ชู 3 กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมไทย พระเอกส่งออกปี64

22 ม.ค. 2564 | 14:10 น.

 “พาณิชย์” ชี้สินค้ากลุ่มอุตสาหกรรมทั้งอาหารและเกษตร และอุตสาหกรรม ยังคงเป็นสินค้าหลัง ดันส่งออกปี64 ขยายตัวตามเป้า

น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.)เปิดกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงแนวโน้มการส่งออกในปีนี้ว่า สินค้าที่ขยายตัวได้ดีและน่าจะเป็นพระเอกของปีนี้  ยังเป็นสินค้ากลุ่มที่เติบโตต่อเนื่องเช่น สินค้าอาหาร เช่น ผักและผลไม้ ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง น้ำมันปาล์ม อาหารสัตว์เลี้ยง สุกรสดแช่เย็นแช่แข็ง และสิ่งปรุงรสอาหาร สินค้าที่เกี่ยวข้องกับการทำงานที่บ้าน (Work from Home) และเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง เช่น เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน เตาอบไมโครเวฟและเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้ความร้อน ตู้เย็นและตู้แช่แข็ง เครื่องซักผ้า เครื่องปรับอากาศ และโทรศัพท์และอุปกรณ์ สินค้าเกี่ยวกับการป้องกันการติดเชื้อและลดการแพร่ระบาดเช่น เครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ และถุงมือยาง เป็นสินค้าที่ไทยมีศักยภาพในการส่งออกอย่างมากในช่วงนี้

ชู 3 กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมไทย  พระเอกส่งออกปี64

ทั้งนี้สินค้า 3 กลุ่มหลักที่มีการเติบโตต่อเนื่องแล้ว ยังมีกลุ่มสินค้าที่มีการกลับมาขยายตัวตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก  เช่น  สินค้าที่เกี่ยวข้องกับภาคการผลิต เช่น เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์ แผงวงจรไฟฟ้า เครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ รวมไปถึงสินค้าคงทนที่มีราคาสูงอย่างรถยนต์ ซึ่งคาดว่าจะเป็นเครื่องบ่งชี้ถึงสัญญาณ การฟื้นตัวของภาคการผลิตโลก และซัพพลายเชนของสินค้าส่งออกไทย 

 

ชู 3 กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมไทย  พระเอกส่งออกปี64

นอกจากนี้ในปีที่ผ่านมาสินค้าที่เป็นสินค้าคุณภาพเป็นที่ต้องการของตลาด มี3กลุ่มสินค้า ประกอบด้วย สินค้าเกษตร เช่น สุกรสด แช่เย็นแช่แข็ง ขยายตัว256% สัตว์น้ำอื่นๆ ขยายตัว39%  ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง และแห้ง ขยายตัว12%  ข้าวโพด ขยายตัว6%  ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ขยายตัว2.6%  2.สินค้าอุตสาหกรรมเกษตร เช่น อาหารสัตว์ ขยายตัว 18.4% ผลิตภัณฑ์ข้าว ขยายตัว3.6%  เป็นต้น และ3.สินค้าอุตสาหกรรม เช่น ผลิตภัณฑ์ยาง ขยายตัว7.8% เครื่องแพทย์และอุปกรณ์ ขยายตัว5.1% รถจักรยนต์และส่วนประกอบ  ขยายตัว1.1% เป็นต้น

ทั้งนี้กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ตัวเลขส่งออกปีนี้ที่4-5% ซึ่งหากขยายตัวที่4% มูลค่า240,727ล้านดอลลาร์สหรัฐ เฉลี่ยเดือนละ 20,061ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่หากขยายตัวที่5% มูลค่าจะอยู่ที่243,042ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเฉลี่ยส่งออกเดือนละ 20,253ล้านดอลลาร์สหรัฐ