น้ำยางสด พุ่ง 61 บาท/กก. สูงเป็นประวัติการณ์

นายชัยพจน์ เรืองวรุณวัฒนา นายกสมาคมน้ำยางข้นไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงสถานการณ์ราคา "น้ำยางสด" ในแต่ละโซน แต่ละจังหวัดของภาคใต้มีความแตกต่างกัน ส่วนใหญ่ราคากว่า 61 บาท/กิโลกรัม สูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากผลผลิตมีน้อยฝนตกติดต่อกันหลายด้วย ประกอบกับเวียดนาม มีน้ำท่วม และที่ มณฑลไหหลำ หรือ ไห่หนานสาธารณรัฐประชาชนจีน มีมรสุมเข้าทำให้ลูกค้าไม่มีทางเลือกก็หันกลับมาซื้อที่ไทย ซึ่งที่ไทยก็ไม่มีของ หรือมีของน้อย ก็ทำให้ตลาดตกใจ ลามไปกระทบมาเลเซีย ซึ่งเป็นคู่ค้าใหญ่ของไทย พอไม่ได้ของหลายวันก็ตกใจ เพราะมีความจำเป็นที่จะต้องซื้อไปผลิตเป็นถุงมือยางหยุดผลิตไม่ได้ กลายเป็นว่าตอนนี้ทั้ง “คู่ค้า-มาเลย์”  ไล่แย่งซื้ออุตลุดราคาพุ่ง ก็ถือว่าเป็นผลดีกับชาวสวนยางอีกครั้ง

แต่จากราคาดังกล่าวไปตกกระทบกับอุตสาหกรรมอื่น อาทิ “หมอนยางพารา” “ยางยืด" กระทบมาก จะสู้ไม่ไหวอาจจะต้องปิดกิจการ เพราะเศรษฐกิจ ทั้งของขายยาก ประกับกับราคาวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตราคาแพงขึ้น ก็ย่ำแย่ซ้ำเติมหนักเข้าอีก ส่วน "ถุงมือยาง" ไม่มีปัญหาไปได้อยู่แล้ว ต่อให้ราคาน้ำยางสดขึ้นไป 70 บาท/กิโลกรัม ก็จำเป็นต้องซื้อ เพราะมีคำสั่งซื้อมา ที่จะต้องส่งให้กับลูกค้า ส่วนยางสังเคราะห์ขาดตลาด ก็ทำให้ผู้ประกอบการหันกลับมาใช้ยางธรรมชาติมากขึ้นที่จำเป็นต้องใช้ทดแทน  แต่ที่น่าแปลกใหม่ที่ประวัติศาสตร์วงการยางพาราต้องจารึกก็คือ ราคา “น้ำยางข้น” แพงกว่า “ยางแท่งSTR 20”  จากปกติจะต้องราคาถูกกว่ามาก เพราะน้ำยางข้นมีน้ำยางแค่ 60% ขณะที่ยางแท่งมีน้ำยาง 100%

การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) รายงานสถานการณ์ราคายางพารา ณ วันที่ 21 ตุลาคม 2563 ราคากลางยางพารา ยางแผ่นดิบอยู่ที่ 58.00 บาท/กก. ยางแผ่นรมควันอยู่ที่ 62.76 บาท/กก. ส่วนราคาประมูลเฉลี่ย ณ ตลาดกลาง ยางพารายางแผ่นดิบอยู่ที่ 59.91 บาท/กก. ราคายางแผ่นรมควันอยู่ที่ 64.97 บาท/กก. ราคายางได้รับปัจจัยสนับสนุนจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า เมื่อเทียบกับดอลล์ลาสหรัฐ รวมถึงได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่า พรรคเดโมแครตและ ทำเนียบขาวใกล้จะบรรลุข้อตกลงในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่เพื่อเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ ไวรัสโควิด-19

 อีกทั้งปริมาณยางที่ออกสู่ตลาดลดลง เนื่องจากทางภาคใต้ของไทยมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง เป็นอุปสรรคต่อการกรีดยาง และผู้ประกอบการภายในประเทศมีความต้องการยางมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม จากค่าเงินเยนที่แข็งค่า เมื่อเทียบกับดอลล์ลาสหรัฐ และราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง ยังคงเป็นปัจจัยที่กดดันราคายางได้ในระยะนี้นักลงทุนยังคงต้องติดตามเศรษฐกิจโลกอย่างใกล้ชิด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โลกช็อก "ยางแผ่น" ขาดตลาด

ถุงมือยางไนไตรโลก ขาดตลาด