นายเกรียงไกร กาญจนะโภคิน ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้บริษัทมีการเพื่อรองรับสถานการณ์ดังกล่าวในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็น การสร้างธุรกิจใหม่ธุรกิจพ่นสเปรย์ฆ่าเชื้อ ภายใต้แบรนด์ KILL & KLEAN จนเป็นที่ยอมรับและประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วภายในระยะเวลา 3 เดือนหลังจากเปิดตัว จนกลายเป็นผู้นำ LEADER HYGIENIC SOLUTION ของประเทศไทย และแม้ว่าวิกฤตโควิด-19 จะคลี่คลายลง แต่แนวโน้มเศรษฐกิจยังเผชิญความไม่แน่นอนสูง จากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ในบางประเทศที่ยังรุนแรง ซึ่งจะทำให้การเปิดพรมแดนระหว่างประเทศของไทยคงเกิดขึ้นอย่างจำกัด ส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวและธุรกิจโรงแรมหดตัวลง 100%
ทั้งนี้ท่ามกลางวิกฤติ ประเทศไทย สามารถพิสูจน์ให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการควบคุมการแพร่ระบาดจนได้รับการยอมรับในระดับโลก ส่งผลให้ธุรกิจ “Healthcare” ในไทยมีการเติบโตมากขึ้น ด้วยปัจจัยหนุนจากภาครัฐ และภาคเอกชนพยายามผลักดันให้ไทยเป็นหนึ่งใน “Medical Hub of Asia” โดยหนึ่งใน Sector ของอุตสาหกรรม Healthcare คือ “ธุรกิจโรงพยาบาล” จึงเป็นการผสมผสานกลยุทธ์ เกิดเป็นธุรกิจใหม่ภายใต้ชื่อแบรนด์ ANYA MEDITEC ด้วยแนวคิด Bring Hospital to Hotel โดยที่ ANYA MEDITEC จะสร้างปรากฎการณ์ New Chapter Healthcare Industry โดยเป็นศูนย์กลางในการเชื่อมโยงระหว่าง Hospital + Hotel + Technology เข้าด้วยกัน ซึ่ง ANYA MEDITEC จะเข้าไปบริหารจัดการวางแผนธุรกิจและวางระบบให้ ตั้งแต่เริ่มต้นกับโรงแรม เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและฟื้นฟูการท่องเที่ยวที่ถือเป็นหัวใจสำคัญๆ ของเศรษฐกิจไทย
นอกจากนี้ ANYA MEDITEC ยังมีพันธมิตรหลักเป็นโรงพยาบาลชั้นนำ และบริษัท เรสท์ เมดิคอล (ประเทศไทย) จำกัด Sleep lab และผู้แทนนำเข้าจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์แบรนด์ Resmed ในประเทศไทย ส่งผลให้สามารถให้บริการด้านการแพทย์ได้หลากหลาย และได้มาตรฐานระดับสากล ซึ่งสิ่งที่โรงแรมจะได้จากการมาเป็นพันธมิตร คือ การเกิดโอกาสในการขยายตัวทางธุรกิจมากขึ้น เช่น ขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ที่ไม่ใช่แค่ลูกค้าที่มาพักผ่อนจากการท่องเที่ยว แต่เป็นกลุ่มท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ที่ทางโรงแรมสามารถต่อยอด สร้างแพ็คเกจให้ตอบโจทย์กับทางบริการของโรงพยาบาล ถือเป็นโอกาสที่ดีของโรงแรมที่จะหันมาโฟกัสในตลาด Wellness ที่ในประเทศไทยยังถือเป็น Blue Ocean อยู่เพราะยังมีผู้ประกอบการในลักษณะ Prevention Hotel/Resort ไม่มากนัก ซึ่งเป็นหลีกหนีการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดโรงแรมปกติและสามารถทำให้เพิ่มรายได้ของโรงแรมให้มากขึ้น
“เราเล็งเห็นปัญหาสุขภาพของคนไทย จึงเริ่มต้น คิกออฟ ด้วยปัญหาหลักของคนเมืองที่กำลังวิกฤติคือ โรคนอนไม่หลับ หรือ การนอนที่ไม่มีคุณภาพ เพราะการนอนพักผ่อนที่เพียงพอเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้มีสุขภาพที่แข็งแรงและคุณภาพชีวิตที่ดี ข้อมูลวิชาการชี้ชัดว่า หากนอนไม่มีคุณภาพจะส่งผลกระทบทางสุขภาพและสังคม ทั้งก่อให้เกิดโรคภัยต่างๆ ตามมา ซึ่งที่ผ่านมาทางบริษัทเข้าไปทำโปรแกรม Sleep Test กับโรงแรมชาเทรียม ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพ และโรงแรมสุโขทัย ในแพ็กเกจ Sleepless Society จำนวน 3 วัน 2 คืนโดยได้จัดห้องพักโรงแรมให้มีความสะดวกสบาย พร้อมด้วยกิจกรรมที่ส่งเสริมสุขภาพ เพื่อนำเสนอทางเลือกใหม่ที่ดีที่สุดของผู้ที่มีปัญหาการนอนหลับ หรือกลุ่มคนที่ต้องการแสวงหาการพักผ่อนที่ควบคู่กับการดูแลสุขภาพ ”
อย่างไรก็ตามปัจจุบันคนไทยมีปัญหาการนอนไม่หลับ หรือนอนหลับไม่เพียงพอมากขึ้น เฉลี่ยแล้วมีคนไทยประมาณ 19 ล้านคนที่ประสบปัญหานอนไม่มีคุณภาพ ANYA MEDITEC จึงเริ่มตั้งแต่การตรวจ Screening test โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของโรงพยาบาลสมิติเวช เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจดูแลสุขภาพแบบองค์รวม (Total Sleep Solutions) ซึ่งการทำ Sleep Test ที่โรงแรมนั้นได้ประสิทธิภาพมากกว่าทำที่โรงพยาบาล ด้วยการออกแบบสุนทรียภาพแห่งการทดสอบการนอน และบรรยากาศที่ผ่อนคลาย พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆของโรงแรมที่มีพร้อมอยู่แล้ว
พร้อมกันนี้บริษัทยังมองหาพันธมิตรโรงแรมที่มีความโดดเด่น และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว (Outstanding and Uniqueness) เพียง 10 แห่งทั่วประเทศ ในเฟสแรก เพื่อการพักผ่อนอย่างแท้จริงที่มีบรรยากาศดี เงียบสงบ อาหารอร่อย เป็นโรงแรมที่ได้รับมาตรฐานทั้งในเรื่องบริการ และสิ่งอำนวยความสะดวกระดับ 5 ดาว และมั่นใจว่าธุรกิจนี้ช่วยดันรายได้ให้กับผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมให้กลับมาได้ในปี 2564 อย่างแน่นอน สำหรับก้าวต่อไปของบริษัทในปี2564 จะเปิดรับเฟส 2 และเดินหน้าวางรากฐานโครงสร้างของธุรกิจเดิมที่มีอยู่ให้แข็งแรง และเติบโตมากยิ่งขึ้น พร้อมสร้างและขยายธุรกิจใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นในประเทศ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อินเด็กซ์ฯ เปิด KILL & KLEAN แฟรนไชส์ฆ่าเชื่อสุดพรีเมียม