เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2563 ที่ผ่านมา ยางแผ่นรมควันชั้น3 ทำนิวไฮ ราคา 61.95 บาท/กก. ยิ่งกว่าฝนดาวตก และวูบหายไป วันนี้ราคากลับมายืนที่ 56.10 บาท/กก. เกิดอะไรขึ้น และจากผลราคาในวันนี้แน่นอนมีความเคลื่อนไหวทั้งชาวสวนยางและสถาบันเกษตรกร ตามลำดับ
ดร.ปรีดี ลีลาเศรษฐวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แกรนด์ รับเบอร์ จำกัด เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าสถานการณ์ราคายางประจำวันนี้ (8 กันยายน 2563) ราคายางแผ่นรมควันปรับตัวตามกลไกตลาด ขณะที่ปริมาณยางออกสู่ตลาดมากขึ้น ย้อนกลับไปเหตุการณ์ก่อนนี้ตอนช่วงราคายางแผ่นรมควันปรับขึ้น เพราะความต้องการสูง เนื่องจากผู้ส่งออกต้องการซื้อส่งมอบให้กับลูกค้า พอได้ของครบแล้วก็จะชะลอซื้อ ซึ่งเป็นไปตามกลไกตลาด ที่สำคัญก็มีชนิดยางชนิดเดียวที่ปรับขึ้นสูง ขณะที่ยางชนิดอื่นไม่ได้วิ่งตามราคาขึ้นไป มองดูแล้วว่าไม่ใช่ความต้องการพื้นฐานที่แท้จริง เพราะฉะนั้นในราคาดังกล่าวนี้มีความไม่แน่นอนของราคาผันผวนมาก ส่วนยางแท่งและยางชนิดอื่นสามารถใช้ทดแทนกันได้ เป็นเรื่องสมดุลและกลไกตลาด
“สังเกตตอนที่ราคาปรับขึ้นในรอบนี้ ราคาห่างจากน้ำยางสดหลายบาท ปริมาณยางออกสู่ตลาดมากขึ้น แรงจูงใจราคาทำให้คนหันกลับมาทำยางแผ่นมากขึ้น โดยเฉพาะหลายเจ้าที่เลิกทำไปแล้วก็หันกลับมาทำยางแผ่นมากขึ้น แล้วนี่ยังผลิตไม่ได้เต็มที่ เพราะขาดแคลนแรงงาน แต่ถ้าเมื่อไร หากแรงงานต่างด้าวกลับมาได้ปกติ ก็คิดว่าราคาน้ำยางสดน่าจะแกว่งขึ้น แล้วเมื่อราคาน้ำยางสดปรับขึ้นก็จะเป็นราคาที่น่าเชื่อถือได้ เพราะตอนนี้น้ำยางสดยังดูนิ่ง และในช่วงที่ผ่านมามีพ่อค้ายางแผ่นรมควันทะลักเข้าสู่ตลาดมากได้โอกาสเทขายยางจึงทำให้ลดความร้อนแรงราคายางในตลาดกลางได้มาก ซึ่งตัวนี้มีอิทธิพลแรงกว่าที่ทำให้ราคาปรับลงมาอย่างมีนัยสำคัญ”
ขณะที่นายมนัส บุญพัฒน์ นายสมาคมคนกรีดยางและชาวสวนยางรายย่อย (ส.ค.ย.) กล่าวว่า 3 ตลาดกลาง ได้แก่ นครศรีธรรมราช และสุราษฎรานี เป็นธรรมดาที่ยางจากสถาบันฯและกลุ่มรมรายย่อยย่อมจะต้องคาดคะเนว่ากยท.ต้องเข้ามาพยุงตลาด แต่ละส่วนจึงจำเป็นต้องขนยางเท่าที่มือยู่เข้ามาขายเพื่อหวังลดความเสี่ยง แต่ตลาดกลางสงขลาที่มีปริมาณยางสูงถึง 700 กว่าตัน และสูงมากในรอบหลายปี ทั้งที่กำลังในการแปรรูปทั้งของสถาบันฯ และผู้ประกอบกิจการรมรายย่อยรวมกัน วันละน่าจะไม่ถึง 100 ตัน กยท.และหน่วยงานของราชการที่มีอำนาจในการตรวจสอบการทุจริตต้องตรวจสอบเรื่องนี้ให้กระจ่าง เพราะมันมีผลต่อการหากินเข้าพกเข้าห่อต่อการใช้เงินของราชการ อย่าปล่อยให้คนคิดหากินชั่วๆลอยนวล วันนี้เวลา 2 ทุ่ม จะมี ไลฟ์สด เฟสบุคส์ เชนทร์ มนัส
ส่วนสถาบันเครือข่ายสถาบันเกษตรกรขาวสวนยาง จังหวัดนครศรีธรรมราช นำโดย นายบรรจงกิจ บุญโชติ ประธานเครือข่ายฯ ยื่นอหนังสือถึงผู้อำนวยการตลาดกลางยางพาราจังหวัดนครศรีธรรมราช เรื่องให้ยึดถือข้อตกลงที่ทำไว้กับสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางเคร่งครัด เนื่องด้วยราคายางแผ่นรมควันชั้น3 ได้ตกลงอย่างผิดสังเกต วันนี้ทางเครือข่ายร่วมกับชุมนุมสหกรณ์กองทุนสวนยางจังหวัดนครศรีธรรมราช จำกัด มีมติ ดังนี้ 1.ราคายางแผ่นรมควันชั้น 3 ลดลงไม่เกินวันละ 2 บาท/กก. ตามข้อตกลงที่ทำไว้ 2.ถ้าวันไหนไม่มีการประมูลให้หน่วยธุรกิจ (BU) เข้าซื้อทันที และ 3. จะต้องมีการซื้อขายยางแผ่นรมควันชั้น3 ทุกวันทำการ
การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) รายงานสถานการณ์ราคายางประจำวันที่ 8 กันยายน 2563 ราคากลางยางพารา ยางแผ่นดิบอยู่ที่ 55 .1 บาท/กก. ปรับราคาลงมาจากวันที่ 3 กันยายน 2563 อยู่ที่ 1.45 บาท เช่นเดียวกับราคายางแผ่นรมควันชั้น3 ราคาอยู่ที่ 56.10 บาท ปรับลดลงมาอยู่ที่ 3.89 บาท/กก. ราคายางได้ปัจจัยกดดันจากค่าเงินเยนที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐรวมถึงผู้ประกอบการภายในประเทศชะลอการซื้อขายเนื่องจากความไม่แน่นอนของราคาที่ผันผวนในช่วงวันหยุดที่ผ่านมารวมถึงราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง
อย่างไรก็ตามจากการที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐนักลงทุนมีความหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านเชื อโควิด-19 ฝนตกในประเทศผู้ผลิตยางแรงงานกรีดและผลิตยางขาดแคลนเป็นปัจจัยสนับสนุนราคายาง นักลงทุนยังคงติดตามเศรษฐกิจโลกอย่างใกล้ชิด
ด้านนายเขศักดิ์ สุดสวาท เลขาเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางระดับประเทศ กล่าวว่า รู้สึกไม่แปลกใจ เพราะยางขึ้นชนิดเดียว ดูราคาประกันรายได้ อาทิ ยางแผ่น 60บาท/กก. น้ำยางสด 57 บาท/กก. น้ำยางก้อนถ้วย 46 บาท/กก. ซึ่งในวันที่ 2 ก.ย. ที่ผ่านมายางแผ่นปรับราคาขึ้นไป 61.59 บาท/กก. ทำนิวไฮ แต่ ผมยังเฉยๆเพราะ น้ำยางสด 46 บาท/กก. น้ำยางก้อนถ้วย 38 บาท วันนี้น้ำยางก้อนถ้วยก็ปรับราคาลงมาอีก 1.45 บาท/กก. มองว่าเป็น "เกมส์ป่วนตลาด"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง