ภาคเอกชนไทยผนึก“จีน”ขับเคลื่อนเขตเกษตรอุตสาหกรรมสีเขียวชัยภูมิ

22 ธ.ค. 2567 | 09:37 น.
อัปเดตล่าสุด :22 ธ.ค. 2567 | 09:45 น.

หอการค้าฯ-สภาอุตสาหกรรมชัยภูมิ ลงนามความร่วมมือกับรัฐวิสาหกิจมณฑลเหอะหนาน และวิสาหกิจชุมชนจังหวัดชัยภูมิ ส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรสีเขียว ส่งกลับไปจีน สร้างความมั่นคงทางอาหารและสร้างรายได้เกษตรกร

ผู้สื่อข่าวงานว่า ที่จังหวัดชัยภูมิ ทางหอการค้าจังหวัดชัยภูมิ สภาอุตสาหกรรมจังหวัดชัยภูมิ  วิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตอินทรีย์ชีวภาพ อ.ภักดีชุมพล จ.ชัยภูมิ บริษัท หัวเชี่ย อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด และ รัฐวิสาหกิจมณฑลเหอหนาน ร่วมกันลงนามข้อตกลงการสนับสนุนและขอบเขตความร่วมมือการขับเคลื่อนเขตเกษตรอุตสาหกรรมสีเขียวในจังหวัดชัยภูมิ 

โดยมี นายสมพร ง บุญเกิน รองประธานหอการค้าจังหวัดชัยภูมิ นายวชิระวิชญ์ จารุพัฒนวาณิช รองประธานสภาอุตสาหกรรม นายสุรพัฒน์ หมื่นศรีรัตน์ ประธานวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตอินทรีย์ชีวภาพ อ.ภักดีชุมพล จ.ชัยภูมิ นายหวัง จีจิ้นบริษัท กรรมการผู้จัดการบริษัท หัวเซีย อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด MR.LI GUOBIAO ประธานรัฐวิสาหกิจมณฑลเหอหนาน เป็นผู้ร่วมลงนาม เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2567

นายสุรพัฒน์ หมื่นศรีรัชต์ ประธานวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตอินทรีย์ชีวภาพ กล่าวว่า ในข้อตกลงนี้ เป็นความร่วมมือการขับเคลื่อนเขตเกษตรอุตสาหกรรมสีเขียว ซึ่งเป็นไปตามประกาศของจังหวัดชัยภูมิ ต้องการให้ชัยภูมิเป็นจังหวัดการเกษตรสีเขียว และจำหน่ายวัตถุดิบตามมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ในระดับสากล  หรือ GAP to Organic และร่วมกันพัฒนาเกษตรอินทรีย์ครบวงจร โดยจะร่วมกันวิจัยและพัฒนา การปลูกพืชปลอดสารพิษ เพื่อให้จังหวัดชัยภูมิเป็นจังหวัดการเกษตรปลอดสารพิษ  

“โครงการนี้จะทำให้ชัยภูมิ สามารถขับเคลื่อนเกษตรสีเขียวได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเป็นความร่วมมือของทุกฝ่าย ทั้งผู้ลงทุน ผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย ครบวงจร จะทำให้ชัยภูมิปลอดภัยจากการใช้สารเคมี ผู้บริโภคมีสุขภาพดี เกษตรกรมีค่าใช้จ่ายในด้านผลิตลดลง มีรายได้เพิ่มขึ้น เป็นการพัฒนาที่ยั่งยืน และสร้างสุขภาพที่ของผู้บริโภค” 

                        ภาคเอกชนไทยผนึก“จีน”ขับเคลื่อนเขตเกษตรอุตสาหกรรมสีเขียวชัยภูมิ

นายสุรพัฒน์ กล่าวอีกว่า การคิดค้นวิจัยและการผลิตสินค้าเกษตรปลอดสารพิษ ไม่เพียงเพื่อบริโภคในประเทศไทย แต่จะเป็นช่องทางการนำผลิตผลทางการเกษตรปลอดสารพิษ เข้าไปจำหน่ายในประเทศจีนและประเทศอื่น ตามกฎระเบียบของอียูและหลายประเทศ ที่ต้องการส่งเสริมพัฒนาผลิตผลปลอดสารพิษและลดโลกร้อน 

“จังหวัดชัยภูมิ มีความได้เปรียบ เป็นจังหวัดที่อยู่กึ่งกลางของประเทศ สามารถกระจายผลผลิตได้ทั่วถึงและสามารถกระจายไปยังประเทศจีนอย่างสะดวกด้วย” นายสุรพัฒน์ ระบุ
ด้านนายสมพร บญเกิน รองประธานหอการค้าจงหวัดชัยภูมิ กล่าวว่า หอการค้าฯ พร้อมให้ความร่วมมือ และส่งเสริมการสร้างเกษตรสีเขียวให้ประสบความสำเร็จ จังหวัดชัยภูมิมีศักยภาพในการลงทุน แต่ที่ผ่านมามักจะถูกมองข้าม จึงขอเชิญชวนให้นักลงทุน นักธุรกิจมาลงทุนในจังหวัดมากๆ เพื่อขับเคลื่อนให้คนชัยภูมิมีรายได้ มีความเป็นอยู่ที่ดี 

ขณะที่ ประธานรัฐวิสาหกิมณฑลเหอนาน กล่าวว่า ทางจีนพร้อมนำเทคโนโลยีการผลิตมาส่งเสริมเกษตรกรและผู้สนใจ เพื่อส่งเสริมการเกษตรปลอดสารพิษในจังหวัดชัยภูมิ และในประเทศไทย ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีการเติบโตสูง และมีช่องว่างทางการตลาดอีกมาก เพราะมีความปลอดภัยของผู้บริโภค และเป็นช่องทางที่จะส่งออกไปยังประเทศจีน