นายบุญยง ตันสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ZEN ผู้ประกอบธุรกิจบริการอาหาร (Food Services) เปิดเผยว่า ประเมินภาพรวมธุรกิจร้านอาหารในช่วง 4 เดือนสุดท้ายของปีนี้จะปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ หลังจากรัฐบาลสามารถควบคุมสถานการณ์ของโรค COVID-19 ได้ดี ไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศมาเป็นระยะเวลานาน ส่งผลให้ประชาชนมีความมั่นใจในการใช้ชีวิตนอกบ้าน ขณะที่ร้านอาหารตามสถานที่ต่างๆ สามารถเปิดให้บริการนั่งทานที่ร้านได้ตามปกติ ภายใต้การให้บริการแบบ New Normal ที่ต้องเน้นมาตรการด้านความสะอาดอย่างเข้มงวด ดังนั้นจึงวางเป้าหมายนำบริษัทกลับมาสร้างผลกำไรที่ดีนับตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลังเป็นต้นไป
ทั้งนี้คาดว่าแนวโน้มการดำเนินงานไตรมาส 3/2563 จะปรับตัวดีขึ้น หลังจากลูกค้าทยอยใช้บริการร้านอาหารแบรนด์ต่างๆ ของเซ็น กรุ๊ป เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ที่มีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และคาดว่าไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ปริมาณลูกค้าของร้านอาหารแบรนด์ต่างๆ จะเพิ่มขึ้นกลับมาใกล้เคียงช่วงปกติก่อนที่มีโรคระบาดเกิดขึ้น
ขณะเดียวกันบริษัทได้เน้นเพิ่มขีดสามารถการทำกำไรที่ดีขึ้น จากการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารต้นทุนและควบคุมค่าใช้จ่าย การปรับพอร์ตโฟลิโอแบรนด์ร้านอาหารโดยมุ่งเน้น 7 แบรนด์หลักที่สามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วและได้รับผลกระทบไม่มากในช่วงที่ผ่านมา การพัฒนาเมนูอาหารใหม่ๆ เพื่อเพิ่มความหลากหลาย การกระจายสัดส่วนรายได้จากช่องทางเดลิเวอรี่ รวมถึงการปรับโครงสร้างการบริหารจัดการภายในองค์กรที่ดำเนินการไปแล้วเพื่อรับกับเป้าหมายที่ต้องการกลับมาสร้างการเติบโตที่ดี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“เรามั่นใจว่าผลการดำเนินงานของบริษัทได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา โดยภาพรวมการดำเนินธุรกิจในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายนที่ผ่านมาปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ และหากรัฐบาลมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและมาตรการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค รวมถึงเริ่มทยอยเปิดประเทศให้ชาวต่างชาติบางส่วน สามารถเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทยได้บ้างภายใต้มาตรการตรวจคัดกรองและเฝ้าระวังอย่างรัดกุม ก็จะส่งผลดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจและมั่นใจว่าบริษัทจะสามารถทำผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังกลับมามีกำไรได้ตามเป้าหมาย”