ค้นหา “เมล็ดกาแฟ” ที่สุดแห่งปี 2564

11 มี.ค. 2564 | 13:50 น.

​​​​​​​กรมวิชาการเกษตร จับมือ เอกชนร่วมจัดงานประกวดสุดยอดกาแฟไทย ปี 64  ครั้งแรกในไทย กับการ ค้นหา “เมล็ดกาแฟอะราบิกา”- “โรบัสตา” สนใจสมัครภายใน 31 มี.ค.นี้

“กาแฟ” นับเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศไทยที่สร้างมูลค่าถึง 33,000 ล้านบาท  สร้างรายได้แก่เกษตรกรและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง  โดยประเทศไทยมีสภาพพื้นที่ที่สามารถปลูกกาแฟได้ทั้งกาแฟอะราบิกาและโรบัสตา  ซึ่งปัจจุบันผลผลิตกาแฟอะราบิกาในภาคเหนือของไทยมีปริมาณ 9.2 พันตัน ส่วนการผลิตกาแฟโรบัสตาของไทย ส่วนใหญ่เป็นการผลิตเพื่อจำหน่ายให้ผู้ประกอบการโรงงานแปรรูป แต่ปัจจุบันมีกระบวนการแปรรูปเพื่อให้ได้กาแฟโรบัสตาที่มีรสชาติโดดเด่นทำให้ผู้บริโภคเริ่มมีความนิยมในการบริโภคกาแฟโรบัสตาเป็นกาแฟสด ด้วยเช่นกัน

พิเชษฐ์  วิริยะพาหะ

 

วันที่ 11 มีนาคม 2564 นายพิเชษฐ์  วิริยะพาหะ  อธิบดีกรมวิชาการเกษตร  กล่าวว่า  สถานการณ์วิกฤติการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 โควิด-19”  ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ได้ส่งผลกระทบในวงกว้างต่อเศรษฐกิจโลก รวมทั้งการดำรงชีวิตและการใช้ชีวิตของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะผู้ประกอบการร้านกาแฟที่ชะลอการรับซื้อผลผลิตกาแฟของเกษตรกร ทำให้ผลผลิตกาแฟคงค้างอยู่ที่เกษตรกรและผู้ประกอบการจำนวนกว่า 2,000 ตัน และในช่วงเดือนมีนาคม 2564 นี้ ผลผลิตกาแฟฤดูกาล 2563/2564 จะเข้ามาเพิ่มอีกจำนวนกว่า 9,000 ตัน ในขณะที่สถานการณ์ของ "โควิด-19" ยังมีการแพร่ระบาดอยู่จนถึงปัจจุบัน

 

“เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรชาวสวนกาแฟและผู้ประกอบการ  รวมทั้งประเทศไทยยังมีอีกหลายพื้นที่ที่ยังไม่มีการศึกษาเอกลักษณ์รสชาติกาแฟ ซึ่งหากทราบรสชาติและเอกลักษณ์ของกาแฟ จะสามารถนำมาประชาสัมพันธ์เพิ่มโอกาสทางการตลาดและการจำหน่ายผลผลิตของเกษตรกรได้”

 

ต้นกาแฟ

“กรมวิชาการเกษตร” จึงได้ร่วมกับกรมส่งเสริมการเกษตร กรมส่งเสริมสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมการค้าภายใน กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ สมาคม และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจกาแฟ จัดกิจกรรมการประกวดสุดยอดกาแฟไทย ประจำปี 2564 (Thai Coffee Excellence 2021) เพื่อส่งเสริม ประชาสัมพันธ์เอกลักษณ์  สร้างมูลค่าเพิ่มและขยายโอกาสช่องทางการตลาดให้กับกาแฟไทยเพิ่มขึ้น  รวมทั้งยังช่วยระบายผลผลิตของเกษตรกรได้อย่างยั่งยืนอีกด้วย

 

จัดประกวด ครั้งแรกในไทย

 

ทั้งนี้ การจัดงานในปี 2564 นี้ถือเป็นปีแรกที่องค์การกาแฟระหว่างประเทศได้จัดสรรงบประมาณจากกองทุนพิเศษจำนวน ประมาณ 1 ล้านบาท ให้แก่ประเทศไทยในฐานะประเทศสมาชิกจัดกิจกรรมดังกล่าว  เพื่อประชาสัมพันธ์กาแฟไทย สร้างการรับรู้ จุดเด่นของกาแฟไทย ให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะกลุ่มผู้บริโภคนักดื่มกาแฟรุ่นใหม่  รวมทั้งความพิเศษของการประกวดครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่จะมีการประกวดทั้งกาแฟอะราบิกาและโรบัสตา 

เนื่องจากที่ผ่านมาเคยมีแต่การประกวดเฉพาะกาแฟอะราบิกาเท่านั้น  โดยเมล็ดกาแฟที่ส่งเข้าประกวดจะต้องเป็นสายพันธุ์อะราบิกาและโรบัสตาที่ปลูกในประเทศไทยและเมล็ดกาแฟจะต้องเป็นผลผลิตของปี 2563/2564 เท่านั้น  ซึ่งเกณฑ์การตัดสินจะพิจารณาใน 3 ด้าน ได้แก่ คุณภาพด้านกลิ่น คุณภาพด้านรสชาติ และคุณภาพอื่น ๆ ได้แก่ ข้อบกพร่อง ขนาดและความสมบูรณ์ของเมล็ด 

 

“ในปี 2564 นี้กรมวิชาการเกษตรเป็นเจ้าภาพหลักในการจัดการประกวดสุดยอดกาแฟอะราบิกาและโรบัสตาของประเทศไทย  เพื่อค้นหาเมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพดี ตั้งแต่ต้นทางการปลูกกาแฟ รวมถึงรสชาติกาแฟ จนได้เป็นเมล็ดกาแฟไทยเกรดพิเศษและรณรงค์ส่งเสริมเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟให้ตระหนักถึงความสำคัญของการปลูกกาแฟให้ได้ผลผลิตกาแฟอย่างมีคุณภาพและแสดงถึงอัตลักษณ์กาแฟไทย

เมล็ดสมบูรณ์ ของ กาแฟ

 

รวมทั้งส่งเสริมและพัฒนากาแฟไทยให้มีคุณภาพดีสู่ระดับโลก เพิ่มมูลค่า สร้างรายได้และความยั่งยืนแก่เกษตรกร  โดยเริ่มเปิดรับใบสมัครแล้วตั้งแต่วันที่ 1 - 31 มีนาคม 2564 เกษตรกร หรือกลุ่มเกษตรกร/สหกรณ์/วิสาหกิจชุมชน ที่สนใจส่งเมล็ดกาแฟเข้าประกวดสามารถสอบถามรายละเอียดการสมัครเพิ่มเติมได้ที่ผู้ประสานงานกองประกวดหมายเลขโทรศัพท์ 065-497-9635, 081-387- 6135 , 081-444 8651, 087-798 1259 และ 099-178- 8953”