เมื่อสมาชิกในครอบครัวก้าวเข้ามาทำงานในธุรกิจครอบครัว ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดหรือฐานะใด แน่นอนว่าย่อมเป็นที่จับตามมองจากพนักงานคนอื่นๆ แม้จะพยายามทำตัวกลมกลืนเพียงใด สมาชิกครอบครัวที่เข้าทำงานในบริษัทของครอบครัวต้องตระหนักว่าการกระทำของตนทั้งด้านบวกและด้านลบจะได้รับความสนใจ
แม้แต่ท่าทางที่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องเล็กน้อย เช่น การขับรถแฟนซีไปที่ทำงาน การโพสต์รูปถ่ายของตัวเองกับคนดังบน Facebook หรือการเรียกตัวเองว่า “เจ้าของ” ต่อหน้าเพื่อนร่วมงานก็อาจสร้างความไม่พอใจได้โดยไม่ได้ตั้งใจ ผู้เชี่ยวชาญด้านธรกิจครอบครัวจึงชี้ให้เห็นกับดักที่สมาชิกในธุรกิจครอบครัวพบบ่อยที่สุดซึ่งอาจสร้างความเสียหายได้และแนะนำวิธีการหลีกเลี่ยงดังนี้
การเข้าทำงานที่บริษัทด้วยเหตุผลที่ไม่ถูกต้อง หากสมาชิกในครอบครัวทำเหมือนกับเข้ามาในบริษัทเพื่อรับเงินเดือนเท่านั้น หรือเพราะไม่มีที่อื่นให้ไป จะเป็นการส่งสัญญาณว่าพนักงานทุกคนควรกอบโกยเพื่อตัวเองให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ดังนั้นจะเป็นการดีกว่าหากสื่อสารออกไปว่าคุณสนใจในธุรกิจนี้
หากคุณหลงใหลในธุรกิจและแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นผ่านพลังเชิงบวกและการทำงานหนักจะสามารถกระตุ้นพนักงานคนอื่นๆ ได้ และส่งเสริมให้พวกเขามุ่งเน้นไปที่การทำงานมากขึ้นและสนใจน้อยลงว่าใครจะได้อะไร
การเลื่อนตำแหน่งโดยไม่ต้องใช้ผลงาน เมื่อสมาชิกในครอบครัวเริ่มต้นทำงานในตำแหน่งที่เกินคุณสมบัติของตนเองหรือได้รับการเลื่อนตำแหน่งเร็วกว่าที่ควรจะเป็น พนักงานคนอื่นก็จะมีแนวโน้มที่จะให้ความสำคัญกับระบบอุปถัมภ์มากกว่าผลการปฏิบัติงานเมื่อต้องการไต่เต้าขึ้นสู่ตำแหน่งสูงขึ้น
ดังนั้นหากคุณกำลังเข้าร่วมในธุรกิจครอบครัวให้เริ่มต้นที่ตำแหน่งล่างสุดของพีระมิดและทำงานให้ก้าวหน้าไปสู่จุดสูงสุด ซึ่งจะเป็นการตอกย้ำว่าบริษัทนั้นมีหลักการบริหารที่เน้นความรู้ความสามารถของบุคคลเป็นหลักอย่างแท้จริง
การข้ามสายการบังคับบัญชาเพื่อให้ได้รับการดูแลเป็นพิเศษ บ่อยครั้งที่สมาชิกในครอบครัวใช้ประโยชน์จากการเข้าถึงผู้บริหารระดับสูงของบริษัท เนื่องจากเห็นว่าไม่สามารถทำตามกฎข้อบังคับได้และมองหาตัวช่วยรอบตัวพวกเขา คำแนะนำคือควรทำงานตามสายการบังคับบัญชาของตนอย่างตรงไปตรงมา อย่าร้องขอให้ญาติที่อยู่ในตำแหน่งระดับอาวุโสดูแลเป็นพิเศษ และปฏิบัติตามนโยบายในเรื่องของวันลาพักร้อน ค่าใช้จ่ายและเวลาทำงาน ซึ่งสิ่งนี้จะส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งความรับผิดชอบและเสริมสร้างความยุติธรรมของกระบวนการตัดสินใจของบริษัท
ความไม่ชัดเจนของเส้นแบ่งระหว่างสภาพแวดล้อมที่บ้านและที่ทำงาน การเมืองในองค์กรในธุรกิจครอบครัวจะมีความสับสนมากขึ้นเมื่อสมาชิกนำเรื่องความเป็นไปของครอบครัวเข้ามาในธุรกิจ โดยการแสดงบทบาทของสมาชิกในครอบครัวกับคนอื่นๆ ดังนั้นการกำหนดเส้นแบ่งที่ชัดเจนภายในที่ทำงานเป็นสิ่งสำคัญ เช่น การเรียกบุคคลด้วยชื่อมากกว่าความสัมพันธ์ (“แมรี่” แทนที่จะเป็น “แม่”) และไม่พูดคุยเรื่องดราม่าของครอบครัวในที่ทำงาน จึงจะเป็นแนวทางของความเป็นมืออาชีพได้
แม้การทำงานในธุรกิจครอบครัวอาจให้ผลตอบแทนมากมาย แต่ก็ต้องมีความรับผิดชอบมากมายเช่นกัน หากคุณทำงานหนักกว่าพนักงานคนอื่น ยินดีที่จะเรียนรู้บริษัทตั้งแต่ระดับล่างขึ้นบนและใช้สิทธิพิเศษของตนด้วยความสุภาพอ่อนน้อม จะทำให้มีแนวโน้มที่จะได้รับความเคารพจากเพื่อนร่วมงานและสามารถควบคุมการเมืองในองค์กรได้
ที่มา: Baron, J. 2020. The Common Traps Of Working In Your Family’s Business. Available: https://familybusinessunited.com/2020/11/11/the-common-traps-of-working-in-your-familys-business/
ข้อมูลเพิ่มเติม: www.famz.co.th
หน้า 21-22 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,653 วันที่ 14 - 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :