กัญชงฟีเวอร์ N.E.Hemp เล็งปลูก 800 ไร่

07 มี.ค. 2564 | 07:38 น.
อัปเดตล่าสุด :08 มี.ค. 2564 | 11:19 น.

กัญชงฟีเวอร์ "N.E.Hemp" เล็งนำเข้าเมล็ดพันธุ์ พร้อมปูพรมปลูกในภาคอีสาน หวังสร้างรายได้จากวัตถุดิบกว่า 1,500 ล้านบาท

นายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.อี.เฮมพ์ จำกัด (N.E.Hemp) ประกอบธุรกิจนำเข้า ผลิตและจำหน่ายวัตถุดิบเมล็ดกัญชง เปิดเผยว่า หลังจากที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติร่างกฎกระทรวงปลดล็อคให้บริษัทเอกชนสามารถขออนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย หรือมีไว้ครอบครอง ซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 5 เฉพาะกัญชง มีผลตั้งแต่วันที่ 29 มกราคม 64 ที่ผ่านมานั้น บริษัทมองเห็นโอกาสของธุรกิจกัญชงว่ามี โอกาสเติบโตอย่างมาก เพราะถือเป็นธุรกิจใหม่ที่ได้รับการอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมายเมื่อไม่นานนี้

รวมไปถึงความต้องการของผู้บริโภคที่เล็งเห็นถึงสรรพคุณทางการแพทย์ของกัญชง และมีความต้องการบริโภค ขณะที่กลุ่มผู้ประกอบการเองก็มีความต้องการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่มีส่วนผสมของกัญชงมาเป็นวัตถุดิบ ทำให้กระแสการตอบรับของกัญชงมีเข้ามาอย่างมากและต่อเนื่อง

ชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์

ขณะที่บริษัทเองมีความพร้อมในด้านของเมล็ดพันธุ์ที่ได้คัดสรรมาเป็นอย่างดี ประกอบกับมีพื้นที่เพราะปลูกที่เหมาะสม ตลอดจนได้ศึกษาแนวทางการเพาะปลูกให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อให้ได้ต้นกัญชงที่มีสารสกัดซึ่งไม่มีฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาท (CBD) สูงแต่มีสารสกัดมีฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาท (THC) ต่ำ และสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าว่าผลิตภัณฑ์ของบริษัทได้รับการอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

ทั้งนี้บริษัทมีการวางแผนขออนุญาตนำเข้าเมล็ดพันธุ์จากประเทศเนเธอร์แลนด์ เพื่อนำมาปรับปรุงพัฒนาสายพันธุ์กับกัญชงสายพันธุ์พื้นเมือง ในพื้นที่จำนวน 16 ไร่ เพื่อให้เหมาะกับภูมิประเทศ และภูมิอากาศของภาคอีสาน ที่เป็นแหล่งปลูกกัญชงได้เป็นอย่างดี ซึ่งหลังจากที่บริษัทมีการพัฒนาสายพันธุ์ทั้ง 2 สายพันธุ์แล้ว บริษัทจะทำการปลูกเมล็ดพันธุ์ในโรงเรือนที่สามารถควบคุมอุณหภูมิได้ จำนวน 50 ไร่

นอกจากนี้จะมีการทำข้อตกลงกับมหาวิทยาลัย 2 แห่งในเรื่องของการวิจัยปรับปรุงพัฒนาสายพันธุ์ที่สามารถให้ผลผลิตส่วนของช่อดอกและเมล็ดในปริมาณที่มากขึ้น ทั้งนี้คาดว่าปี 2566 บริษัทจะมีรายได้จากการขายวัตถุดิบกัญชง 1,500 ล้านบาทบนพื้นที่การปลูกกัญชงที่ 800 ไร่

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :