จากกรณีที่ นางสาว มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะมีคำสั่งให้อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ตรวงจสอบการตั้งสมาคมวิทยาการวัชพืชแห่งประเทศไทย สวนทางนโยบายรัฐมนตรี พยายามนำสารพิษกลับมา ทั้งที่เรื่องจบไปแล้ว นั้น
ดร.จรรยา มณีโชติ นายกสมาคมวิทยาการวัชพืชแห่งประเทศไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” การที่เราทำความจริงให้กระจ่าง ไม่ถูกใจรัฐมนตรีช่วยฯ ตรงไหน แล้วมีการกล่าวหาว่าทำสวนนโยบาย ยืนยันว่าทำเพื่อให้งานวิชาการอยู่กับร่องกับรอย แค่นั้นเอง ไม่ได้สวนนโยบายแต่อย่างใด แล้วสมาคมแต่ละสมาคมที่ตั้งขึ้นมาโดยนักวิชาการในกรมวิชาการเกษตร ก็มีหลายสาขาเพื่อที่จะช่วยเหลืองานวิชาการให้กับกรม ไม่มีการเมืองมาชี้นำ รวมแล้วมี 7 สมาคม ได้แก่ สมาคมกีฏและสัตววิทยาแห่งประเทศไทย สมาคมนักโรคพืชแห่งประเทศไทย สมาคมพืชสวนแห่งประเทศไทย สมาคมปรับปรุงพันธุ์และขยายพันธุ์พืชแห่งประเทศไทย สมาคมดินและปุ๋ยแห่งประเทศไทย และสมาคมการค้าเมล็ดพันธุ์ไทย
“โดยปกติแล้วการรับเงินจากภาคเอกชนมาทำงานวิจัย ไม่ใช่เป็นเรื่องผิด เป็นปกติอยู่แล้ว ที่หน่วยงานไหนก็ทำ แม้กระทั่งทีดีอาร์ไอ มหาวิทยาลัย ก็ทำได้หมด แต่ถ้ารับเงินมาเฉยๆ แล้วไม่ได้ทำอะไร นี่เป็นเรื่องผิดปกติ แต่ถ้ารับเงิน แล้วงานที่รับทำ ก็ทำเพื่อประโยชน์สาธารณะ แล้วก็ไม่ได้ทำแค่ “พาราควอต” ตัวเดียว ยังรับเป็นที่ปรึกษางานวิจัย เรื่อง บทบาของพาราควอตและไกลเซตในการผลิตพืชเศรษฐกิจ 6 ชนิด” ด้วย ไม่ใช่เรื่องที่แปลกแต่อย่างใด"
ดร.จรรยา กล่าวว่า ในช่วงก่อนหน้านั้นมีข่าวว่าจะแบนสารเคมี ก็มีการสำรวจทั้ง 2 ตัว ทั้งความคิดเห็นของเกษตรกรที่จำเป็นต้องใช้ ก็ทำแบบข้อมูลไว้ให้เชิงฝ่ายนโยบายไว้ใช้พิจารณา และงานวิจัย สวก.ที่สมาคมกำลังดำเนินการอยู่ "ชื่อโครงการวิจัย ศึกษาวิธีการจัดการวัชพืชแบบผสมผสานเพื่อลดปริมาณการใช้ไกลโฟเซตและพาราควอตในพืชเศรษฐกิจ" เพื่อทดแทนการใช้ พาราควอตและไกลโฟเซตและพืชเศรษฐกิจของประเทศไทย นี่สมาคมทำงานรับรองนโยบาย เมื่ออยากแบน ก็ได้ทำงานวิจัยให้
“แต่ถ้างานของกระทรวงสาธารณสุขหรือนักวิจัยบางคนที่ไม่ถูกต้อง เราก็ต้องค้านว่าไม่จริง ไม่ได้สวนนโยบาย แต่เราถามความชัดเจนจะต้องกระจ่างด้วยข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ ทุกคนจะได้ตกผลึก ไม่มีความขัดแย้ง แต่หากปล่อยให้ทุกคนคาใจ คนก็จะไม่จบ แต่ถ้านำด้วยวิชาการ ก็จะจบ ต้องการทำแค่นี้เอง ไปขัดนโยบายตรงไหน เราต้องการช่วย เข้าใจอะไรผิดหรือไม่ เราต้องการทำให้ "กรมวิชาการเกษตร" องค์กรของเรา มีความสง่างามด้านวิชาการ”