“จุรินทร์”เร่งอัด 343 กิจกรรม  ดันส่งออกปี 64 ลุยถกFTA

02 ธ.ค. 2563 | 07:42 น.

“จุรินทร์”เปิดแผนผลักดันส่งออกปี 64 เตรียมอัดกิจกรรมทำตลาด 343 กิจกรรม ทั้งในและต่างประเทศ สร้างโอกาสส่งออก พร้อมเร่งเจรจาเอฟทีเอ และ เตรียมเซ็นมินิเอฟทีเอกับมณฑล-รัฐ ร่วมมือค้าขาย เป้าไทย-ไหหลำ ไทย-เตลังกานา ไทย-คยองกี  

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงแผนผลักดันการส่งออกในปี 2564 ว่า กระทรวงพาณิชย์ได้จัดทำแผนส่งเสริมและผลักดันการส่งออก เพื่อนำเงินเข้าประเทศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะมีการทำงานร่วมกับภาคเอกชนในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ให้เข้มข้นมากขึ้น ซึ่งได้กำหนดแผนงานโครงการไว้ชัดเจนหมดแล้ว มีจำนวนรวม 343 กิจกรรม เป็นกิจกรรมที่จะดำเนินการในประเทศ 135 กิจกรรม และในต่างประเทศ 208 กิจกรรม   เช่น การจัดกิจกรรมส่งเสริมอาหารไทย การเจรจาธุรกิจออนไลน์ หรือเจรจาการค้าในรูปแบบไฮบริด (นำสินค้าตัวอย่างไปโชว์ และเจรจาซื้อขายทางออนไลน์) และการผลักดันสินค้าไทยเข้าไปจำหน่ายในแพลตฟอร์มออนไลน์ชื่อดังของประเทศต่างๆ เช่น Amazon ในตลาดสิงคโปร์ และสหรัฐฯ Lotte ในตลาดเกาหลีใต้ Tmall เครืออาลีบาบา ในตลาดจีน Bigbasket ในตลาดอินเดีย Khaleang.com ในตลาดกัมพูชา

“จุรินทร์”เร่งอัด 343 กิจกรรม   ดันส่งออกปี 64 ลุยถกFTA

 

 

ขณะเดียวกัน จะเร่งเจรจาความตกลงการค้าระหว่างประเทศ เพื่อสร้างความได้เปรียบให้กับสินค้าไทย อย่างน้อยการเจรจาความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ไทย-สหภาพยุโรป (อียู) ต้องเดินหน้า วันนี้ศึกษาจบแล้ว รอที่จะขอกรอบการเจรจาจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) จากนั้นจะนับหนึ่งเจรจา เอฟทีเอไทย-สหราชอาณาจักร (ยูเค) จะดำเนินการ ตอนนี้ เริ่มศึกษาแล้ว เอฟทีเอไทย-ยูเรเซีย จะเริ่มต้น และเอฟทีเอไทย-เอฟต้า ก็จะทำ รวมทั้งเอฟทีเออาเซียน-แคนาดา ซึ่งเป็นแผนที่จะดำเนินการในปีหน้า
         
นอกจากนี้ จะใช้นวัตกรรมใหม่ ที่ไม่ใช่การทำเอฟทีเอเฉพาะประเทศกับประเทศ แต่จะเป็นการทำการค้าแบบลงลึก เพราะเอฟทีเอไม่พอ ต้องทำมินิเอฟทีเอ ซึ่งเป็นการตั้งชื่อเอง เพื่อให้เข้าใจง่าย คือ ประเทศไทยโดยกระทรวงพาณิชย์ร่วมกับภาคเอกชน จะทำข้อตกลงทางการค้าเฉพาะกับมณฑล หรือรัฐ หรือเมืองของประเทศใหญ่ๆ ที่มีประชากรมากกว่าบางประเทศ เพื่อสร้างโอกาสในการขยายการค้า การลงทุนให้กับผู้ประกอบการของไทย

“จุรินทร์”เร่งอัด 343 กิจกรรม   ดันส่งออกปี 64 ลุยถกFTA
         
ล่าสุดมีการเจรจากำลังจะจบ 3 มินิเอฟทีเอ คือ ไทย-ไห่หลำ สาเหตุที่เลือกไห่หลำ เพราะจะเป็นฮ่องกงแห่งที่ 2 ของจีน เพราะฮ่องกงวันนี้ ไม่จบ ก็เหมือนจบ ซึ่งไทยทำได้เร็วที่สุดในโลก เพราะเจรจามาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว เหลือเพียงตรวจถ้อยคำ จะเซ็นกันเร็วๆ นี้ ส่วน ไทย-รัฐเตลังกานา เป็นรัฐที่มีประชากรมากกว่าไทย มีธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ซึ่งอินเดียกำลังมีนโยบายทุกคนต้องมีบ้าน ต้องการวัสดุอุปกรณ์ โดยจะมีการเซ็นในวันที่ 18 ม.ค.2564 เพราะครบ 1 ปี ที่พาเอกชนไปเยือน โดยไทยจะได้เงื่อนไขพิเศษหลายเรื่อง และไทยกับเมืองคยองกี ซึ่งเป็นจังหวัดอุตสาหกรรม มีคนเอเชีย อาเซียนมาก ต้องการสินค้าไทย ตอนนี้เจรจาจบแล้ว กำลังลงนามในอนาคต

“จุรินทร์”เร่งอัด 343 กิจกรรม   ดันส่งออกปี 64 ลุยถกFTA