นายธันยเชษฐ์ เอกเวชวิท กรรมการผู้จัดการ บริษัท แมคไทย จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจอาหารบริการด่วน (QSR) ภายใต้แบรนด์ “แมคโดนัลด์” ในประเทศไทย เปิดเผยว่า การเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมาถือเป็นวิกฤติที่ส่งผลกระทบในวงกว้าง โดยเฉพาะต่อธุรกิจด้านการท่องเที่ยว และผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมหรือ SMEs อย่างไรก็ดี กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจที่วางไว้สามารถรองรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ดี ไม่ว่าจะเป็นบริการดีลิเวอรีและไดรฟ์ ทรู
สำหรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในครึ่งปีหลัง บริษัทจะเดินหน้าภายใต้ 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ 1. การพัฒนาเมนูใหม่โดยมุ่งเน้นความคุ้มค่า (Value) ซึ่งจากการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคพบว่า ด้วยสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันผู้บริโภคต้องการความคุ้มค่า และหลากหลาย จึงเริ่มปรับเปลี่ยนเมนูให้รองรับ เช่น โจ๊กไก่ใส่ไข่ ในราคาเดิม เป็นต้น 2. การสร้างความสัมพันธ์ของแบรนด์ต่อผู้บริโภค (Brand Relevancy) ผ่านกลุ่มครอบครัว ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก และขยายกลุ่มลูกค้าใหม่ ด้วยการสร้างประสบการณ์ใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการ เช่น การรีโนเวตสาขาใหม่ ในสไตล์มินิมอล ฯลฯ และ 3. การสร้างความสะดวกสบาย (Convenience) ผ่านบริการ 3D ได้แก่
Delivery, Drive Thru และ Digital
“สาขาใหม่ของแมคโดนัลด์ ในสไตล์มินิมอล ดีไซน์ เพิ่มพื้นที่ Co-working Space มากขึ้น เพื่อตอบโจกย์กลุ่มเจนเนอเรชั่น Y และ เจนเนอเรชั่น Z มากขึ้น ซึ่งในปีที่ผ่านมา มีการปรับโฉมใหม่ไปแล้ว 14 สาขา ซึ่งพบว่ามีลูกค้าเข้ามาใช้บริการและทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้น 5-10% ในปีนี้จึงมีแผนรีโนเวทอีก 20 แห่ง ขณะที่ไดร์ฟ ทรูมีให้บริการ 79 สาขา และจะขยายเพิ่มขึ้นในอนาคต”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แมคโดนัลด์ ดึง Global Design ปรับโฉม 15 สาขา
นอกจากนี้จากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้พบว่า การให้บริการดีลิเวอรีและไดรฟ์ ทรูสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี ด้วยศักยภาพที่มีจึงมองว่า ยังมีโอกาสที่จะขยายได้อีกมาก โดยปัจจุบันแมคโดนัลด์มีบริการดีลิเวอรีใน 185 สาขา จากสาขาทั้งสิ้น 220 สาขาโดยในปีที่ผ่านมามีสัดส่วนยอดขายราว 15% ขณะที่ช่วงโควิด-19 มียอดขายเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 30% ทำให้คาดว่าในปีนี้จะมีสัดส่วนยอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 25%
ขณะเดียวกันบริษัทจะให้ความสำคัญกับดิจิทัลผ่านช่องทางแมคโดนัลด์ แอพพลิเคชั่น ซึ่งปัจจุบันมีผู้ใช้มากกว่า 1.2 ล้านคน โดยบริษัทมีแผนใช้ดิจิทัลเข้ามาเพิ่มความถี่ในการใช้บริการหน้าร้านและสร้าง engagement กับลูกค้า และวางแผนพัฒนาการจัดทำโปรโมชันเฉพาะบุคคล ผ่าน AI โดยตั้งเป้าหมายที่จะมีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นเป็น 4 ล้านคนในปี 2564 และบริษัทเตรียมใช้งบ 30 ล้านบาท ในการจัดทำแคมเปญผ่านไวรัลคลิป ภายใต้แนวคิด สุขเต็มแมค (Forever Joy) ในเดือนกันยายน เพื่อสร้างการรับรู้และตอกย้ำแบรนด์ รวมทั้งจับมือกับททท. ส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ ผ่านบริการไดรฟ์ ทรู และกิจกรรม CSR มอบของเล่นให้กับน้องๆ ในโรงเรียนตำรวจตระเวณชายแดนด้วย
นายธันยเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ในปีนี้บริษัทขยายสาขาใหม่เพิ่ม 4-5 สาขา ขณะที่ในปีหน้าจะขยายสาขาเพิ่ม 7-10 สาขา โดย 50-60% จะเป็นสาขาไดรฟ์ ทรู พร้อมขยายสาขาไปยังหัวเมืองรองเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันที่มีสาขาครอบคลุมในหัวเมืองหลักแล้ว 45 จังหวัด
อย่างไรก็ดีผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้ในเดือนเมษายน-พฤษภาคม ยอดขายหายไปเกือบ 50% และขณะนี้ยังมีสาขาในโซนท่องเที่ยวที่ยังไม่เปิดให้บริการอีกราว 20 สาขา ดังนั้นคาดว่าในปีนี้รายได้รวมของบริษัทจะติดลบ 10-15% โดยคาดหวังว่าในไตรมาส 4 สถานการณ์ต่างๆ จะดีขึ้น ขณะที่ภาพรวมนักท่องเที่ยวต่างชาติน่าจะกลับมาได้อย่างเร็วที่สุดในไตรมาสแรกของปี 2564
หน้า 21-22 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,602 วันที่ 20 - 22 สิงหาคม พ.ศ. 2563