นายโอภาส ทองยงค์ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เผยว่า จากแนวโน้มปัญหาการทุจริตในสหกรณ์ที่เพิ่มขึ้นทุกปีจากหลายปัจจัย นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้กำชับให้กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ในฐานะหน่วยงานทำหน้าที่ตรวจสอบบัญชี ตลอดจนให้คำปรึกษาแนะนำ ให้ความรู้ด้านบริหารการเงินการบัญชีแก่สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร เร่งพัฒนางานตรวจสอบบัญชีให้สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร สามารถจัดทำบัญชีและงบการเงินได้ พร้อมทั้งควบคุมคุณภาพงานสอบบัญชีของผู้สอบบัญชี ให้เป็นไปตามมาตรฐานวิชาชีพและตามที่ระเบียบกรมตรวจบัญชีสหกรณ์กำหนดอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้เพื่อให้สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรได้รับการตรวจสอบบัญชีอย่างโปร่งใส ปราศจากการทุจริต สามารถนำผลการตรวจสอบบัญชีและข้อสังเกตจากผู้สอบบัญชีไปแก้ไขปรับปรุง เพื่อให้การบริหารจัดการของสหกรณ์มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในปัจจุบันที่สหกรณ์ไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีสมาชิกอยู่ทั่วประเทศกว่า 12 ล้านคน มีทุนดำเนินงานกว่า 3.56 ล้านล้านบาทและมีมูลค่าการดำเนินธุรกิจกว่า 2.23 ล้านล้านบาท
ดังนั้น กรมตรวจบัญชีสหกรณ์จึงต้องเร่งพัฒนางานตรวจสอบบัญชี ควบคุมคุณภาพงานสอบบัญชีของผู้สอบบัญชีให้เป็นไปตามมาตรฐาน เพื่อผลักดันสหกรณ์ให้เกิดความเข้มเข็ง มีความโปร่งใสและสมาชิกได้รับประโยชน์สูงสุด โดยหนึ่งในมาตรการสำคัญคือ การนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ มาใช้เพื่อให้ก้าวทันกับยุคสมัยและตอบสนองกับการดำเนินธุรกิจของสหกรณ์ที่หลากหลายมากขึ้น อาทิ การเร่งพัฒนาผู้สอบบัญชีให้มีองค์ความรู้และทักษะด้านการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการสอบบัญชี เพื่อสร้างคุณภาพและความเชื่อมั่นของผลงานการสอบบัญชี เรียกว่า“ไซเบอร์ออดิเตอร์” (CYBER AUDITOR) หรือผู้สอบบัญชีที่มีสมรรถนะด้านไอทีในระดับสูง ให้มีความก้าวหน้า รวดเร็วและแม่นยำอย่างต่อเนื่อง
อีกทั้ง ได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้ตรวจสอบการจัดทำรายงานทางการเงินของสหกรณ์ต่าง ๆ ทั่วประเทศว่าเป็นไปอย่างถูกต้องครบถ้วน ทันเวลา ข้อมูลตรงตามความเป็นจริงและปฏิบัติตามกฎระเบียบที่กำหนดไว้ หากพบว่ายังมีข้อบกพร่อง ต้องมีการรายงาน การสั่งการและมีข้อเสนอแนะให้ปรับปรุงแก้ไขให้ตรงตามความจริง เหมาะสมและทันเวลา
อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบบัญชีสหกรณ์ในรอบหลายปีที่ผ่านมา พบว่ารูปแบบการทุจริตในสหกรณ์ส่วนใหญ่เกิดจากตัวบุคคลที่มีความใกล้ชิดกับสหกรณ์ หรือการใช้ช่องโหว่ทางเทคโนโลยีของเจ้าหน้าที่สหกรณ์แก้ไขปรับแต่งตัวเลขทางบัญชีเป็นเท็จ เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบ สร้างความเสียหายและส่งผลกระทบต่อสมาชิก ทำให้เกิดความไม่เชื่อมั่นต่อระบบสหกรณ์ไทย ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญของผู้ตรวจสอบบัญชีในการสืบค้นข้อมูลในระบบอย่างละเอียด ดังนั้น ขอฝากถึงสมาชิกว่า อย่าไว้ใจคนใกล้ตัว ให้หมั่นตรวจสอบข้อมูลการทำธุรกรรมการเงินของตนเองและสหกรณ์อย่างสม่ำเสมอ
ปัจจุบันผู้สอบบัญชีสหกรณ์มีบทบาทในการช่วยป้องกันและลดปัญหาการทุจริตในสหกรณ์ รวมทั้งเป็นกำลังสำคัญให้กับสหกรณ์ในการให้คำปรึกษาแนะนำให้ความรู้ด้านบริหารการเงินการบัญชีแก่คณะกรรมการและสมาชิกของสหกรณ์ ตลอดจนพัฒนาสหกรณ์ไทยให้มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับ ซึ่งในอนาคตกรมฯ มีแผนในการพัฒนาเจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับปัญหาและความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคมที่เกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทั่วทุกภูมิภาคเร่งดำเนินการตามข้อสั่งการของนางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์อย่างเคร่งครัด