โรงสีเฉ่งยับ “ข้าวพื้นนุ่ม” ขายไม่ออก

12 ก.ย. 2563 | 09:45 น.
อัปเดตล่าสุด :14 ก.ย. 2563 | 11:32 น.

ร้องระงม "โรงสี-ผู้จำหน่ายเมล็ดพันธุ์" กอดข้าวพื้นนุ่ม “กข79, กข43, กข87 ,หอมปทุมธานี” เจ๊งยับขายไม่ออก ป่วนตลาดเละ “ชาวนา-พ่อค้า” ย้อมแมวขายข้าวลามชิ่งกระทบข้าวนึ่ง โรงงานก๋วยเตี๋ยว-เส้นหมี่-เส้นขนมจีน โดนตีกลับอ้างด้อยคุณภาพ

แหล่งข่าววงการค้าข้าว เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” อย่างตรงไปตรงมา เนื่องจากเวลานี้ทั้งนโยบายรัฐ และ  รัฐมนตรี 2 กระทรวง "เกษตรฯ และ พาณิชย์"  ต่างเห็นพ้องการที่จะส่งเสริมให้ชาวนาปลูกข้าวพื้นนุ่ม ทราบหรือไม่ว่า ตอนนี้กลายเป็นตัวปัญหาของตลาด เนื่องจาก "ข้าวนึ่ง" เป็นที่ต้องการตลาดมาก ทำให้พ่อค้า-ชาวนา สวมขายเป็นข้าวชนิดแข็ง เมื่อข้าวพื้นนุ่มไปนึ่งจะทำให้ข้าวไม่ร่วน ทำให้สินค้าโดนตีกลับ แล้วยังลามไปถึงอุตสาหกรรมต่อเนื่อง เช่น  อุตสาหกรรมเส้น อาทิ  ก๋วยเตี๋ยว เส้นหมี่ เส้นขนมจีน จะต้องใช้ปลายข้าวทีมีอมิโรสสูง แต่พอไปเจอข้าว “กข79"  เข้าไป ปรากฏว่าเส้นขนมจีนขาดเลย ใช้ไม่ได้โรงสีที่ทำข้าวแข็ง หวังจะขายปลายข้าวไปโรงงานเส้นก๋วยเตี๋ยว ตอนนี้ลำบากแล้วไม่รู้จะไปทางไหน

อัพเดท นายกโรงสีฯ ออกโรงห้ามทัพก่อนจะบานปลาย แนะกรมการข้าวเติมสีเมล็ดข้าวเปลือก ลดปัญหาผสมปลอมปน หรือรับซื้อข้าวเปลือกผิดประเภท อ่านเพิ่มเติม

ตารางรายงานข้าวขายส่งตลาดกรุงเทพฯ สมาคมโรงสีข้าวไทย

 

“ฝ่ายทางรัฐมนตรีช่วยเกษตรฯ  ก็บอกว่าต้องทำข้าวนุ่ม 3 ล้านไร่ สอดประสานกับสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยก็บอกว่าตลาดต้องการข้าวนุ่ม ให้ผลิตเยอะ แต่วันนี้คุณเห็นราคาข้าวนุ่มไหม มีการโค้ดราคาข้าวกข79 หรือไม่ ในตลาด เคยเห็นสมาคมผู้ส่งออกโค้ดราคา “กข43” ในตลาด หรือตารางการซื้อขายผู้ส่งออกหรือไม่ ทำไมไม่โค้ด เพราะอะไร ตลาดแคบ กินอยู่แค่ตรงนี้ เวลาไปซื้อชาวนาผสมมาขายพ่อค้า แล้วมาขายโรงสีรับซื้อไป โรงสีก็ไปไม่เป็น ขณะนี้ปลายข้าวก๋วยเตี๋ยว ยังผวาเลยเกรงว่าจะมีปลายข้าวปทุมธานีไปผสมหรือเปล่า เพราะถ้าไปผสมลูกค้าตีกลับไม่เอา”

 

ราคาข้าวสารส่งออก (เอฟ.โอ.บี.) สมาคมส่งออกข้าวไทย
 

แหล่งข่าว กล่าวอีกว่าว่า ถ้าจะทำข้าวพื้นนุ่มจะต้องกำหนดโซนนิ่งให้ได้ ต้องตรวจจริงพื้นที่ไหนทำข้าวชนิดพื้นนุ่มแล้วที่สำคัญเวลาเกษตรกรขึ้นทะเบียนจะต้องขึ้นทะเบียนเป็น “ข้าวพื้นนุ่ม” อย่าไปลงทะเบียนเป็นข้าวขาวธรรมดาเพื่อรับชดเชยประกันรายได้ แล้วถ้าโรงสีซื้อข้าว ตรงกันข้ามกลับใบลงทะเบียนเกษตรกร ถ้าไม่ตรงก็สามารถปฏิเสธรับซื้อได้หรือปรับลดราคาลงมาได้ เวลาชาวนา-พ่อค้า มาขายบอกว่าเป็นชนิดข้าว  “ข้าวกข79”  เพราะอยากได้ราคา แต่เวลาไปขึ้นทะเบียนเป็นข้าวขาวธรรมดาเพื่อที่จะไปรับชดเชยส่วนต่างจากรัฐบาล แล้วภาระก็ตกกับโรงสีเพราะโรงสีซื้อมาปลายข้าวใช้ไม่ได้ จะไปส่งขายเส้นก๋วยเตี๋ยวไปไม่ได้ ทำอย่างไร พอไปอาหารสัตว์ราคาถูกกว่า แต่บางโรงสีโชคร้ายเข้าใจว่าซื้อข้าวชนิดข้าวแข็งก็นำมาเก็บไว้ แล้วรอไว้ 3-6 เดือน เพื่อรอไว้เก็บขายโรงงานก๋วยเตี๋ยวเส้นหมี่

 

“พอสีแปรมาแล้วไปตรวจดีเอ็นเอไม่ใช่ ทั้งที่ตอนซื้อเข้าใจว่าเป็นข้าวชนิดแข็งโดนย้อมมาผมจะรู้ไหมผมตรวจไม่เจอแล้วข้าวพันธุ์นี้ควรจะทำออกมาให้เป็นข้าวเปลือกคนละสี แล้วไปถามชาวนาว่าจะทำไหม เพราะถ้าทำข้าวเปลือกคนละสีชาวนาจะทำไหม เกิดข้าวนึ่งราคาดี จะมาผสมจะตกเกรดลักษณะเมล็ดจะป่นจะขาวเป็นชอล์ก ซึ่งจะนำไปผสมข้าวนุ่มไม่ได้ แต่ถ้าให้หน่วยงานทำสีข้าวแต่ละชนิดกำหนดให้สีข้าวเปลือกแตกต่างกัน คนทั่วไปจะทราบว่าข้าวผสม แต่ชาวนาไม่อยากได้ ชาวนาอยากได้สีที่เหมือนกัน”

โรงสีเฉ่งยับ “ข้าวพื้นนุ่ม” ขายไม่ออก

 

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า ทราบหรือไม่ว่า ตอนนี้โรงสีที่ซื้อข้าว “ กข43,  กข79, ข้าวหอมปทุมธานี, ซื้อข้าวจัสมิน (หอมพวง) ขายไม่ได้ เพราะไม่มีคนซื้อ  ผมตั้งคำถามว่าไหนบอกว่าตลาดต้องการ คุณเคยเห็น "สมาคมส่งออกข้าว-โรงสีข้าว" ก็ไม่มีโค้ดราคาซื้อข้าวในกลุ่มนี้เพราะไม่มีราคาแจ้ง เป็นการซื้อใต้ดิน ผมอยากจะขายหอมปทุมธานีก็ไม่มีใครเอา แต่อยากได้ข้าวสารหอมปทุมธานี ตันละ 18,000 บาท สามารถนับจำนวนรายซื้อได้เลย  ฝ่ายผู้ส่งออก ที่เคยให้สัมภาษณ์ว่า อยากได้ “กข79” ไม่เห็นมาขายผมเลย แล้วทำไมไม่ประกาศรับซื้อล่ะ แต่ว่าอยากได้ ข้าว “กข79"  ในราคาประมาณ 500 ดอลลาร์ต้นๆ แต่ปัจจุบันคนที่ปลุกข้าวพื้นนุ่มที่ออกมาโรงสีซื้อข้าวเปลือกราคาเทียบเท่าหอมปทุมธานี ซื้อแพงกว่าราคาข้าวเปลือกเจ้าปกติ ราคาไปชิดๆ กับหอมปทุมธานี ก็ทำให้ข้าวเปลือกแพง แล้วจะได้ข้าวราคา 500 ต้นๆ เพื่อจะไปแข่งกับเวียดนามจะได้หรือไม่ ก็ปรากฎว่า "ไม่ได้" เพราะราคาข้าวเปลือกแพงกว่า

 

โรงสีเฉ่งยับ “ข้าวพื้นนุ่ม” ขายไม่ออก

 

ฝ่ายโรงสีเห็นโอกาสว่าตลาดมีความต้องการพอหันไปทำข้าวพื้นนุ่ม ตอนนี้แบกสต็อกข้าวหอมปทุมธานีขายไม่ออก  แม้แต่ "พ่อค้าเมล็ดพันธุ์ข้าว" ที่ผลิตข้าวหอมปทุมธานี ขายไม่ออก เพราะมีสัดส่วน ข้าว กข79  เพิ่มในตลาด ทำให้สัดส่วน ข้าวธรรมดาหายไปส่วนหนึ่ง โดยเฉพาะมีความต้องการข้าวนึ่ง ทำให้บีบราคาสูงขึ้น ข้าวขาววิ่งไล่ยันข้าวปทุมธานี และ ข้าวหอมพวง หรือข้าวจัสมิน แล้วชาวนาและพ่อค้าไม่ต้องพิถีพิถันเกี่ยวปุ๊บขายเป็นข้าวธรรมดา ราคาเดียวกันเพราะข้าวขาวธรรมดาขาดจริง  พอไปรับซื้อนำไปสีแปรปรากฏว่าข้าวหอมปทุมปนมาด้วย ข้าวพื้นนุ่มปนมาด้วย ตอนนี้ชาวนาก็ไม่อยากปลูกเพราะราคาข้าวขาวธรรมดาเท่ากับ "ข้าวหอมปทุมธานี" แล้ว จะทำข้าวหอมปทุมธานีทำไม เพราะข้าวหอมปทุมธานีต้องดูแลประคบประหงมากกว่า ดังนั้นมองว่า "ข้าวพื้นนุ่ม" เป็นตัวอันตรายภัยมืดสำหรับโรงสี ถ้าไม่จัดการให้อยูในที่เฉพาะเกรงว่าจะเป็นตัวปัญหาที่ไปทำลายอุตสาหกรรมเหมือนระเบิดเวลาที่ไม่รู้ว่าจะระเบิดเมื่อไร