที่ยว ในช่วง 4 เดือนนี้ (ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.-31 ต.ค.2563)
และตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 63 เป็นต้นไป ตามนโยบายของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่จะเปิด “อุทยานแห่งชาติ” ทั่วประเทศ ซึ่งรวมไปถึง "อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่" ก็เตรียมเปิดให้บริการอีกครั้งในวันที่ 1 ก.ค.นี้ เช่นกัน
โดยอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ได้กำหนดมาตรการให้ทั้งเจ้าหน้าที่และนักท่องเที่ยวทุกคนจะต้องปฏิบัติตามมาตรการคัดกรองโรค ดังนี้
1. จองคิวการท่องเที่ยวผ่านแอปพลิเคชั่น QueQ (คิวคิว) โดยระบุชื่อ หมายเลขโทรศัพท์ รวมถึง จำนวนผู้ที่จะเดินทางก่อนเข้ามาท่องเที่ยว
2. สแกนคิวอาร์โค้ด แอปพลิเคชั่น “ไทยชนะ” หรือลงทะเบียนรายชื่อนักท่องเที่ยวเป็นรายบุคคล
3. ตรวจวัดอุณหภูมิ สวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า หากไม่สวมใส่ทางอุทยานฯ จะไม่ให้เข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด
4. ลดความเร็วขณะขับรถในพื้นที่อุทยานฯ เนื่องจากสัตว์ป่าที่ออกมาเดินตามเส้นทางยังคุ้นไม่ชิน โดยทั่วไปกำหนดไว้ที่ 30-60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
5. จำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวเข้า-ออกในแต่ละวัน ไม่เกินวันละ 5,000 คน
6. สถานที่ท่องเที่ยวและลานกางเต็นท์ เช่น ลำตะคอง ผากล้วยไม้ จะจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวเหลือ 1 ใน 3 เท่านั้น ลานกางเต็นท์ลำตะคอง รองรับได้ 800 คน ส่วนบริเวณผากล้วยไม้รองรับได้ 700 คน จะใช้เชือกขึงเป็นตารางขนาด 4×4 เมตร เพื่อจำกัดระยะห่างของเต็นท์พักแรม
7. บริเวณทางเข้าหน้าอุทยานฯ ในกรณีเข้ามาไหว้สักการะศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ ให้จอดรถบริเวณด้านหน้าอุทยานแล้ว เดินเท้าเข้าไปยังจุดคัดกรอง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางไปท่องเที่ยว จึงต้องเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่คอยดูแลนักท่องเที่ยวตามเส้นทางต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด รวมไปถึง พื้นที่ลานกางเต็นท์ลำตะคอง และลานกางเต็นท์ผากล้วยไม้ ที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวชมธรรมชาติและพักแรม