นางสาววรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทยังคงมุ่งมั่นในการนำเทคโนโลยีเข้าสร้างประสบการณ์การช็อปปิ้งรูปแบบใหม่ให้กับลูกค้า พร้อมวางกลยุทธ์พัฒนาบริษัทให้เป็น Omni Channel Retailers ด้วยการนำดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชัน มาเป็นตัวช่วยในการวางแพลทฟอร์มช่องทางการจำหน่ายสินค้าให้มากที่สุด ครบทุกช่องทางที่สุด ทั้งทางออฟไลน์ ออนไลน์ เพื่อความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้า และก่อให้เกิดประสบการณ์แห่งการช้อปปิ้งแบบไร้รอยต่อ หลังสถานการณ์โควิด-19 ทำพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป เกิดเป็น Now Normal หรือพฤติกรรมการใช้ชีวิตแบบใหม่ในยุคปัจจุบัน
ทั้งนี้บริษัทมองว่าการทำตลาดยุคนี้ต้องมีความเข้าใจในพฤติกรรมของลูกค้าที่มีความซับซ้อนขึ้น การวางกลยุทธ์การตลาดจึงจำเป็นต้องอาศัยการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก จึงมีการใช้หนึ่งในกุญแจสำคัญคือการจับมือกับ IBM นำเทคโนโลยี IBM Cloud Pak for Data System มาเป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์เชิงลึกของพฤติกรรมผู้บริโภค ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ได้รับการควบคุมกำหนดค่าไว้ก่อนแล้ว บนสภาพแวดล้อมของระบบ Red Hat OpenShift ที่มีความปลอดภัยและเปิดให้เข้าถึงบริการด้านดาต้าและเอไอระดับโลก สร้างมุมมองเชิงลึกแบบเรียลไทม์เกี่ยวกับรูปแบบการช็อปปิ้งและสินค้าที่ลูกค้าต้องการ โดยใช้ประโยชน์จากข้อมูลการใช้จ่ายของฐานลูกค้าหลักของศูนย์ฯ ซึ่งประกอบไปด้วยลูกค้า M Card ซึ่งมีกว่า 4 ล้านราย, ลูกค้า SCB M VISA ที่มีกว่า 6 แสนราย และลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าในเครือเดอะมอลล์ กรุ๊ป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“เราเชื่อมโยงทุกแพลตฟอร์มไม่ว่าจะเป็น on-premise หรือคลาวด์อย่างไร้รอยต่อ เพื่อให้สามารถนำเสนอโปรโมชั่นและสิทธิประโยชน์ให้แก่ลูกค้าได้แบบตอบโจทย์รายบุคคล สร้างประสบการณ์แบบไร้ขีดจำกัดไม่ว่าลูกค้าออนกราวด์ที่มาเดินช็อปปิ้งในห้างหรือช็อปปิ้งออนไลน์ที่บ้าน หรือใช้สิทธิพิเศษของห้างผ่านสมาร์ทโฟน จึงสำคัญมากที่ระบบหลังบ้านต้อง integrate กัน สามารถให้มุมมองแบบ single view และเรียลไทม์ โดยเป็นการนำ Netezza Performance Server บนเทคโนโลยี IBM Cloud Pak for Data System มาใช้เป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค และนี่คือการปรับตัวเพื่อให้เข้าใจและตอบสนองการใช้ชีวิตวิถีใหม่ที่มีความซับซ้อนขึ้น สอดคล้องกับวิสัยทัศน์โมเดลใหม่โลกธุรกิจรีเทล ในการสร้างมิติใหม่ของศูนย์การค้าแห่งอนาคต ที่จะสร้างความสุขและรอยยิ้มให้แก่ทุกคนในฐานะผู้นำธุรกิจรีเทล มองประสบการณ์ของลูกค้าเป็นองค์รวม เป็นเรื่องที่ต้องเชื่อมโยงอย่างไร้รอยต่อ”
ด้านนายจิรยุทธ์ กาญจนมยูร ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายไอที บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป กล่าวว่า “เทคโนโลยี IBM Cloud Pak for Data ยังมาพร้อมฟังก์ชั่น IBM Watson Studio รวมถึง AutoAI ที่จะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์ข้อมูลของเดอะมอลล์ กรุ๊ป สามารถค้นพบโมเดลและมุมมองเชิงลึกจากข้อมูลที่มีได้โดยไม่ต้องเขียนโค้ดด้วยตัวเอง ด้วยค่าอัลกอริธึมและพารามิเตอร์ที่เหมาะสมกับสถานการณ์ โฟกัสของธุรกิจค้าปลีกและห้างสรรพสินค้าต้องเปลี่ยนจากร้านค้าไปสู่ลูกค้ามากขึ้น และไม่ใช่การมองลูกค้าตามเซ็กเมนต์การตลาดเหมือนในอดีต แต่ต้องเป็นรูปแบบ insights-driven ที่เข้าใจและตอบโจทย์ลงลึกถึงความต้องการและไลฟสไตล์ของลูกค้าแต่ละคน การนำเทคโนโลยีอนาไลติกส์ขั้นสูงและเอไอมาใช้ในครั้งนี้ จะทำให้ประสิทธิภาพการวิเคราะห์ข้อมูลของเดอะมอลล์ กรุ๊ป เร็วขึ้นถึง 60 เท่า ถือเป็นปรากฎการณ์ใหม่ของวงการธุรกิจรีเทลในประเทศ”
อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา เดอะมอลล์ กรุ๊ป ยังได้นำเทคโนโลยีจากไอบีเอ็มเข้าสร้างประสบการณ์การช็อปปิ้งให้แก่ลูกค้ามาอย่างต่อเนื่อง หนึ่งในนั้นคือการนำเทคโนโลยี API (Application Programming Interface) เข้าสร้างประสบการณ์การแลกพอยท์ M Card แบบเรียลไทม์ให้แก่ลูกค้า โดยการที่เดอะมอลล์ กรุ๊ป นำเทคโนโลยีอนาไลติกส์ขั้นสูงและเอไอมาใช้ในครั้งนี้ ยังเป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการสร้างประสบการณ์ช็อปปิ้งแบบ Omni Channel เต็มรูปแบบ ที่จะเป็นก้าวต่อไปในอนาคตอันใกล้นี้