"ฉาย บุนนาค" เผยแผนปี 64 "เนชั่นทีวี" ยืนหยัดอุดมการณ์สร้างองค์กรสื่อเพื่อชาติบ้านเมือง

วันที่15 ธันวาคม 2563  ที่สถานีโทรทัศน์เนชั่นทีวีช่อง 22 โดย บริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) ได้จัดงาน Nation TV Open house เพื่อแถลงถึงทิศทางการดำเนินงานในปีหน้า รวมถึงการปรับผังรายการครั้งใหญ่ และเปิดตัวกองทัพทีมผู้ประกาศข่าวใหม่ 8 คน 

 

นาย ฉาย บุนนาค ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เนชั่นมัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวถึงการก้าวเข้าสู่ปีที่ 50 ของเนชั่นกรุ๊ปว่า “เนชั่นทีวีเราพร้อมเดินหน้าสู่ปีที่ 21 ด้วยความแข็งแกร่ง ทั้งด้านสถานะการเงินและผลประกอบการทางธุรกิจ ส่วนการเปลี่ยนแปลงที่ผ่านมา หากเปรียบเป็นต้นไม้ ต้นไม้นี้ก็ผ่านร้อน ผ่านหนาว ผ่านแดด ผ่านฝนมาหลายต่อหลายครั้ง แต่เราก็ยืนหยัดอยู่ได้และพร้อมผลิใบรวมถึงออกดอกผลใหม่เสมอ 

“การเปลี่ยนแปลง การเปลี่ยนผ่าน ถือเป็นกฏแห่งธรรมชาติ แต่สิ่งหนึ่งที่ถือเป็นดีเอ็นเอ ขององค์กรคืออุดมการณ์และการทำหน้าที่สื่อสารมวลชนที่ดี มีคุณธรรม มีความรับผิดชอบต่อสังคมไทยสืบไป หรือจะเปรียบก็คงเปรียบเราได้ดั่ง หมาเฝ้าบ้านและยามเฝ้าแผ่นดินที่พร้อมเสียสละเพื่อชาติบ้านเมือง  และคอยดูแลปกป้อง 3 สถาบันสำคัญมาโดยตลอดและไม่มีเปลี่ยนแปลง นั่นคือสถาบันชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์”

ด้านนายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวถึง เนชั่นทีวีในยุคใหม่ว่า  “ ในปี 2021เนชั่นกรุ๊ปจะมีอายุครบ 50 ปี และ เนชั่นทีวีจะก้าวสู่ปีที่ 21  และกำลังมุ่งมั่นบนเส้นทางการกลับสู่ความเป็นสถาบันสื่อมืออาชีพ และมีความตั้งใจในการสร้างสรรค์งานใหญ่ในระดับนานาชาติ เพื่อประกาศความเป็น”สถาบันสื่อมืออาชีพ” ในระดับภูมิภาค 

 

อีกทั้งยังเปิดกว้างในการให้ผู้บริโภคข่าวสาร สามารถร่วมแสดงความคิดเห็นได้อย่างใกล้ชิด  โดยเนชั่นจะเป็นผู้ส่งผ่านข่าวสารและความรู้ไปในทุกแพลตฟอร์มของโลกดิจิทัล เพื่อให้เข้าถึงทุกภาคส่วนของสังคมไทย

 

"ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา กองบรรณาธิการเนชั่นทีวีและสื่อในเครือเนชั่นได้ปรับโครงสร้างฝ่ายข่าวครั้งใหญ่ สร้างระบบโต๊ะข่าวเพื่อบริหารจัดการข่าวและภาพอย่างเป็นระบบ  เพื่อกลั่นกรองทุกๆคอนเทนท์ให้มั่นใจได้ว่าจะมีคุณภาพและความน่าเชื่อถือสูงสุดก่อนนำเสนอออกไปในทุกช่องทาง เปรียบเสมือนการทำให้กองบรรณาธิการเป็นแกนกลางหรือกระดูกสันหลังของสถานีข่าวเนชั่นทีวี เพื่อสร้างความแข็งแกร่งด้วยเนื้อหามากกว่าการยึดติดตัวบุคคล"

นายอดิศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้วางกลุ่มเป้าหมายของการรายงานข่าวแต่ละประเภทข่าวให้ชัดเจนขึ้น โดยทีมเนชั่นทีวีจะเน้นการรายงานข่าวการเมือง การตรวจสอบนโยบายสาธารณะ เช่น การศึกษา สาธารณสุข สิ่งแวดล้อมกระบวนการยุติธรรมและคุณภาพชีวิต ข่าวประเทศอาเซียนและการเมืองโลกส่วนข่าวเศรษฐกิจและธุรกิจจะให้ทีมข่าวกรุงเทพธุรกิจกับฐานเศรษฐกิจที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจมากมายมาป้อนให้ช่องเนชั่นทีวี สำหรับข่าวอาชญกรรม บันเทิง ศิลปวัฒนธรรมและกีฬาจะอยู่ในทีมข่าวคมชัดลึก ที่ปัจจุบันเน้นหนักผ่านออนไลน์และโซเชียลมีเดีย  

 

ส่วนการปรับสัดส่วนเนื้อหาข่าวและรายการของเนชั่นทีวีในปีหน้านั้น เนชั่นทีวีจะปรับสัดส่วนเนื้อหาข่าวและรายการ  ให้มีความหลากหลายและทันสมัยมากยิ่งขึ้น   เพื่อขยายฐานผู้ชมไปยังทุกกลุ่มอายุ โดยผังรายการใหม่ในปีหน้าจะมีข่าวและรายการเชิงสาระอย่างน้อยวันละ 14 ชั่วโมง มีสัดส่วนของข่าวการเมืองและการตรวจสอบนโยบายสาธารณะ50 % ซึ่งถือเป็นเนื้อหาหลักที่เข้มข้นของสถานี ที่เหลือจะเป็นการเปิดพื้นที่ให้รายการประเภทอื่นอีก 40% อาทิ  รายการด้านเศรษฐกิจ ธุรกิจ เทคโนโลยี วิถีชีวิตคนอาเซียน การเมืองโลก ชุมชนคุณภาพชีวิต ศิลปวัฒนธรรม บันเทิง และการเปิดเวทีสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างเข้มข้น เพื่อหาคำตอบให้ทุกประเด็นของสังคม 

 

ความพิเศษของผังใหม่ 2021 ถูกออกแบบจากฐานคิด Big Data บนรหัส 4 - 4 - 6  เพื่อตรึงคนดูให้เต็มอิ่มกับทุกข่าวสาร โดยแบ่งเป็นช่วงต่างๆคือ 

 

4 ชั่วโมง ช่วงที่หนึ่ง เปิดรับวันใหม่ตั้งแต่ 06.00 น.-10.00น. ด้วยรายการ Good Morning Nation เวลา 06.00-08.30 น. รูปแบบ News Variety Show เพื่อให้ทุกครอบครัวรับชมได้อย่างสบายใจ รายการนี้จะมีผู้ดำเนินรายการ 5 คน ประกอบด้วย พิภู พุ่มแก้วกล้า(ต๊ะ),อรกานต์ จิวะเกียรติ(กวาง),นันทขว้าง สิรสุนทร(เกี๊ยง),สลิตา พรรณลึก(เฟรม)และขจรชัย เพชรรัตน์(ฟลุ๊ค) มาร่วมสร้างสีสันข่าวใหญ่ๆทุกประเด็นที่พูดคุยในสังคมให้เต็มอิ่มกับช่วงเช้า ตามมาด้วยรายการเนชั่นทันข่าวเช้า ประเด็นข่าวร้อนข่าวเข้ม เวลา 08.30-10.00 น.

 

4 ชั่วโมงช่วงที่สอง เริ่มเวลา 11.00 น.-15.00น. พาทุกท่านเข้าสู่”ห้องข่าวเศรษฐกิจ”เพื่อให้ก้าวทันความเคลื่อนไหวทางธุรกิจโดยทีมข่าวกรุงเทพธุรกิจและฐานเศรษฐกิจ สื่อด้านธุรกิจอันดับหนึ่งของประเทศ ตามด้วยรายการเนชั่นทันข่าวเที่ยงอัพเดทข่าวรอบด้านทันทุกสถานการณ์​ จากนั้นจะนำเสนอข่าวชุมชนและการเตือนภัยต่างๆจากผู้สื่อข่าวของเนชั่นทั่วประเทศ ด้วยรายการชุมชนระวังภัย

 

6 ชั่วโมงข่าว Golden Hours News  ข่าวภาคเย็นและค่ำ เริ่มเวลา 17.00 น.-23.30น. เริ่มต้น17.00 -20.00 น. กับรายการเนชั่นทันข่าวเย็นและค่ำ ที่จะเป็นรายการข่าวหลักภาคค่ำของสถานี ระดมผู้ประกาศและรูปแบบการนำเสนอผ่านรูปแบบ Immersive รายงานข่าวสดๆจากกองทัพนักข่าวภาคสนาม

 

รายการข่าวข้นคนข่าว เวลา 20.20 -22.20 น. รายการคุยข่าวในตำนานของทีมเนชั่นมายาวนานที่มีรูปแบบคุยข่าวผสมผสานอารมณ์ขันของผู้ดำเนินรายการ 3 คนข่าว เปิดตัวผู้ดำเนินรายการชุดใหม่ 3 คนข่าว คือ นลิน  สิงหพุทธางกูร  กิตติดิษฐ์ ธนดิษฐ์สุวรรณ 2 คนข่าวเนชั่นทีวีที่ผ่านงานภาคสนามและผู้ดำเนินรายการมาอย่างโชกโชน เติมผู้ดำเนินรายการคนที่3  อรรินทร์ ยมกกุล  ผู้ประกาศคนใหม่ แต่มากประสบการณ์ข่าวทุกระดับ ตั้งแต่ต่างประเทศจนระดับรากหญ้า

 ปิดท้ายด้วยรายการทอล์คใหม่เอี่ยม “คิดต่าง/ฟัง/รอบด้าน”เวลา 22.20-23.20 น.  โดย เกม-ชวัลน์ จันทร์ทรัพย์ ผู้ดำเนินรายการทอล์คคนใหม่ของเนชั่นทีวีที่มีความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์รายการสนทนาข่าวแบบเปิดทุกมุมมอง  รายการในช่วง 6 ชั่วโมงข่าว จะเริ่มวันแรกคือ พรุ่งนี้ (16 ธันวาคม) เวลา 17.00 น.เป็นต้นไป

 

3 โครงการใหญ่เป็นมากกว่าสถานีข่าว

นอกจากนี้แล้วในปี 2564 ฉลองการก้าวสู่ทศวรรษที่ 3 จะมีโครงการใหญ่อีก 3 โครงการที่จะทำให้เนชั่นทีวี ก้าวใหญ่ๆเป็นมากกว่าสถานีข่าวโดยทั่วไป

-Nation Sitcom ละครซีรี่ส์รูปแบบซิทคอมในชื่อ “ประชาธิปไตยตั้งไข่” ซิทคอมอารมณ์ดีที่เปิดให้ความคิดเห็นๆของเยาวชนได้นำเสนอผ่านตาเปิดใจผู้ใหญ่ใจดี ผ่านรูปแบบใหม่เพื่อสร้างความเข้าใจในสังคมและเข้าถึงคนรุ่นใหม่

 

-Nation The debate การแข่งขันโต้วาทีระดับมัธยมปลาย การต่อสู้ทางความคิดด้วยสติปัญญาและวาทศิลป์ โครงการนี้จะเปิดโอกาสให้น้องๆนักเรียนในระดับมัธยมปลายจัดทีมเข้าแข่งขันเพื่อชิงทุนการศึกษาก้อนใหญ่ ดำเนินการโต้วาทีโดยอาจารย์พิษณุ สกุลโรมวิลาส 

 

-Nation Documentary งานสารคดีจากทีมงานเนชั่นที่เคยสร้างปรากฏการณ์ภาพยนตร์สารคดีมาหลายชุด เป้าหมายของเนชั่นทีวีจะนำเสนอเรื่องราวประวัติศาสตร์ไทย ความเป็นไปด้านวัฒนธรรม สิ่งแวดล้อมและวิถีชีวิตของผู้คนในอาเซียน เพื่อเปิดประตูสู่ผู้ชมในแพลตฟอร์มอื่นๆ เช่น ผู้ให้บริการ Online Streaming, สถานีโทรทัศน์ในต่างประเทศ 

 

เพื่อความหลากหลายของการรับชม เนชั่นทีวีจึงได้เปิดโอกาสให้ผู้ร่วมผลิตได้ นำเสนอรายการดีมีคุณภาพมากมาย อาทิ รายการเก็บตกแบไต๋ โดยหนุ่ย-พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์   และยังมีพิธีกรชั้นนำในรายการอีกหลายท่าน  อาทิ ดนัย เอกมหาสวัสดิ์  นารากร ติยายน(ต๊ะ)   ดารณีนุช ปสุตนาวิน(ท็อป)  รวมไปถึงพิธีกรเดิม  ธัญญาเรศ เองตระกูล (ธัญญ่า)  พรหมพร  ยูวะเวส(เอิ๊ก)   และดร.เสรี วงศ์มณฑา  ที่ยังผนึกกำลังครบทีม

 

เสริมทัพ 8 ผู้ประกาศคนข่าวตัวจริง

สิ่งสำคัญอีกอย่าง ในการปรับโฉมให้เป็น All New Nation TV นั่นคือทีมผู้ประกาศและผู้ดำเนินรายการ ซึ่งเนชั่นได้เปิดรับคนรุ่นใหม่แต่มากฝีมือเข้ามาเสริมทัพกับผู้ประกาศเดิมที่มีประสบการณ์สูง โดยในครั้งนี้ มีผู้ประกาศตอบรับเข้าร่วมงานมากมาย  อาทิ

 

พิภู พุ่มแก้วกล้า(ต๊ะ) คนข่าวรุ่นใหม่แถวหน้าของประเทศไทยที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์รูปแบบรายการข่าวและกิจกรรมเชิงข่าวใหม่ๆ

 

อรการ จิวะเกียรติ (กวาง) ผู้ประกาศข่าวไฟแรงที่มากความสามารถในหลายๆด้าน ทั้งเศรษฐกิจ เทคโลโลยีและสังคม 

 

อรรินทร์ ยมกกุล(อร) ผู้ประกาศข่าวมากประสบการณ์ที่ผ่านงานภาคสนามมาอย่างโชกโชน เชี่ยวชาญการนำเสนอข่าวที่มีผลกระทบกับชีวิตผู้คนในระดับรากหญ้า

  
ชวัลน์ จันทร์ทรัพย์ (เกมส์) ผู้ประกาศข่าวดีกรีดอกเตอร์ที่เคยผ่านงานแสดงละครโทรทัศน์ แต่กลับขอเลือกเส้นทางคนข่าว มุ่งมั่นจะพัฒนารายการทอล์คในรูปแบบใหม่

 

 กรองบุญ ศรีสรรพกิจ(กิฟท์) ผู้ประกาศข่าวอีกคนที่ไม่เลือกเส้นทางแสดงละครที่เคยผ่านมา แต่อยากใช้ความรู้ความสามารถด้านภาษาเป็นคนข่าว เพื่อนำเสนอเรื่องราวจากทั่วโลก 

  
ลลิตา มั่งสูงเนิน(ปรินซ์) ผู้ประกาศข่าวคนรุ่นใหม่ที่เริ่มต้นวิชาชีพนี้ ตั้งแต่ยังเรียนในมหาวิทยาลัย พกความมุ่งมั่นมาเต็มที่ในการทำงานสายข่าวกับสถานีข่าวเนชั่นทีวี 

  
ชาญชัย ประทีปวัฒนะวงศ์ (ดาว) ผู้ประกาศข่าวที่เคยเป็นนักกีฬายิงธนูระดับเหรียญเงิน ซีเกมส์ แต่กลับหลงใหลงานข่าวมากกว่า

   
ชิบ จิตนิยม คนข่าวระดับกูรูด้านข่าวต่างประเทศ ผ่านประสบการณ์เดินทางไปลุยข่าวในประเทศต่างๆมาอย่างโชกโชนจะมาเสริมทัพข่าวต่างประเทศของเนชั่นทีวีให้กลับมายืนหนึ่งอีกครั้ง 

​    
ถึงวันนี้ เนชั่นทีวีช่อง 22  พร้อมแล้วที่จะเดินหน้าสู่สถานีข่าว 24 ชั่วโมงอย่างเต็มรูปแบบ ด้วยเป้าหมายของการเป็นสถาบันสื่อมืออาชีพ และยึดมั่นในหลักจรรยาบรรณ สร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ชม เพื่อทำหน้าที่สื่อมวลชนของชาวไทยอย่างเต็มภาคภูมิ