นายอนุวัตร เฉลิมไชย นายกสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เมื่อวิกฤติโควิด-19 กลับมารอบใหม่นับเป็นความท้าทายของภาคธุรกิจ ที่จะหาทางรับมือกับสถานการณ์วิกฤตินี้ ดังนั้นนักการตลาดจึงควรปรับเปลี่ยนเพื่อรับมือกับความท้าทายรอบใหม่นี้โดยมุ่งเน้นให้ทุกๆธุรกิจ เตรียมพร้อมในการใช้ S.T.R.O.N.G เป็นวัคซีนทางธุรกิจ เป็นแนวทางได้นำไปประยุกติ์ให้ต่อไป
โดย S.T.R.O.N.G ที่นักการตลาดควรกลับมาทบทวนเพื่อสร้างความแข็งแกร่ง คือ
1.SEARCH for what they want กลับมาดูที่ความต้องการของลูกค้าของเราอีกครั้ง ในสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง ความต้องการของลูกค้าเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง เราทำอะไรให้ตอบโจทย์ และช่วยแก้ปัญหาต่างๆให้ลูกค้าได้หรือเปล่า
2.TRIM the fat ถึงเวลาลดความอ้วนขององค์กร ค่าใช้จ่ายไหนที่ไม่จำเป็น เราต้องลดลงให้ได้ หลายๆองค์กรที่ผ่านวิกฤติครั้งแรกมาได้ ก็ด้วยการ “ควบคุมต้นทุน” อย่างรัดกุม ดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ
3.RELOOK at your CORE STRENGTH คำถามนี้ ไม่ได้ถามว่า เราเก่งธุรกิจอะไร แต่เป็นคำถามเพื่อให้เรากลับมามององค์กรของเรา ว่าอะไรคือจุดแข็งที่แท้จริงของเรา เมื่อถึงเวลาที่เราต้องปรับธุรกิจ ขอให้เราปรับอยู่บนพื้นฐานของความเก่งของเรา เช่น เคยเป็นบริษัทอีเว้น ความสามารถของเราคือ คนที่มี creativity & production skill เราก็เอาสิ่งนั้นมาใช้ต่อยอด
หากเป็นโรงแรมหรือร้านอาหาร สิ่งที่มีคือความสามารถด้านการบริการและการทำอาหารอร่อยๆ แต่รูปแบบจะต้องเปลี่ยน หากเรามองกลับมาที่ตัว S แรก ... ค้นหาดูดีๆว่าลูกค้าต้องการอะไร แล้วจุดแข็งของเราเอามาทำอะไรตอบโจทย์ได้บ้าง ก็น่าจะพอมองเห็นเส้นทางเดินต่อไปได้
4. OPENMIND แต่การจะปรับได้แบบข้อที่กล่าวมาด้านบน ต้องอาศัย ตัว O นี้เป็นอย่างมาก หลายๆธุรกิจติดกับดักของความกลัวในใจของผู้บริหาร ไม่กล้าลอง ไม่กล้าเปลี่ยน ไม่เชื่อมั่นในการเปลี่ยนแปลง ... หากจะรอด เราต้องเปิดใจ … ดร. ดร.ลักขณา ลีละยุทธโยธิน ที่ปรึกษา Brand’s Suntory ได้กล่าวไว้ในงาน Thailand Marketing Day 2020 ว่า
“สำหรับการเปลี่ยนแปลง ต้องเปลี่ยนในขณะที่ยังเปลี่ยนได้ อย่ารอจนกว่าเราขยับไม่ได้ ใช้สัญชาตญาณในการทำงานเหมือนกับเด็กเล่นของเล่น ที่ไม่ต้องสอน ไม่ต้องอ่านคู่มือก็เล่นได้ เช่นเดียวกับเด็กที่ล้มก็ไม่เป็นไร ขอให้พยายามต่อ ล้มเร็ว ลุกเร็ว เรียนรู้เร็ว” หากเราไม่ลองทำอะไรใหม่ๆ เราก็จะได้แต่ผลลัพธ์เดิมๆ ธุรกิจจึงจำเป็นที่จะต้องเปิดใจแล้วสู้ต่อไป
5.NETWORK and COLLABORATION ในยุคนี้เป็นยุคแห่งการพึ่งพากันอย่างเป็นพันธมิตร ในปีที่ผ่านมา เราได้เห็นการร่วมมือกันทางธุรกิจอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน นั่นเป็นเพราะหลายๆแบรนด์เริ่มเปลี่ยนมุมมองการทำธุรกิจ จากที่เคยมองทุกคนเป็นคู่แข่ง ก็เริ่มมองว่าเขามีจุดแข็งอะไรที่เราไม่มี แล้วเราจะมาจับมือร่วมกันรอดได้อย่างไร ยุคนี้ถึงตัวเราจะต้อง social distancing เพื่อความปลอดภัย แต่ในทางธุรกิจ เราต้องดึงเพื่อนของเราเข้ามาให้ใกล้กับเรายิ่งขึ้น ลองมองรอบๆตัวและหาพันธมิตรเพื่อโอกาสใหม่ๆในการเติบโตร่วมกันอย่างแข็งแกร่ง
6.GROW your Skills and Experiences อย่ายึดติดกับความสำเร็จหรือความสามารถแบบเดิมๆ ในยุคนี้เราต้องมีไฟในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆและพร้อมที่จะก้าวออกจาก comfort zone แสวงหาประสบการณ์ที่จะมาเติมเต็มความสามารถของเรา คนทุกคนสามารถเติบโตได้ และทุกๆธุรกิจยังสามารถเติบโตได้ แต่เราต้องพร้อมที่จะรับโอกาสใหม่ๆเหล่านั้น ในโลกการตลาดยุคใหม่ ใครที่หยุดเรียนรู้เท่ากับกำลังเดินถอยหลัง ดังนั้น เรามาเปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาสกันนะคะ หากช่วงนี้ธุรกิจต้องหยุดชะงักไปบ้าง ก็เป็นเวลาที่จะได้ย้อนมาดูว่า เราจะพัฒนาบุคลากรและธุรกิจของเราต่อไปอย่างไรได้บ้าง มา Upskill & Reskill กัน
สิ่งที่สำคัญที่สุดในการปรับองค์กรให้ S.T.R.O.N.G ในโลกการตลาดยุคใหม่ คือการปรับ mindset ควบคู่ไปกับ skillset ใหม่ๆที่จำเป็น โดยสมาคมการตลาดฯขอแนะนำหลักสูตร Digital Marketing In Action รุ่นที่ 3 หลักสูตรการตลาดดิจิตอลของสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทยนี้ครอบคลุมทุกหัวข้อสำคัญ 8 วัน 8 หัวข้อ โดยมี 10 ผู้เชี่ยวชาญในสายงานดิจิทัล
เนื้อหาครอบคลุมตั้งแต่การวางกลยุทธ์การตลาดแบบครบวงจร การสร้างความเข้าใจผู้บริโภคยุคใหม่ ทั้งการเจาะใจให้เข้าถึง ไปจนถึงการสร้างคอนเทนต์ให้มีคุณค่าด้วยเนื้อหาที่ตอบโจทย์และโดนใจลูกค้า เข้าใจความเปลี่ยนไปของช่องทางการตลาด เข้าใจภาพรวมของแพลตฟอร์มใหม่ๆ รวมถึงกลยุทธ์หลักๆในการใช้ Digital Media ทั้งการวางแผนปฎิบัติการณ์ พร้อมเรียนรู้หลักการวาง KPI วัดผลสำเร็จ เรียนจริง ทำจริง รู้จริง กลับบ้านไป เอาไปทำได้จริง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สมการความสำเร็จ "นักการตลาด" สายพันธุ์ใหม่ ฝ่ามหาวิกฤติ “โควิด-19”
ท่องเที่ยวงัดกลยุทธ์ ‘ซ่อม-สร้าง’ก้าวข้ามวิกฤติ
MAT แนะ 10 เทรนด์การตลาดเอเชีย