นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กล่าวระหว่างนำเจ้าหน้าที่กรมทรัพย์สินทางปัญญากรมทรัพย์ฯลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อรับคำขอขึ้นทะเบียน GI สินค้า “มังคุดเขาคีรีวง” เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2563 ว่า กรมฯคาดว่าจะสามารถรับขึ้นทะเบียน GI ได้เร็วนี้ พร้อมกันนี้จะร่วมหารือกับหน่วยงานในพื้นที่คุมเข้มกระบวนการผลิตและเตรียมจัดทำแผนควบคุมตรวจสอบสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ เพื่อรักษามาตรฐานสินค้า ทั้งนี้ จากการสำรวจเบื้องต้นพบยังมีสินค้าอีกหลายรายการที่มีคุณสมบัติเข้าข่ายสามารถขึ้นทะเบียนเป็นสินค้า GI และมีศักยภาพในการแข่งขันทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศโดยกรมฯจะผลักดันต่อไป
ทั้งนี้ ด้วยพื้นที่ปลูกมังคุดเขาคีรีวงอยู่ในตำบลกำโลน ตำบลท่าดี และตำบลเขาแก้ว ของอำเภอลานสกา ซึ่งอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลมากกว่า 200 เมตร มีฝนชุกและเป็นพื้นที่ป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์ สามารถเพาะปลูกมังคุดด้วยวิธีธรรมชาติ ทำให้ได้ผลผลิตที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น มีผลใหญ่ เนื้อสีขาวรสชาติเปรี้ยวอมหวาน ลูกกลม เปลือกหนา ผิวมันวาว กลีบขั้วสีเขียวสด ก้นรี ซึ่งผลขนาดใหญ่มีน้ำหนักถึง 4 ลูกต่อ 1 กิโลกรัม เปลือกหนาประมาณ 1 เซนติเมตร เมล็ดไม่ใหญ่ สามารถขายได้ราคากิโลกรัมละ 400-500 บาท
โดยหลังจากนี้ กรมฯ พร้อมจะดำเนินการตรวจสอบรายละเอียดคำขอ และพิจารณารับขึ้นทะเบียน GI ต่อไป รวมทั้ง กรมฯยังลงพื้นที่สำรวจสินค้าชุมชนของจังหวัดนครศรีธรรมราชที่มีศักยภาพและมีโอกาสที่จะผลักดันเป็นสินค้า GI รายการใหม่ในอนาคต ซึ่งจากการลงพื้นที่ครั้งนี้ พบว่า มีสินค้าและผลิตภัณฑ์ชุมชนอีกหลายรายการที่เข้าข่ายอาจขึ้นทะเบียน GI ได้ อาทิ เครื่องจักสานย่านลิเภาเมืองนคร ผ้ามัดย้อมสีธรรมชาติคีรีวง ฯลฯ ซึ่งกรมฯ จะประสานงานร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ศึกษารายละเอียดความเป็นไปได้ในการจัดทำคำขอ และส่งเสริมการเพิ่มมูลค่าสินค้าชุมชน และต่อยอดเชิงพาณิชย์ด้วยระบบการคุ้มครอง GI เพื่อสร้างรายได้สู่ชุมชนและสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานรากต่อไป
อย่างไรก็ดี สินค้าส้มโอทับทิมสยามปากพนัง ซึ่งเป็นสินค้า GI รายการแรกของจังหวัดนครศรีธรรมราชที่ได้รับการขึ้นทะเบียนตั้งแต่ปี 2555 ด้วยคุณภาพและเอกลักษณ์ที่โดดเด่นจึงสามารถครองใจผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ และสร้างรายได้ให้กับชุมชนได้เป็นอย่างมากและการผลักดันสินค้าอื่นๆก็จะมีผลต่อรายได้ให้กับชุมชนได้ในอนาคต