รายงานข่าวจากสำนักงานเป่ยจิงเป้าเป้ยข่อของจีน เผยว่า ในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 เศรษฐกิจของจีนมีการชะลอตัวลง และการเติบโตทางเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 2 มีการเปลี่ยนแปลงจากไตรมาสที่ 1 จากเชิงลบเป็นบวก โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติจีนเผยว่า GDP ของจีนในไตรมาสที่ 2 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 1 ร้อยละ 3.2
นายผางหมิง หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์บริษัทฮวาซิงเจิ้งฉวน กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “เศรษฐกิจของจีนจะมีเสถียรภาพและฟื้นตัวในอีกไม่กี่ไตรมาสข้างหน้า โดยในช่วง ครึ่งปีหลังคาดว่า GDP จะมีอัตราการเติบโตมากกว่าร้อยละ 6 และเมื่อคำนึงถึงความไม่แน่นอนของสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งในและต่างประเทศ จึงคาดการณ์ว่าการเติบโตของ GDP จะอยู่ที่ร้อยละ 6.3 และ ร้อยละ 6.5 ในไตรมาสที่ 3 และ 4 ตามลำดับ
“อัตราการเติบโตของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมของเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้นเกินอัตราที่กำหนดถึงร้อยละ 4.8 เมื่อเทียบกับเดือนมกราคมถึงพฤษภาคม 2563 และมีอัตราการขยายตัวมากกว่าเดือนพฤษภาคมร้อยละ 0.4 หนึ่งในนั้นมีรัฐวิสาหกิจ บริษัทเอกชน บริษัทต่างประเทศรวมถึงฮ่องกงมาเก๊าและไต้หวันเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.9 , 4.8 และ 4.2 ตามลำดับ ในเดือนมิถุนายน มูลค่าการส่งออก 213.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 0.5 และมูลค่า การนำเข้า 167 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.7 และตั้งแต่เดือนธันวาคม 2562 จนถึง เดือนมิถุนายน 2563 การส่งออกและการนำเข้ามีการเติบโตเป็นครั้งแรกในรอบหกเดือน สะท้อนให้เห็นถึงการฟื้นตัวทาง เศรษฐกิจจากการระบาดของเชื้อโควิด 19 ”
อ่านข่าวที่เกี่ยวเนื่อง
นายผางหมิงยังกล่าวด้วยว่า จากข้อมูลสถิติการใช้ไฟฟ้า การขนส่ง การเดินทาง ฯลฯ ที่มีตัวเลขสูงขึ้นแสดงให้ เห็นว่าการผลิตและการดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเริ่มฟื้นตัวขึ้น ขณะที่สถานการณ์การป้องกันและควบคุมโรคระบาดของจีนยังคงดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีการผลักดันให้กลับมาทำงานตามปกติ ขอเพียงการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ไม่กลับมาระบาดร้ายแรงอีกครั้ง เศรษฐกิจจีนที่เคยเผชิญหน้ากับความยากลำบากได้ผ่านพ้นไปแล้ว อย่างไรก็ตามเนื่องจากการชะลอตัวของการเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลกที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ การฟื้นฟูเศรษฐกิจจีนยังคงต้องใช้เวลาฟื้นฟูอีกต่อไป
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ(ทูตพาณิชย์) ณ เมืองกวางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน ให้ความเห็นแม้ว่าในขณะนี้สถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังคงระบาดอย่างต่อเนื่องในทั่วโลก แต่ประเทศจีนถือเป็นประเทศหนึ่งที่รับมือและควบคุมสถานการณ์ได้ดี ทำให้เป็นประเทศที่สามารถกลับมาฟื้นฟูเศรษฐกิจได้เป็นประเทศแรก ๆ จากหลาย ๆ ประเทศที่ประสบปัญหาของโรคระบาดในปี 2563 นี้ นับว่าเป็นสัญญาณที่ดีต่อผู้ส่งออกไทย ในการดำเนินกิจการต่างๆ รวมทั้งรัฐบาลจีนได้ออกมาตรการต่างๆ เพื่อช่วยให้การนำเข้าส่งออกเป็นไป อย่างราบรื่นที่สุด เช่น การใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการผ่านพิธีศุลกากรเพื่อความสะดวกรวดเร็ว หรือแม้กระทั่งการ สนับสนุนการตั้งหาบเร่แผงลอยตามสถานที่ต่าง ๆ ในชุมชนเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจภายในประเทศ ทั้งนี้ผู้ประกอบการไทย ควรติดตามสถานการณ์ข่าวสารจากประเทศจีนอย่างใกล้ชิดเพื่อนำไปปรับใช้ในการวางนโยบายและกลยุทธ์ในการดำเนิน ธุรกิจต่อไป
จากข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ โดยความร่วมมือของกรมศุลกากรระบุการส่งออกของไทยไปจีนในเดือนมิถุนายน 2563 ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 โดยขยายตัวร้อยละ 12.0 สินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ยาง รถยนต์และส่วนประกอบ ผลไม้สด แช่แข็งและแห้งฯ เคมีภัณฑ์ และเม็ดพลาสติก เป็นต้น ขณะที่ครึ่งแรกของปี 2563 การส่งออกของไทยไปจีนขยายตัวร้อยละ 5.8 ถือเป็นตลาดใหญ่เพียงไม่กี่ตลาดที่การส่งออกของไทยขยายตัวเป็นบวกจากผลกระทบโควิด-19 จากภาพรวมการส่งออกของไทยไปทุกตลาดในช่วง 6 เดือนแรกปี 2563 มีมูลค่ารวม 114,343 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ติดลบที่ 7%