นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ประสานผู้ผลิตและผู้ค้าส่ง ค้าปลีก ให้ตรึงราคาจำหน่ายปลีกน้ำมันปาล์มบรรจุขวดให้นานที่สุด เพื่อดูแลผู้บริโภค และขอให้ผู้บริโภคลดภาระจากการซื้อหาน้ำมันปาล์ม โดยใช้น้ำมันทางเลือกอื่น เช่น น้ำมันถั่วเหลือง ซึ่งมีราคาไม่เปลี่ยนแปลงมากนักไปช่วงระยะหนึ่งก่อน และเมื่อถึงฤดูที่สถานการณ์ผลผลิตปาล์มน้ำมันกลับเข้าสู่ภาวะปกติ กรมฯ จะแจ้งให้ผู้ผลิตและผู้ค้า ปรับลดราคาให้สอดคล้องกับราคาผลผลิตปาล์มน้ำมันที่จะปรับลดลงต่อไป
ทั้งนี้ ปัจจุบันราคาผลปาล์มน้ำมันที่เกษตรกรขายได้ปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากกิโลกรัม (กก.) ละ 3.00–3.50 บาท ในช่วงกลางปี 2563 เป็น กก.ละ 7.00 บาท ในช่วงปลายปี 2563 และทรงตัวอยู่ในระดับสูงถึง กก.ละ 7.50 บาท ได้ทำให้ราคาน้ำมันปาล์มดิบในแหล่งผลิตขยับสูงขึ้น เป็น กก.ละ 39.00 บาท ได้ส่งผลกระทบต่อโรงงานอุตสาหกรรมที่ใช้น้ำมันปาล์มเป็นวัตถุดิบ และมีผลต่อเนื่องถึงราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวดในท้องตลาดปรับสูงขึ้นเป็นลิตรละ 46-48 บาท และอาจส่งผลต่อภาระค่าครองชีพของผู้บริโภค
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นในช่วงสั้นๆ โดยคาดว่าผลปาล์มจะออกเพิ่มขึ้นเข้าสู่ภาวะปกติในเดือนมี.ค.2564 ที่จะถึง จึงขอโอกาสนี้ให้กับเกษตรกรชาวสวนปาล์มที่จะขายผลผลิตได้ในราคาที่สูงขึ้น โดยชาวสวนปาล์มต้องบำรุงรักษาต้นปาล์ม เพื่อจะได้มีผลผลิตเข้าสู่ตลาดเพิ่มขึ้นในระยะต่อไป
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ กรมการค้าภายในได้ยกเลิกการกำหนดราคาเพดานสูงสุดสำหรับน้ำมันปาล์มที่ขวดละ 42 บาท และน้ำมันถั่วเหลือง ขวดละ 55 บาท เพื่อให้ราคาสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง โดยที่ผ่านมา ราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวดได้ปรับขึ้นลงตามราคาผลปาล์มดิบ และน้ำมันปาล์มดิบ ซึ่งส่วนใหญ่ราคาต่ำกว่าขวดละ 42 บาท เพิ่งจะมาปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นในช่วงนี้ หลังวัตถุดิบ คือ ผลปาล์มดิบเพิ่มขึ้นเป็น กก.ละ 7.50 บาท และน้ำมันปาล์มดิบ กก.ละ 39 บาท