ตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ ผู้บริหาร พนักงาน และผู้ที่มีส่วนร่วมของ โรงภาพยนตร์ “สกาลา” ในชุดเสื้อยืดคอกลมสีเหลืองสกรีนภาพตั๋วหนังของโรงภาพยนตร์สกาลา พร้อมข้อความว่า “SCALA 5/7/63 รอบสุดท้าย” ได้มารวมตัวกันถ่ายภาพประวัติศาสตร์ร่วมกันบริเวณหน้าโรงภาพยนตร์สกาลาและบริเวณบันไดทางขึ้นโรงภาพยนตร์ เพื่อบันทึกความทรงจำ วันสุดท้ายก่อนที่โรงภาพยนตร์แห่งนี้จะปิดตัวลงอย่างถาวร
สกาลาเป็นโรงภาพยนตร์สแตนด์อะโลนขนาด 1,000 ที่นั่ง ที่เปิดให้บริการเคียงคู่สยามสแควร์มาตั้งแต่ปี 2512 โดยภาพยนตร์ที่ฉายรอบปฐมทัศน์เมื่อวันที่ 31 ธันวาคมปีดังกล่าว เป็นภาพยนตร์เรื่อง "สองสิงห์ตะลุยศึก (The Undefeated)" นอกเหนือจากการตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมแบบคลาสสิกที่สวยงามโดดเด่น ผสมผสานระหว่างรูปแบบตะวันตกและตะวันออก มีเอกลักษณ์เป็นโคมแชนเดอเลียร์ระย้า 5 ชั้นขนาดยักษ์ที่สั่งตรงจากอิตาลีและเครื่องประดับอาคารที่ทางโรงภาพยนตร์สั่งทำขึ้นมาพิเศษ สกาลายังได้ชื่อว่าเป็นโรงภาพยนตร์ที่คอหนังต่างประเทศทั้งที่เป็นภาพยนตร์ในกระแสและนอกกระแส จะได้มาชื่นชมกันตลอดระยะ 50 ปีทีผ่านมา
นางนันทา ตันสัจจา ประธานโรงภาพยนตร์ในเครือเอเพ็กซ์ ที่วันนี้มายืนต้อนรับผู้ชมหน้าโรงภาพยนตร์สกาลา เปิดเผยว่า วันนี้เป็นวันหัวใจแตกสลาย เพราะรักสกาลา ที่เป็นเหมือนบ้าน เป็นครอบครัว ทุกคนทั้งผู้ชมและพนักงานเป็นเสมือนครอบครัวเดียวกัน โดยทุกครั้งที่จะมีการนำภาพยนตร์มาฉาย ก็จะคัดสรรและคำนึงถึงคุณธรรม ศีลธรรม และข้อคิดที่ผู้ชมจะได้รับเสมอ ๆ ด้วยความพยายามที่จะให้ความรู้และมอบสิ่งดี ๆ แก่ผู้ชม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารสกาลายอมรับว่า สถานการณ์โควิด-19 และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปแบบ New Normal แม้จะพยายามต่อสู้จนถึงที่สุดแล้ว แต่สุดท้าย สกาลาก็ต้องปิดกิจการ ในวันนี้จึงอยากให้สกาลาจากไปพร้อมกับความทรงจำดี ๆ จึงเปิดไฟทุกดวงให้แฟน ๆ ของโรงภาพยนตร์สกาลา มาร่วมเก็บภาพความทรงจำ โดยวันนี้เห็นผู้คนมากมายมาร่วมถ่ายรูปกันคึกคักเหมือนวันแรกที่สกาลาเปิดกิจการก็รู้สึกดีใจ
“สกาลาเคยมอบความสุขให้ทุกคน และวันนี้จะมอบความสุขให้ทุกคนจนวินาทีสุดท้าย และจะคิดถึงทุกคนตลอดไป” นางนันทากล่าวและว่า ที่ผ่านมาเคยรอและอยากให้เกิดปาฏิหาริย์ ให้มีใครสักคนอยากเก็บรักษาสกาลาไว้ แต่ท้ายที่สุดก็ไม่มี ซึ่งหลังปิดกิจการวันนี้แล้ว ก็จะเก็บความทรงจำบางส่วนในโรงภาพยนตร์ที่สามารถนำไปได้ ไปจัดแสดงไว้ที่สวนนงนุช พัทยา เช่นเดียวกับพนักงานสกาลา ถ้าใครประสงค์จะทำงานต่อ บริษัทก็มีตำแหน่งรองรับเพียงพอที่สวนนงนุช ซึ่งเป็นอีกหนึ่งธุรกิจหลักของครอบครัวตันสัจจา
ทั้งนี้ โปรแกรม “La Scala ลา สกาลา” ซึ่งจะปิดฉากด้วยภาพยนตร์เรื่องสุดท้าย Cinema Paradiso ในรอบฉาย 18.00 น. เป็นผลงานของ จูเซปเป ทอร์นาทอเร ภาพยนตร์อิตาเลียนเรื่องดังที่เฉลิมฉลองความยิ่งใหญ่และเสน่ห์ตรึงตาของโรงภาพยนตร์ที่สร้างความประทับใจให้ผู้ชมมาแล้วทั่วโลก ตั๋วเข้าชมได้จำหน่ายหมดแล้ว