นายชินจิ คามิยะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด เปิดเผยว่าแผนการการดำเนินธุรกิจของมิตซูบิชิฯ ในปีนี้ มุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคในยุคนิว นอร์มอล รวมทั้งในโอกาสก้าวเข้าสู่ปีที่ 50 บริษัทจึงมุ่งเดินหน้าสร้างการเติบโตและสร้างยอดขายในส่วนของเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์มากยิ่งขึ้น โดยพัฒนาเครื่องปรับอากาศมิตซูบิชิ อีเล็คทริค มิสเตอร์สลิม รุ่นใหม่ ECO EYE INVERTER XT Series ที่โดดเด่นด้วย “ECO EYE Sensor” เซ็นเซอร์อัจฉริยะออกวางจำหน่าย
นอกจากนี้บริษัทยังให้ความสำคัญด้านบริการหลังการขายที่ได้มาตรฐาน ยกระดับการบริการที่รวดเร็ว เพื่อเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าทั่วประเทศ พร้อมเสริมความแข็งแกร่งด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ โดยตั้งเป้ายอดขายภายในปีงบประมาณ 2564 โตขึ้นกว่า 19% จากปีที่ผ่านมา โดยบริษัทมีแผนขยายศูนย์บริการสาขา “สำนักงานสนับสนุนลูกค้าโครงการระบบปรับอากาศซิตี้มัลติ” เพิ่มขึ้นเป็น 9 สาขาจากปัจจุบันที่มีอยู่ 6 สาขา และเพิ่มสัดส่วนการขายธุรกิจ B2B เป็น 30% จากปัจจุบันที่มีอยู่ 15% ภายในปี 2568
อย่างไรก็ดีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบในวงกว้างต่อทุกภาคส่วนของอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจรวมถึงการขยายตัวในธุรกิจเครื่องปรับอากาศทำให้ผลประกอบการรวมของบริษัทในปีงบประมาณ 2563 มีแนวโน้มลดลงประมาณ 4% เมื่อเทียบกับปีก่อน แต่มิตซูบิชิฯ ยังคงรักษาส่วนแบ่งตลาดโดยมีแชร์ตลาดเป็นอันดับ 1 และแบรนด์ยอดนิยมที่ผู้บริโภคให้ความไว้วางใจในตลาดแอร์บ้านและเครื่องปั๊มน้ำด้วย
ด้านนายประพนธ์ โพธิวรคุณ กรรมการรองผู้จัดการ บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด กล่าวว่า ปีนี้บริษัทได้เสริมความแข็งแกร่งด้านบริการหลังการขายให้กับลูกค้าทั่วประเทศ ด้วยการพัฒนาระบบไอที เชื่อมโยงศูนย์บริการทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการแก่ลูกค้าทั้งในกทม. และต่างจังหวัด ให้ได้รับความสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันได้ยกระดับศูนย์ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพเครื่องปรับอากาศขนาดเล็กระดับ 1 ที่ได้รับการรับรองจากกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ซึ่งถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐในการสนับสนุน และพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานช่างเทคนิคไทย ให้ก้าวไกลต่อไปในอนาคต นอกจากนี้ยังได้ยกระดับการอบรม และเปิดทดสอบช่างบริการ ซึ่งจะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้ามั่นใจในการบริการของบริษัทด้วย
นายทาคาชิ ฟูจิกิ กรรมการและผู้จัดการทั่วไปส่วนการตลาดและการขาย บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด กล่าวเสริมว่า มาตรการต่างๆที่เกิดจากโควิด-19 ไม่ว่าจะเป็นการทำงานที่บ้าน การเว้นระยะห่างทางสังคม ส่งผลทำให้ ช่องทางการขายทางอี-คอมเมิร์ซเติบโตขึ้นกว่า 150% รวมถึงอัตราการใช้เครื่องปรับอากาศระบบอินเวอร์เตอร์ที่เพิ่มขึ้น 73% และคาดว่าในปีนี้จะเพิ่มขึ้น 80% ซึ่งจากแนวโน้มต่างๆ บริษัทจึงพัฒนากลยุทธ์การขาย ช่องทางการจัดจำหน่าย การสื่อสารทางการตลาด เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ได้มากยิ่งขึ้น
ทั้งในกลุ่มสินค้าเครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น และพัดลม พร้อมฟังก์ชั่นใหม่ ที่ตอบโจทย์ชีวิตวิถีใหม่ โดยในปีนี้มีแผนเปิดตัวสินค้าใหม่ ได้แก่ เครื่องปรับอากาศมิตซูบิชิ อีเล็คทริค มิสเตอร์สลิม ECO EYE INVERTER XT Series , ตู้เย็น 2 ประตู รุ่น MR-FC35ER ขนาด 314 ลิตร เพิ่มพื้นที่การจัดเก็บได้มากขึ้น มาพร้อมช่องเก็บของอเนกประสงค์ที่ฝาประตู (Capsule door pocket) ประหยัดพลังงานด้วยระบบ Neuro Inverter เป็นต้น
“นอกจากการพัฒนาสินค้าและเสริมศักยภาพด้านการขายให้กับร้านค้าตัวแทนจำหน่ายและโมเดิร์นเทรดแล้ว ยังขยายช่องทางการจัดจำหน่ายใหม่ๆ ทั้งกลุ่มธุรกิจ B2C และ B2B มากขึ้น รวมทั้งการสื่อสารทางการตลาดทั้งในช่องทางออนไลน์ ผ่านทางโซเชียล มีเดียต่างๆ เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ พร้อมสร้างการรับรู้แบรนด์อย่างครบวงจร ล่าสุดเตรียมเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ ภายใต้แนวคิด “เทคโนโลยีประหยัดพลังงาน เพื่อชีวิตวิถีใหม่” นำเสนอนวัตกรรมล้ำสมัย ECO EYE Sensor เซ็นเซอร์อัจฉริยะ ซึ่งถ่ายทอดเรื่องราวผ่าน “โป๊ป ธนวรรธน์” พาร์ทเนอร์ พรีเซ็นเตอร์ ปีที่ 7 โดยจะเริ่มออกอากาศปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ และยังมีแผนจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย พร้อมแคมเปญยิ่งใหญ่ในวาระครบรอบ 50 ปีด้วย”
หน้า 21-22 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,648 วันที่ 28 - 30 มกราคม พ.ศ. 2564
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘ซัยโจ เด็นกิ’ ปรับแผน รับตลาดแอร์ฟื้น
เตรียมพร้อมทดสอบมาตรฐานฝีมือ"ช่างแอร์บ้าน"
‘ชาร์ป’ อัดโปร 0% เครื่องใช้ไฟฟ้า ปลุกกำลังซื้อฝ่าไวรัสโควิด-19