"เราเที่ยวด้วยกัน" สนับสนุนค่าเครื่องบินเพิ่มเป็น 3,000 บาท

08 ธ.ค. 2563 | 10:27 น.

ตรวจสอบรายละเอีดย มติครม. ปรับปรุงโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” สนับสนุนค่าเครื่องบินจาก 2,000 บาท เป็น 3,000 บ  เพิ่มสิทธิห้องพัก ขยายเวลาสิ้นสุดโครงการ 30 เมษายน 64  

วันที่ 8 ธ.ค. 63 นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงมติการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบการปรับปรุง “โครงการเราเที่ยวด้วยกัน” ทั้งเพิ่มจำนวนการจองห้องพัก ขยายระยะเวลาโครงการฯ รวมทั้ง สนับสนุนค่าเครื่องบินจาก 2,000 บาท เป็น 3,000 บาท ใน 7 จังหวัดท่องเที่ยว  พร้อมปรับลดกรอบวงเงินโครงการฯ เหลือ 15,000 ล้านบาท จาก 20,000 ล้านบาท  

 

สำหรับรายละเอียดการปรับปรุงโครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน" มีดังนี้ 

1.ปรับปรุงขอบเขตการใช้สิทธิ์จำนวนการจองห้องพัก จากเดิมประชาชนจองที่พักได้ไม่เกิน 10 คืน (Room night) ต่อ 1 สิทธิ์ สามารถจองที่พักเพิ่มอีก 5 คืน (Room night) เป็น 15 คืน (Room night) ต่อ 1 สิทธิ์

 

2.เพิ่มจำนวนห้องพักอีก 1 ล้านคืน (Room night) จากเดิม 5 ล้านคืน (Room night) เป็น 6 ล้านคืน (Room night) 

 

3.ขยายระยะเวลาการดำเนินโครงการ ประกอบด้วย 

- การใช้สิทธิ์ โครงการ จากสิ้นสุดวันที่ 31 ม.ค. 2564 เป็นวันที่ 30 เม.ย. 2564 

- การจองโรงแรมที่พัก จากช่วงเวลา 06.00 – 21.00 น. เป็นช่วงเวลา 06.00 – 24.00 น.

4.เพิ่มโรงแรมที่พักที่ไม่ได้รับใบอนุญาตประกอบการโรงแรม แต่ต้องมีหมายเลขประจำตัวของผู้เสียภาษี (Tax ID) และมีการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)

 

5.อนุมัติให้ธุรกิจและบริการที่เกี่ยวข้องในห่วงโซ่อุปทานการท่องเที่ยวสามารถรับ E-Voucher ได้ ประกอบด้วย ธุรกิจการขนส่ง ธุรกิจสปาหรือนวดเพื่อสุขภาพ รถเช่าเพื่อการท่องเที่ยว และเรือเช่าเพื่อการท่องเที่ยว โดยมีเงื่อนไขว่าต้องจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ไม่เป็นหน่วยงานภาครัฐ มีการเก็บค่าใช้บริการ และต้องได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการอย่างถูกต้องจากหน่วยงานภาครัฐ

 

6.ปรับเกณฑ์การสนับสนุนค่าบัตรโดยสารเครื่องบิน จาก 2,000 บาทต่อที่นั่ง เป็น 3,000 บาทต่อที่นั่งเฉพาะเมืองหลักทางการท่องเที่ยว 7 จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต กระบี่ พังงา สงขลา สุราษฎร์ธานี เชียงใหม่ และเชียงรายที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยมีอัตราการร่วมจ่าย (Co-pay) เท่าเดิม

 

7.กำหนดหลักเกณฑ์การลาสำหรับข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้าง พนักงานรัฐวิสาหกิจ ที่ลงทะเบียนและใช้สิทธิ์ โครงการฯ โดยกำหนดให้แสดงหลักฐานประกอบการลา ได้แก่ (1) หลักฐานแสดงการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ และ (2) หลักฐานแสดงการเช็คอินและเช็คเอ้าท์โรงแรงที่พักตามโครงการฯ

8.จัดกิจกรรมกระตุ้นการเดินทางในรูปแบบ Consumer Fair จำนวน 3 ครั้ง ในพื้นที่กรุงเทพฯ ภาคเหนือ และภาคใต้ พร้อมทั้งสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการเข้าร่วมโครงการฯ ควบคู่กับมาตรการสาธารณสุขต่าง ๆ เพื่อสร้างความมั่นใจในการเดินทางท่องเที่ยว งบประมาณ 9 ล้านบาท ภายใต้กรอบวงเงินโครงการฯ

 

นายอนุชา กล่าวว่า พร้อมทั้ง ครม. ยังเห็นชอบการปรับปรุงรายละเอียด “โครงการกำลังใจ”  ดังนี้  เปิดให้บริษัทนำเที่ยวที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้ โดยใช้หลักเกณฑ์เดิมของโครงการฯ   (เป็นบริษัท นำเที่ยวที่จดทะเบียนถูกต้องตามพ.ร.บ. ธุรกิจนำเที่ยว โดยจดทะเบียนก่อนวันที่ 1 ม.ค. 2563) รวมบริษัทนำเที่ยวที่กรอกรายการนำเที่ยวไม่ครบ 15 รายการ สามารถกรอกเพิ่มเติมได้ ทั้งนี้ หากกรอกครบ 15 รายการแล้ว ไม่สามารถเปลี่ยนแปลง หรือแก้ไขเพิ่มเติมได้อีก