ตามหนังสือที่อ้างถึงสมาคมการประมงแห่งประเทศไทยขอความอนุเคราะห์ให้กรมประมงพิจารณาปรับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของผู้สมัครเข้าร่วมโครงการสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องของผู้ประกอบการประมง “ต้องไม่เป็นผู้มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา39 แห่งพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 หรืออยู่ในระหว่างถูกดำเนินคดีตามกฎหมายประมง” เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการประมง
แหล่งข่าวผู้ประกอบการประมง เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ล่าสุด ทางกระทรวงการต่างประเทศ ให้ความเห็นว่าดังนี้ “เพื่อให้สอดคล้องกับการดำเนินการนโยบายด้านการต่อต้านการประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (IUU) ซึ่งเป็นหนึ่งในประเด็นความร่วมมือสำคัญระหว่างไทยกับสหภาพยุโรป (อียู) การพิจารณาให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบการประมงอาจพิจารณาตรวจสอบความเกี่ยวข้องกับการทำประมง IUU ของผู้ประกอบการที่ขอรับการสนับสนุนสินเชื่อรวมถึงเรือประมงในกรรมสิทธิ์ เพื่อให้มั่นใจว่าโครงการดังกล่าวจะส่งเสริมให้เกิดการทำประมงยั่งยืน รวมทั้งป้องกันไม่ให้เกิดการทำประมง IUU”
ทั้งนี้จึงมีความจำเป็นต้องกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของผู้สมัครเข้าร่วมโครงการ เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปตามมติครม.และความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งการกระทำอย่างนี้ถือเป็นการแทรกแซงกิจการภายในประเทศหรือไม่
อย่างไรก็ดีในการนี้ กรมประมง ได้ชี้แจงว่า ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 26 พ.ค.2563 อนุมัติโครงการสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องผู้ประกอบการประมง โดยให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์โดยกรมประมงรับความคิดเห็นของหน่วยงานต่างๆ ได้แก่ กระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และธนาคารแห่งประเทศไทย ไปแล้ว แต่ทางอียู ก็ท้วงติงมาอย่างข้างต้นจริง ดังนั้นจึงแจ้งประชาสัมพันธ์ให้ชาวประมงรับทราบ ว่าหลักเกณฑ์ใหม่และเงื่อนไขของผู้สมัครเพิ่มเติมในประเด็นดังกล่าวด้วย