ความคืบหน้าโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2563/64 หรือ "ประกันราคาข้าว" ได้มีการเคาะจ่ายเงินชดเชยให้เกษตรกรมาจนถึงงวดที่ 10 เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2563 ที่ผ่านมาเกิดปัญหา ทำให้อธิบดีกรมการค้าภายใน ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ต้องหยุดการจ่ายเงินชั่วคราวก่อน
ก่อนหน้านี้ กระทรวงพาณิชย์ ได้ของบประมาณเพิ่มเติมไปแล้ว เงินยังไม่พอจ่ายชาวนา ซึ่งจากข้อสังเกต 2 สมาคม ได้แก่ “สมาคมส่งออกข้าวไทย” และ “สมาคมโรงสีข้าวไทย” เห็นความผิดปกติ ของทะเบียนเกษตรกร หลายจุดที่เป็นข้อสังเกต จึงทำให้ทางอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ได้ชี้แจง ประเด็นในข้อสงสัยต่างๆ เหล่านี้
นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า “กรมส่งเสริมการเกษตร” ร่วมเป็นคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว โดยจะมีการประชุมทุกวันจันทร์ เพื่อพิจารณาเกณฑ์ราคากลางของกลุ่มพันธุ์ข้าวที่รัฐบาลประกาศประกันรายได้ และให้ความเห็นชอบในการให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จ่ายเงินชดเชยส่วนต่างเป็นรายงวด (สัปดาห์) ซึ่งกรมส่งเสริมการเกษตรจะแจ้งผลการขึ้นทะเบียนเกษตรกรที่ผ่านการตรวจสอบแล้ว และแจ้งวันเก็บเกี่ยวในแต่ละรอบสัปดาห์ ประกอบด้วยจำนวนครัวเรือน จำนวนแปลง พื้นที่ปลูกข้าว และประมาณการผลผลิต โดยแยกพันธุ์ข้าวเพื่อแจ้งในที่ประชุมทราบ
“การ "ขึ้นทะเบียนเกษตรกร" เป็นไปตามประกาศของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ที่รับรองการทำการเกษตรตามฤดูฝนของแต่ละภาคของประเทศไทย สำหรับการปลูกข้าว ในปีการผลิต 2563/64 โดยกรอบของข้าวนาปีจะเริ่มปลูกตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม - 31 ตุลาคม 2563 ยกเว้นพื้นที่ลุ่มต่ำ ลุ่มเจ้าพระยา ลุ่มน้ำปราจีน จะเริ่มปลูกตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 และภาคใต้ จะเริ่มปลูกตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน 2563 - 28 กุมภาพันธ์ 2564 ตามคู่มือทะเบียนเกษตรกรกำหนดไว้ให้เกษตรกรสามารถแจ้งปลูกหลังการปลูก 15 - 60 วัน ดังนั้นเกษตรกรสามารถแจ้งปลูกวันสุดท้ายได้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563 และภาคใต้ถึงวันที่ 30 เมษายน 2564”
“หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่เกษตรตำบลจะดำเนินการตรวจสอบโดยการพิมพ์รายชื่อไปติดประกาศ และใช้เทคโนโลยีดึงภาพถ่ายดาวเทียมตรวจสอบพิกัดแปลงหาความซ้ำซ้อนของการปลูกข้าวรอบที่ 1 และรอบที่ 2 ต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 15 วัน จึงจะยืนยันผลการขึ้นทะเบียนได้ ทั้งนี้ ผลผลิตข้าวในแต่ละรอบจำเป็นต้องตรวจสอบ เนื่องจากมีปัจจัยทางธรรมชาติ เช่น ภัยแล้ง หรืออุทกภัยทำให้ปริมาณผลผลิตข้าวไม่สามารถให้ผลผลิตได้ตามที่ได้แจ้งไว้ การปรับเปลี่ยนข้อมูลจึงต้องตรวจสอบให้รัดกุม และเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีโดยคำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดที่เกษตรกรจะได้รับตามรอบการประกันราคาในแต่ละงวด
สำหรับการส่งข้อมูลให้ ธ.ก.ส. หลังจากคณะอนุกรรมการฯ อนุมัติแล้ว 3 วัน เป็นการส่งข้อมูลทั้งชุดทำให้มีกลุ่มแปลงที่ผ่านการตรวจสอบที่เพิ่มเข้ามาหลังคณะอนุกรรมการฯ รับทราบ ซึ่งในกลุ่มที่ผ่านการตรวจสอบเพิ่มเข้ามาใหม่ กรมส่งเสริมการเกษตรจะรายงานคณะอนุกรรมการฯ อีกครั้งให้ครบถ้วน ภายหลังจากปิดระบบการรับขึ้นทะเบียนและตรวจสอบแล้ว หลังวันที่ 31 มกราคม 2564 ซึ่งจะเป็นตัวเลขที่ชัดเจน ครบถ้วน
สำหรับภาคใต้ จะปิดไม่ให้บันทึกข้อมูลเข้าในวันที่ 30 เมษายน 2564 และจะดำเนินการตรวจสอบข้อมูลอีก 15 วัน จึงจะปิดระบบทุกขั้นตอนในวันที่ 15 พฤษภาคม 2564 และจะทราบข้อมูลการขึ้นทะเบียนอย่างครบถ้วนได้ ในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 2564
ไขข้อข้องใจ "ทะเบียนเกษตรกร" ด้านพืชกับ กรมส่งเสริมการเกษตร
ส่วนวิธีตรวจสอบสถานะความเป็นเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนกรมส่งเสริมการเกษตร (คลิกที่นี่) หรือ สามารถตรวจสอบสถานะการจ่ายเงินรายได้ข้าวด้วยตัวเอง ดังนี้
อนึ่ง คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว เมื่อที่ 3 พฤศจิกายน 2563 แบ่งเป็นโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2563/64 (รอบที่ 1) ได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมการเกษตรดำเนินการขึ้นและปรับปรุงข้อมูลทะเบียนเกษตรกร เพื่อเก็บข้อมูลการเพาะปลูกและตรวจสอบความถูกต้องของเกษตรกรผู้มีสิทธิเข้าร่วมโครงการ โดยต้องเป็นเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2563/64 (รอบที่ 1) ที่ปลูกข้าวระหว่างวันที่ 1 เมษายน ถึง 31 ตุลาคม 2563 ยกเว้นภาคใต้ ปลูกระหว่างวันที่ 16 มิถุนายน 2563 ถึง 28 กุมภาพันธ์ 2564 จากนั้น กรมส่งเสริมการเกษตร จะส่งข้อมูลให้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร โอนเงินให้กับเกษตรกรโดยตรงผ่านทางบัญชีของเกษตรกรที่เปิดไว้กับ ธ.ก.ส.
เอกสารแนบ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ผวา “สต็อกข้าวท่วม” กดราคาชาวนา
ห้ามไม่ได้จริงๆ "ชาวนา" ปลูกข้าวเกินแผนพุ่ง 2.6 ล้านไร่
ด่วน! เบรกจ่าย “เงินประกันราคาข้าว"
ป่วน “ประกันรายได้ข้าว” ระส่ำ รอบ2 เงินไม่พอ เช็กวุ่น
ส่งออกข้าวไทยปี 63 ทำดีที่สุดแค่ 5.8 ล้านตัน