ศาลล้มละลาย นัด "การบินไทย" ฟังคำสั่งฟื้นฟู 14 ก.ย.นี้
ศาลล้มละลายกลาง นัดฟังคำพิพากษา อนุญาต ให้ "การบินไทย" ฟื้นฟูกิจการ หรือไม่ ในวันที่ 14 ก.ย.นี้ สรุปมีเจ้าหนี้รายย่อยขอถอดคำร้องคัดค้านรวม 5 ราย
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก ศาลล้มละลายกลาง โดยระบุว่า วันนี้ (25 ส.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 9.30 น. ซึ่งเป็นวันนัดไต่สวนพยาน ผู้คัดค้าน ในคดีหมายเลขดำที่ ฟฟ10/2563 ระหว่างบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือผู้ร้องขอ และลูกหนี้ หรือผู้คัดค้าน ซึ่งเป็นวันนัดครั้งสุดท้าย
โดยศาลได้นัดไต่สวนพยานผู้คัดค้านที่ 11 รวม 1 ปาก คือ บริษัทดาต้าโปรดักซ์ ทอปปัง ฟอร์ม จำกัด ทั้งนี้ทนายผู้ร้องขอถามค้านพยานปากนี้จนจบปาก แล้วทนายผู้คัดค้านที่ 11 แถลงติดใจไต่สวนเพียงเท่านี้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิดลิสต์เจ้าหนี้ 137 ราย หนุนฟื้นฟู “การบินไทย” ฉลุย
ไต่สวน “การบินไทย” นัด 2 เจ้าหนี้ข้องใจเงินหาย 1 หมื่นล.
การบินไทย แจงเหตุผลจ้างอีวาย-กระแสเงินสดลด9พันล.
เปิดลิสต์16เจ้าหนี้ค้าน‘การบินไทย”ปม"อีวาย"บริหารแผนฟื้นฟู
ทุจริตในองค์กร-ซื้อฝูงบินยุคทักษิณ ฉุด “การบินไทย” ดิ่งเหว
สุดอ่วม การบินไทย ครึ่งแรกปี63 ขาดทุน 2.8 หมื่นล้าน
คดีเสร็จการไต่สวน ให้ นัดฟังคำพิพากษา หรือ คำสั่งในวันที่ 14 ก.ย.2563 เวลา 10.00 น. โดยอนุญาตให้คู่ความและผู้คัดค้านยื่นคำแถลงการณ์ปิดคดีได้ภายใน 7 วันนับแต่วันนี้มิฉะนั้นถือว่าไม่ติดใจ
สำหรับการนัดไต่สวนในครั้งนี้ ผู้รับมอบฉันทะทนายผู้คัดค้านที่ 1 ถึงที่ 10 ได้ยื่นคำร้องขอถอนคำคัดค้านของผู้คัดค้านรายที่ 5 และรายที่ 7 ว่าไม่ประสงค์จะคัดค้านคำร้องขอ ซึ่งระบุถึงเหตุผลว่า เนื่องจากลูกหนี้ได้ติดต่อมายังเจ้าหนี้ และได้มอบ Voucher (วอยเชอร์) เป็นการ Refund (รีฟันด์) แก่เจ้าหนี้แล้ว จึงขอถอนการคัดค้านฟื้นฟูกิจการ
โดยศาลได้สอบทนายผู้ร้องขอแล้ว ทนายผู้ร้องขอชี้แจงว่า ที่ระบุในคำร้องขอถอนคำคัดค้านว่าลูกหนี้ผู้ร้องขอได้ติดต่อผู้คัดค้านที่ 5 และที่ 7 เพื่อส่งมอบวอยเชอร์นั้น ไม่เป็นความจริง ลูกหนี้ผู้ร้องขอไม่เคยติดต่อไปหาผู้คัดค้านที่ 5 และที่ 7 ตามคำร้องที่ผู้คัดค้านที่ 5 และที่ 7 อ้างต่อศาลแต่อย่างใด ทั้งนี้ การให้วอยเชอร์ดังกล่าวแก่กลุ่มลูกค้ารีฟันด์ เป็นนโยบายโดยทั่วไปของลูกหนี้อยู่แล้ว แต่ในชั้นนี้ไม่ติดใจคัดค้านคำร้องของผู้คัดค้านที่ 5 และที่ 7 ศาลจึงอนุญาตให้ผู้คัดค้านที่ 5 และที่ 7 ถอนคำร้องคัดค้านตามขอ
ทั้งนี้บรรยากาศของการไต่สวนพยานผู้คัดค้านที่ 11 ในวันนี้ ทนายผู้ร้องได้สอบพยานในหลายประเด็น อาทิ การทำความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับการบินไทย สถานการณ์ของการบินไทยช่วงที่ผ่านมา รวมถึงข้อซักถามในช่วงสถานการณ์ โควิด 19 ที่ผ่านมาผู้คัดค้านทราบหรือไม่ว่า มีหลายสายการบินที่เข้าแผนฟื้นฟูกิจการเหมือนดังเช่นการบินไทย อาทิ เจแปน แอร์ไลน์ และปัจจุบันก็สามารถประกอบกิจการได้ตามปกติแล้ว ,หรือผู้คัดค้านทราบหรือไม่ว่ากว่า 40 ปีของการบินไทยในการขนส่งผู้โดยสารเข้าประเทศ สร้างรายได้กี่ล้านล้านบาท หรือแม้กระทั่งถ้าต้องปิดกิจการจะทราบหรือไม่ว่าจะมีผู้ตกงานกว่า 2 หมื่นราย ซึ่งทั้งหมดผู้คัดค้านไม่สามารถตอบข้อซักถามของทนายได้
ทั้งยังระบุว่าไม่ทราบว่าจะทำอย่างไรถ้าหากบริษัทไม่สามารถประกอบกิจการเพื่อสร้างรายได้ ในขณะที่มีปริมาณค่าใช้จ่ายเท่าเดิมหรือลดลงเพียงเล็กน้อย แม้จะให้การต่อศาลว่ารับรู้สถานะทางธุรกิจและการเงินของการบินไทยผ่านข่าวสาร และทราบว่ามีสายการบินต่างชาติขนาดใหญ่อีกหลายสายการบินที่ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการขณะใล้ล้มละลาย
นอกจากนี้ผู้คัดค้านยังระบุว่า ไม่ทราบว่าการยื่นคัดค้านดังกล่าวจะกระทบต่อคู้ค้า อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น ในส่วนของการบินไทยสร้างรายได้เข้าประเทศมหาศาลกว่า 1.1 ล้านล้านบาทต่อปี หรือคิดเป็น 7.15% ของจีดีพีประเทศ ก่อให้เกิดการจ้างงานกว่า 1.3 ล้านคน หรือคิดเป็น 3.60% ของแรงงานทั่วประเทศ ซึ่งการยื่นคัดค้านดังกล่าวจะส่งผลกระทบเทียบเท่าอัตราการติดลบกว่า 7.9 แสนล้านบาท ที่เสียหายไปนั้น จะก่อให้เกิดความเสียหายด้านเศรษฐกิจมหาศาล ผู้คัดค้านรับทราบความเสียหายดังกล่าวหรือไม่ เป็นต้น
อย่างไรก็ตามการยื่นขอพิจารณาแผนฟื้นฟูกิจการ และแต่งตั้งผู้ทำแผนครั้งนี้ มีเจ้าหนี้รายย่อยของการบินไทยยื่นคัดค้านรวม 16 ราย อาทิ เจ้าหนี้บัตรโดยสาร และเจ้าหนี้จากบริษัท โดยระหว่างการสอบพยานรวม 3 นัด เจ้าหนี้ผู้คัดค้านได้ยื่นถอนคำคัดค้านรวม 5 ราย ประกอบไปด้วย ผู้คัดค้านที่ 4 ผู้คัดค้านที่ 5 ผู้คัดค้านที่ 7 ผู้คัดค้านที่ 8 และผู้คัดค้านที่ 16