นายอชิต โจชิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมของตลาดเครื่องดื่มรวมมีมูลค่ากว่า 145,515 ล้านบาท โดยที่ชาพร้อมดื่ม ในประเทศไทยในปี 2563 มีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 11,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 7.6%
แต่เฉพาะในตลาดชากลุ่มน้ำตาลน้อยหรือไม่มีน้ำตาล มีมูลค่าเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา หรือเติบโตเป็น 8.8% ของตลาดชาพร้อมดื่มในไทย และมีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นอีกเรื่อยๆ
เนื่องจากผู้บริโภคเริ่มหันมาดูแลสุขภาพของตัวเอง ส่งผลให้พฤติกรรมการบริโภคในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงจากการเลือกเครื่องดื่มชาตามกระแส มาเป็นเลือกดื่มชาที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น โดยกว่า 99% ของผู้บริโภคชาพร้อมดื่มรู้จักและคุ้นเคยกับชาอู่หลง จึงนับได้ว่าตลาดชาพร้อมดื่มกลุ่มน้ำตาลน้อยหรือไม่มีน้ำตาล เป็นตลาดที่น่าสนใจ ซึ่งซันโทรี่เล็งเห็นถึงโอกาส ความพร้อม และศักยภาพในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงใจและดึงดูดให้ผู้บริโภคทดลองชิมได้ไม่ยาก
ด้าน นายสมชัย เกตุชัยโกศล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด กล่าวว่า ที่ผ่านมาตลาดชาในประเทศไทยเป็น ชาพร้อมพร้อมดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลสูง ซึ่งช่วงหลังเริ่มมีชาพร้อมดื่มหวานน้อยหรือสูตรไม่มีน้ำตาลออกสู่ตลาด เพื่อที่จะมาตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคมากขึ้น
ในขณะเดียวกันการบริโภคชาพร้อมดื่มในประเทศไทย ชาเขียวยังคงเป็นสัดส่วนที่มากที่สุด ส่วนชาอู่หลงยังคงมีสัดส่วนที่น้อย เพียง 2 รายและไม่มีการทำการตลาด ซึ่งเราเชื่อว่ามีโอกาสในการเติบโตสูงกว่า การออกผลิตภัณฑ์ที่ซ้ำๆกัน
บริษัททุ่มงบกว่า 200 ล้านบาทในการทำตลาด โดยระยะแรกให้ความสำคัญกับการสร้างการรับรู้และทดลองชิมผ่านแคมเปญแจกชิมสินค้าทั่วประเทศกว่า 1.6 ล้านขวดเพื่อให้ผู้บริโภคได้ทดลองชิม
รวมถึงกิจกรรมการตลาดแบบครบวงจร อาทิ สื่อดิจิตัล สื่อโทรทัศน์ สื่อนอกบ้าน เพื่อชิงส่วนแบ่งการตลาดในกลุ่มชาพร้อมดื่ม
โดยมีกลุ่มเป้าหมายหลัก คือ กลุ่มวัยทำงาน ช่วงอายุระหว่าง 25 – 35 ปี และในกลุ่มรักสุขภาพที่มองหาสินค้าที่มีประโยชน์และดีต่อสุขภาพ ซึ่งมีให้เลือก 2 รสชาติ ได้แก่ สูตรกลมกล่อมและสูตรไม่มีน้ำตาล วางจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อ ร้านค้าปลีก-ส่ง ซูเปอร์มาร์เก็ต และห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ
“เราเชื่อมั่นว่าชาอู่หลงพร้อมดื่ม ทีพลัส จะสามารถครองใจผู้บริโภคได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีความแตกต่างทั้งรสชาติอันโดดเด่น พิถีพิถันในทุกขั้นตอนการผลิตที่ได้มาตรฐานแบบเดียวกับซันโทรี่ ประเทศญี่ปุ่น เป็นทางเลือกเพื่อสุขภาพ ตลอดจนการทำการตลาดที่ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์และความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย จะช่วยให้เราก้าวสู่การเป็นผู้นำในตลาดชาพร้อมดื่มของประเทศไทยในอนาคต และผลักดันยอดขายในช่วงปีแรกของการเปิดตัวให้เติบโตได้ตามเป้าที่ตั้งไว้”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :