ปั้นแบรนด์ "สมุนไพรวังพรม" ครองแชมป์ CLMV

23 ก.ย. 2563 | 09:44 น.

สมุนไพรวังพรม ชูแนวคิด ภูมิปัญญาผสานการนวดไทย ปั้นแบรนด์ยาหม่องไทยสยายปีกประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมยกระดับภาพลักษณ์แบรนด์สู่อินเตอร์ หวังแซงหน้าแบรนด์โลคอลในลาวขึ้นแท่นแชมป์ในซีแอลเอ็มวี

นางสาววัชรีภรณ์ วังพรม กรรมการบริหาร บริษัท สมุนไพรวังพรม จำกัด เปิดเผยว่า สมุนไพรวังพรม ได้เดินหน้าขยายตลาดส่งออกขยายฐานลูกค้าในกลุ่มประเทศ CLMV ตั้งแต่ปี 2560 ซึ่งได้ผลตอบรับจากในประเทศเพื่อนบ้านเป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศลาว ที่มีความชื่นชอบในผลิตภัณฑ์สมุนไพรและมีไลฟ์สไตล์คล้ายกับคนไทย ทำให้ผลิตภัณฑ์ “ยาหม่องสมุนไพรเสลดพังพอน” และยาหมองสูตรอื่นๆ ของแบรนด์สมุนไพรวังพรม ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยภายหลังได้เข้าไปทำตลาดในประเทศลาว หลังฝ่าวิกฤติโควิด-19 ครองส่วนแบ่งตลาดกว่า 60% แซงหน้าโลคอลแบรนด์เจ้าถิ่น พร้อมเร่งทำตลาดในประเทศ “เมียนมาร์” และ “กัมพูชา” ด้วยกลยุทธ์ปั้นแบรนด์สมุนไพรไทย ขยายฐานลูกค้ากลุ่มประเทศ CLMV

ปั้นแบรนด์ \"สมุนไพรวังพรม\" ครองแชมป์ CLMV

ขณะที่ยอดขายในประเทศไทย ไตรมาส 3 เริ่มกลับมามีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง หลังยอดสั่งซื้อเพิ่มมากขึ้นกว่า 50% จากช่วง 2 ไตรมาสแรกเพื่อขยายตลาดและฐานลูกค้าเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากเล็งเห็นว่า ผลิตภัณฑ์สมุนไพรโดยเฉพาะยาหม่องยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก ซึ่งจากการคาดการณ์แนวโน้มในสองประเทศ คาดว่าจะสามารถผลักดันยอดขายให้เติบโตได้ 8-10% ภายในปี 2565

ปั้นแบรนด์ \"สมุนไพรวังพรม\" ครองแชมป์ CLMV

ทั้งนี้ ได้กระตุ้นยอดขายในประเทศผ่านกลยุทธ์ปั้นแบรนด์สมุนไพรไทย ที่เชื่อมโยงกับภูมิปัญญาและการนวดไทยอันเป็นเอกลักษณ์ และได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโก (UNESCO) ให้เป็นตัวแทนมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ได้แก่ 1. เพิ่มกลุ่มผู้บริโภค โดยเน้นขยายฐานลูกค้ากลุ่มคนเมืองและคนรุ่นใหม่ ที่หันมาให้ความสนใจผลิตภัณฑ์สมุนไพรมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติโดยเน้นทำการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์และการจัดโปรโมชั่น ควบคู่ไปกับช่องทางจัดจำหน่ายหน้าร้านสมุนไพรวังพรมและร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศไทย

ปั้นแบรนด์ \"สมุนไพรวังพรม\" ครองแชมป์ CLMV

2. ยกระดับภาพลักษณ์ของแบรนด์ ปัจจุบันผลิตภัณฑ์สมุนไพรวังพรม ไม่เพียงได้รับการยอมรับในกลุ่มประเทศ CLMV เท่านั้น แต่ยังไปถึงประเทศในแถบยุโรป ด้วยการเชื่อมโยงผลิตภัณฑ์เข้ากับเรื่องราวและคุณค่าที่ได้รับการยอมรับในต่างประเทศอย่างแพร่หลาย จะช่วยเสริมภาพลักษณ์แบรนด์ก้าวสู่ระดับสากล ผ่านการเปิดตัวคลิปวิดีโอ “เชิดชูนวดไทย จากสมุนไพรวังพรม” ซึ่งช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ความเป็นไทย และยังช่วยเพิ่มคุณค่าและเรื่องราวให้กับผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยอีกด้วย 3.เตรียมความพร้อมด้านกำลังการผลิต โดยดำเนินการก่อสร้างโรงงานแห่งที่ 2 ภายใต้มาตรฐาน GMP PIC/S อันเป็นมาตรฐานการผลิตยาของประเทศในสหภาพยุโรป มาตรฐานเดียวกับโรงงานผลิตยาสามัญตามประกาศของ อย. ตามเป้าหมายปรับปรุงมาตรฐานการผลิต ของผู้ผลิตยาแผนโบราณขนาดกลางและขนาดเล็ก รวมถึงผู้ผลิตที่ผลิตยาในรูปแบบที่มีความเสี่ยงต่ำในประเทศโดยคาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดดำเนินการภายในปี 2564

ปั้นแบรนด์ \"สมุนไพรวังพรม\" ครองแชมป์ CLMV

นายวุฒิชัย วังพรม กรรมการบริหาร กล่าวว่า สำหรับยอดขายช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ได้รับผลกระทบจากโควิด 19 โดยตรง โดยต้องหยุดการผลิตและปิดโรงงานชั่วคราว เนื่องจากผู้บริโภคชะลอการซื้อกะทันหัน ซึ่งส่งผลต่อยอดจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ ในขณะเดียวกันธุรกิจนวดไทยซึ่งเป็นหนึ่งในลูกค้ากลุ่มใหญ่ จำเป็นต้องหยุดให้บริการอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จึงทำให้ยอดจำหน่ายโดยรวมในช่วงนั้นค่อนข้างชะงักตัว

ปั้นแบรนด์ \"สมุนไพรวังพรม\" ครองแชมป์ CLMV

อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือนกรกฎาคม และ สิงหาคม ที่ผ่านมาเมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ตลาดต่างๆ ของผลิตภัณฑ์สมุนไพรวังพรม เริ่มกลับมามีคำสั่งซื้อและมีแนวโน้มปรับขยายตัวต่อเนื่อง คิดเป็นประมาณ 50%จากช่วงที่มีการระบาดของโควิด 19  ขณะนี้โรงงานต้องเดินสายพานการผลิตอย่างเต็มกำลังและเพิ่มโอทีพนักงาน 100% ซึ่งหากยอดคำสั่งซื้อเป็นเช่นนี้ต่อไป คาดว่าภายในสิ้นปี 2563 สมุนไพรวังพรม จะประคองสถานการณ์ผ่านพ้นช่วงวิกฤติไปได้ โดยมียอดขายตามเป้าหมายที่วางไว้

ทั้งนี้ปัจจุบันสมุนไพรวังพรม ได้ครบรอบ 25 ปี ที่ถือเป็น 1 ใน 5 ผู้นำตลาดยาหม่องในประเทศไทย ที่มีมูลค่าตลาดรวมกว่า 3 พันล้านบาท โดยมีผลิตภัณฑ์ทั้งหมด 6 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มยาดม กลุ่มยาสมุนไพร กลุ่มยาแคปซูล กลุ่มของใช้ส่วนตัว กลุ่มของชำร่วย และกลุ่มยาสำหรับนวด ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับความนิยมสูงสุด โดยเฉพาะ “ยาหม่องสูตรเสลดพังพอน” และ “ยาหม่องสูตรไพล”