ช่วง 2-3 ปีมานี้ประเทศไทยอากาศแปรปรวนมาก บางพื้นที่ประสบภัยแล้งยาวนาน ยังไม่ทันข้ามคืนเกิดน้ำท่วม บางพื้นที่มีฝนตกก็กลับมาแล้งอีก สร้างความเสียหายให้กับประชาชน พื้นที่เกษตร และภาคส่วนต่างๆ ได้รับผลกระทบถ้วนหน้า
นาวาอากาศเอกสมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ล่าสุดช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา พายุซินลากู ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุระดับ 1 (หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง) ปกคลุมบริเวณภาคเหนือตอนบน กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกอย่างช้าๆ คาดพายุนี้จะเคลื่อนเข้าสู่เมียนมาในระยะต่อไป อนึ่ง ร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือ เข้าสู่พายุระดับ 1 (หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง) ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคใต้ ขอให้ประชาชนระวังผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมาก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก
“ตอนนี้มีหย่อมความกดอากาศต่ำก่อตัวอยู่ทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์ ยังไม่ได้เคลื่อนตัวเข้าสู่ทะเลจีนใต้ และยังไม่มีชื่อพายุอย่างเป็นทางการ ทางกรมอุตุฯ กำลังเฝ้าจับตาอยู่ ถ้าถามว่าพายุที่จะมาคาดการณ์ว่าจะเป็นตัวนี้ อย่างไรก็ดีเป็นปกติในช่วงเดือนสิงหาคมถึงตุลาคมของทุกปีจะมีพายุเข้าไทย 1-2 ลูก จะมีผลกระทบกับไทยคงต้องติดตามว่าพายุนี้จะเข้ามาตรงหรือเข้ามาโดยอ้อม อย่างพายุซินลากู ก็ลดความรุนแรงลงมา คาดการณ์ว่าจะเคลื่อนตัวไปเวียดนามหรือประเทศลาว ทั้งนี้ขอให้ประชาชนรับฟังการแจ้งเตือนจากในพื้นที่ และรายงานจากกรมอุตุนิยม วิทยาอย่างใกล้ชิด”
ด้านเตือนภัยพิบัติ วาตภัย ฝนฟ้าพายุเพจ 2 โพสต์พายุลูกใหม่ที่น่าจับตามอง ซึ่งอัพเดทด้วยระบบซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ทันสมัยสมรรถนะสูง อัพเดตแบบจำลองวันที่ 8-9 สิงหาคม 2563 เป็นชื่อพายุ “ชังมี” ย้ำพายุยังไม่เกิดเป็นเพียงภาพกราฟฟิกและแบบจำลองเท่านั้น รอให้หย่อมความกดอากาศต่ำหมายเลข 3 เข้าสู่ทะเลจีนใต้ก่อน ซึ่งก่อนหน้านี้คาดการณ์ว่าจะมีพายุซินลากู ก็เกิดขึ้นจริง ดังนั้นต้องติดตามว่าจะแม่นยำ และเป็นไปตามคาดการณ์อีกหรือไม่
ด้านนายเดชา นุตาลัย อุปนายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย กล่าวว่า ปีนี้สถานการณ์ชาวนาวิกฤติมาก หลายพื้นที่ต้องซื้อน้ำทำนาจากภัยแล้ง ทำให้ต้นทุนสูงมาก คาดการณ์ผลผลิตข้าวจะมีน้อย ราคาข้าวน่าจะปรับตัวสูงขึ้น ตามกลไกลตลาด มองเป็นโอกาสท่ามกลางวิกฤติ
ขณะที่นายเกษม ผลจันทร์ นายกสมาคมผู้รวบรวมและจำหน่าย เมล็ดพันธุ์ข้าว กล่าวว่า ปีนี้ผู้รวบรวมและจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ขาดทุน โดยเฉพาะพันธุ์ข้าวหอมปทุมธานี จากชาวนาหันไปปลูกข้าวอายุสั้นเป็นส่วนใหญ่ เพราะถ้าฝืนปลูกน้ำหลากมาจะเสียหายจากเกี่ยวข้าวไม่ทัน
หน้า 9 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,598 วันที่ 6 - 8 สิงหาคม พ.ศ. 2563