กรมการข้าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ,กรมการค้าภายใน ร่วมด้วยหน่วยงานภาคเอกชน บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จํากัด (มหาชน) และเมืองสุขสยาม ร่วมกันจัดงาน “ข้าวแดนสยาม”ตั้งแต่วันนี้ - 7 ธันวาคมนี้ ณ เมืองสุขสยาม บริเวณชั้น G ไอคอนสยาม
สำหรับการจัดงาน “ข้าวแดนสยาม” มีวัตถุประสงค์เพื่อนำ “ข้าว” ซึ่งเป็นผลิตผลจากผืนนา ภูมิปัญญาเกษตรกรไทยหลากหลายสายพันธุ์ มาจัดจำหน่ายแก่ชุมชุนเมืองโดยตรงแบบไม่ผ่านพ่อค้าคนกลางในราคาพิเศษ และเพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรได้มีโอกาสเพิ่มพูนประสบการณ์การต่อยอดอาชีพเกษตรกรสู่การเรียนรู้การสร้างรายได้ผ่านการค้า
นายสุวรรณชัย โลหะวัฒนกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ โครงการสุขสยาม ณ ไอคอนสยาม กล่าวว่า การจัดงานในปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด Rice Journey for Future หรือ การเดินทางของข้าว ที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตของเกษตรกร และแสดงถึงความเป็นอู่ข้าวอู่น้ำชาวไทย ต่อยอดสู่อนาคตการค้าขายสินค้าเกษตรครบวงจร ภายในงานบอกเล่าเรื่องราวการเดินทางของข้าว ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ผ่านรูปแบบการนำเสนอ 3 หัวข้อหลัก ได้แก่ “ปลูก แปร เปลี่ยน”
นอกจากนี้ผู้ร่วมงานยังจะได้รับองค์ความรู้จากการแลกเปลี่ยนแนวคิดของกลุ่มเกษตรและชุมชนสหกรณ์ รวมทั้งยังมีกิจกรรมต่างๆ อาทิ “บาร์ข้าวสวยสีสด” บาร์ข้าวสวยแห่งแรกและแห่งเดียวในเมืองไทยที่เสิร์ฟข้าวสวยจาก 20 พันธุ์ข้าวพื้นเมืองที่ดีที่สุดให้ชิมฟรี
"กิมมิกภายในงาน เราจะมีบาร์ข้าวสวยสีสด ที่มีให้ชิมฟรี และจะหุงสุกใหม่ทุกวัน จากหม้อหุงข้าวไฟฟ้าจากโตชิบา ซึ่งผู้ที่จะได้ชิมนั้นจะต้องโพสต์รูปภายในงานแบบสร้างสรรค์ พร้อมใส่แฮชแทค #ข้าวแดนสยาม #SOOKSIAM ลงบนเฟซบุ๊ก หรือ อินสตราแกรม และตั้งค่าเป็นสาธารณะ ก็สามารถร่วมกิจกรรมเลือกชิมข้าวพันธุ์พิเศษ 7 ชนิด"
ขณะที่พันธุ์ข้าวพิเศษที่เป็นไฮไลท์ภายในงาน อาทิ ข้าวพื้นเมืองภาคใต้ ได้แก่ ข้าวหอมไชยา ซึ่งถือ เป็นข้าว พันธุ์พื้นเมือง อำเภอไชยาจังหวัดสุราษฎร์ธานี มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เวลาออกรวงและหุงกลิ่นจะหอม ,ข้าวพื้นเมืองภาคอีสาน ได้แก่ ข้าวปะกาอำปึล (ดอกมะขาม) เป็นข้าวพันธุ์พื้นเมืองจ.สุรินทร์ ที่ให้ กาบ้าสูง มีโปรตีน วิตามินบี ธาตุเหล็ก มีธาตุอาหารช่วยบำรุงผิวหนัง ระบบประสาท และเสริมสร้างเม็ดเลือด,
ข้าวพื้นเมืองภาคเหนือ ได้แก่ ข้าวพญาลืมแกง เป็นข้าวเหนียวพันธุ์ไร่พื้นเมืองจ.เพชรบูรณ์ มีโปรตีนสูง มีสารที่จำเป็นสำหรับสตรีมีครรภ์ มีส่วนช่วยสร้างและซ่อมแซมดีเอ็นเอ, ข้าวพื้นเมืองภาคกลาง ได้แก่ ข้าวขาวเงิน เป็นข้าวขาวคัดคุณภาพพิเศษราคาเหมาะสมกับสภาวะเศรษฐกิจ คุณภาพการขัดสีดี สะอาด เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบทานข้าวขาว ราคาย่อมเยา
ไฮไลท์ภายในงานยังมีนวัตกรรมเครื่องสีข้าวครัวเรือน “พร้อมสี” โดย บริษัท ประชารัฐรักสามัคคีดี วิสาหกิจเพื่อสังคม (ประเทศไทย) ที่พัฒนาเครื่องสีข้าวขนาดกระทัดรัด เหมาะสำหรับผู้บริโภคที่ต้องการสีข้าวเพื่อบริโภคภายในครัวเรือน ในปริมาณที่พอเพียงแก่ความต้องการ เพื่อให้ผู้บริโภคได้คุณประโยชน์ของข้าวสูงสุดโดยใช้เวลาไม่เกิน 5 นาที
โดยนวัตกรรมนี้ นอกจากจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้บริโภคแล้ว ยังช่วยสร้างช่องทางการตลาดใหม่ให้กับเกษตรกรผู้ผลิตข้าวพันธุ์พื้นถิ่นต่างๆ ซึ่งเป็นข้าวปลอดสารพิษ มีคุณค่าทางโภชนาการสูงกว่าข้าวสายพันธุ์ทั่วไปที่จำหน่ายในท้องตลาด ปัจจุบันมียอดสั่งซื้อเครื่องสีข้าวครัวเรือน “พร้อมสี” กว่า 150 เครื่องแล้ว
ภายในงานยังมีแปลงนาสาธิตจาก “โครงการหงษ์ทองนาหยอด” โครงการนำร่องเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตเกษตรกรชาวนาไทย พบกับแปลงนาหยอดจำลองแบบแห้ง ถือเป็นการปลูกข้าววิถีใหม่ทดแทนการทำนาหว่านแบบดั้งเดิม วิธีนี้ส่งผลให้ได้กอข้าวขนาดใหญ่ เพิ่มผลผลิต สร้างรายได้สูงหลังฤดูกาลเก็บเกี่ยว
ส่วนพันธุ์ที่นำมาสาธิตนี้เป็นข้าวหอมมะลิใหม่ต้นฤดู ที่มาจากพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ ในจังหวัดอุบลราชธานี, ศรีสะเกษ และอำนาจเจริญ และผู้ร่วมงานยังได้เพลิดเพลินกับ “ตลาดกลางนา” จากเกษตรชุมชนนำสินค้านวัตกรรมต่อยอดจากข้าวไทย ที่แปรรูปข้าวไทยในหลากหลายมิติ มาจำหน่ายมากมาย อาทิ ข้าวเป็นยา ข้าวเป็นเวชสำอาง ข้าวเพื่อการตกแต่ง
ในวันเสาร์ที่ 5 ธันวาคม เวลา 15.00-16.00 น. มีความพิเศษด้วยการนำ เชฟขวัญใจนักชิม เชฟริซ่า อลิษา ดอร์สัน และ เชฟกอล์ฟ สัญญา ธาดาธนวงศ์ จาก Master Chef Thailand ที่มารังสรรค์เมนูพิเศษจากข้าวสองพันธุ์ ได้แก่ ข้าวพญาลืมแกง และข้าวปะกาอำปึล เพื่อให้ผู้ร่วมงานได้ชิมและสร้างแรงบันดาลใจในการทำเมนูจากข้าวแบบง่ายๆ ได้ที่บ้านอีกด้วย
ส่วนในวันอาทิตย์ที่ 6 ธันวาคม เวลา 18.00-19.00 น. พบกับการมินิคอนเสิร์ต จาก เนส พรอำนาจและปิดท้ายวันที่ 7 ธันวาคม เวลา 16.00 น. ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยวัฒนา จะมาร่วมถ่ายทอดพระราชปณิธานของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่มีต่อการ อนุรักษ์ข้าวไทย ในพิธี มหัศจรรย์พันธุ์ข้าวมงคลพืชผลรัชกาลที่ 9 The Rice Journey go Global