น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.)เปิดกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงแนวโน้มการส่งออกในปีนี้ว่า สินค้าที่ขยายตัวได้ดีและน่าจะเป็นพระเอกของปีนี้ ยังเป็นสินค้ากลุ่มที่เติบโตต่อเนื่องเช่น สินค้าอาหาร เช่น ผักและผลไม้ ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง น้ำมันปาล์ม อาหารสัตว์เลี้ยง สุกรสดแช่เย็นแช่แข็ง และสิ่งปรุงรสอาหาร สินค้าที่เกี่ยวข้องกับการทำงานที่บ้าน (Work from Home) และเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง เช่น เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน เตาอบไมโครเวฟและเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้ความร้อน ตู้เย็นและตู้แช่แข็ง เครื่องซักผ้า เครื่องปรับอากาศ และโทรศัพท์และอุปกรณ์ สินค้าเกี่ยวกับการป้องกันการติดเชื้อและลดการแพร่ระบาดเช่น เครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ และถุงมือยาง เป็นสินค้าที่ไทยมีศักยภาพในการส่งออกอย่างมากในช่วงนี้
ทั้งนี้สินค้า 3 กลุ่มหลักที่มีการเติบโตต่อเนื่องแล้ว ยังมีกลุ่มสินค้าที่มีการกลับมาขยายตัวตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก เช่น สินค้าที่เกี่ยวข้องกับภาคการผลิต เช่น เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์ แผงวงจรไฟฟ้า เครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ รวมไปถึงสินค้าคงทนที่มีราคาสูงอย่างรถยนต์ ซึ่งคาดว่าจะเป็นเครื่องบ่งชี้ถึงสัญญาณ การฟื้นตัวของภาคการผลิตโลก และซัพพลายเชนของสินค้าส่งออกไทย
นอกจากนี้ในปีที่ผ่านมาสินค้าที่เป็นสินค้าคุณภาพเป็นที่ต้องการของตลาด มี3กลุ่มสินค้า ประกอบด้วย สินค้าเกษตร เช่น สุกรสด แช่เย็นแช่แข็ง ขยายตัว256% สัตว์น้ำอื่นๆ ขยายตัว39% ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง และแห้ง ขยายตัว12% ข้าวโพด ขยายตัว6% ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ขยายตัว2.6% 2.สินค้าอุตสาหกรรมเกษตร เช่น อาหารสัตว์ ขยายตัว 18.4% ผลิตภัณฑ์ข้าว ขยายตัว3.6% เป็นต้น และ3.สินค้าอุตสาหกรรม เช่น ผลิตภัณฑ์ยาง ขยายตัว7.8% เครื่องแพทย์และอุปกรณ์ ขยายตัว5.1% รถจักรยนต์และส่วนประกอบ ขยายตัว1.1% เป็นต้น
ทั้งนี้กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ตัวเลขส่งออกปีนี้ที่4-5% ซึ่งหากขยายตัวที่4% มูลค่า240,727ล้านดอลลาร์สหรัฐ เฉลี่ยเดือนละ 20,061ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่หากขยายตัวที่5% มูลค่าจะอยู่ที่243,042ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเฉลี่ยส่งออกเดือนละ 20,253ล้านดอลลาร์สหรัฐ