นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ในปีนี้ กรมได้ปรับรูปแบบการจัดกิจกรรมเพื่อให้สอดรับกับมาตรการและผลกระทบที่เกิดขึ้นจากโควิด-19 ทั้งต่อการผลิตและส่งออก รวมถึงความกังวลของนักธุรกิจทั่วโลกในด้านความปลอดภัยและความยุ่งยากในการเดินทางระหว่างประเทศ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศจึงได้ปรับกลยุทธ์นำงาน STYLE Bangkok ซึ่งมีกำหนดจัดเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา เสริมให้มีแพลตฟอร์มออนไลน์ เปิดโอกาสให้ผู้ซื้อ-ผู้นำเข้าจากทั่วโลกได้เจรจาการค้ากับผู้ส่งออกไทยในช่วงที่ยังต้องรักษาระยะห่าง หรือ Social Distancing กันอยู่ เพื่อให้ผู้ส่งออกไทยไม่เสียโอกาสทางการค้า และยังถือเป็นการกระตุ้นให้ผู้ส่งออกสินค้าไลฟ์สไตล์และแฟชั่นของไทยมีความพร้อมในการทำธุรกิจการค้าระหว่างประเทศอยู่ตลอดเวลา
“LOVE ถือเป็นกิจกรรมออนไลน์แบบไฮบริดครั้งแรกของโลก เป็นการผสมผสานระหว่าง 2 กิจกรรมเข้าด้วยกัน ได้แก่ กิจกรรมการจับคู่เจรจาการค้าออนไลน์แบบ One-on-One Online Business Matching พร้อมส่วนจัดแสดงสินค้าตัวอย่างเพื่อนำเสนอแก่ผู้ซื้อแบบ Live Streaming ควบคู่กับการนำเสนอสินค้า โดยผู้ซื้อ ผู้นำเข้า สามารถชมงานแสดงสินค้า STYLE Bangkok เสมือนจริง หรือ Virtual Exhibition ผ่านเว็บไซต์ www.stayinstylebangkok.com และเข้าร่วมกิจกรรมจับคู่เจรจาการค้าออนไลน์ โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้จัดเตรียมอุปกรณ์ ระบบ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ตลอดจนล่ามแปลภาษาไว้ให้บริการ หรือสามารถเจรจาการค้าออนไลน์ ณ บริษัทของผู้ประกอบการตามความสะดวก”
ในขณะนี้ มีผู้ซื้อและผู้นำเข้าลงทะเบียนเข้าสู่ระบบจำนวน 118 ราย จาก 31 ประเทศ โดย 5 ประเทศที่ลงทะเบียนสูงสุด ได้แก่ เมียนมา สหรัฐอเมริกา อินเดีย จีนและญี่ปุ่น มีการจับคู่เจรจาซึ่งได้รับการยืนยันตอบรับแล้วจำนวน 103 คู่ จาก 14 ประเทศ และรอการตอบรับนัดหมายอีก 134 คู่ ในขณะที่ผู้ผลิตและผู้ส่งออกสินค้าไลฟ์สไตล์และแฟชั่นของไทย ได้แสดงความสนใจลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมทั้งสิ้น 187 บริษัท คาดว่าจะสามารถสร้างมูลค่าการส่งออกทันทีและภายใน 1 ปี ได้มากกว่า 1,000 ล้านบาท
สำหรับการจับคู่เจรจาการค้าออนไลน์ในครั้งนี้ แบ่งกลุ่มผู้ซื้อสินค้าออกเป็น 4 กลุ่มตามความต้องการของผู้ซื้อทั่วโลก ได้แก่ Host & Home เจาะกลุ่มผู้ซื้อกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โรงแรม ร้านอาหาร และโปรเจกต์ต่างๆ Gifts for All เจาะกลุ่มผู้ซื้อกลุ่มห้างสรรพสินค้า ร้านค้าปลีกประเภทคอนเซ็ปท์ สโตร์ ซีเล็คเต็ดช็อป Fashion in Love เจาะกลุ่มผู้ซื้อสินค้าสิ่งทอ แฟชั่น เครื่องหนัง กระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้ากีฬา ตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ รวมถึงสินค้าที่ตอบโจทย์วิถีชีวิต New Normal และ The Niche เจาะกลุ่มผู้ซื้อตลาดเฉพาะที่มีกำลังซื้อสูง ได้แก่ สินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยง (Pet) สินค้าผู้สูงอายุ (60+) และสินค้าแม่และเด็ก (Mom & Kids)
อย่างไรก็ตามในส่วนของผู้ประกอบการไทยจำเป็นปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาด เตรียมพร้อมในการเข้าถึงลูกค้าและแสวงหาช่องทางการตลาดใหม่ๆ การค้าออนไลน์จะกลายเป็นสิ่งจำเป็นในการทำธุรกิจ รวมถึงการปรับปรุงและพัฒนาสินค้าใหม่ๆ ให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไปตามสถานการณ์ เช่น ในสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา ผู้ประกอบการกลุ่มสินค้าสิ่งทอหันมาให้ความสำคัญกับการผลิต Functional Textile พัฒนาเสื้อผ้า ยูนิฟอร์มป้องกันเชื้อโรคให้บุคคลกรทางการแพทย์ ผู้ประกอบการเสื้อผ้าแฟชั่นที่ปรับตัวโดยนำวัตถุดิบ เครื่องจักร และฝีมือแรงงานมาผลิตหน้ากากผ้าป้องกันเชื้อโรคในภาวะที่สินค้าขาดตลาด หรือหันมาพัฒนาสินค้าตกแต่งบ้านที่มีฟังก์ชั่นตอบโจทย์การใช้ชีวิตในที่พักอาศัย หรือการ Work from Home มากขึ้น
กิจกรรมจับคู่เจรจาการค้าผ่านช่องทางออนไลน์ (STYLE Bangkok in Lifestyle Online Virtual Exhibition : LOVE) กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-14 สิงหาคมนี้ ณ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศถนนรัชดาภิเษก