นพ.สุพจน์ สัมฤทธิวณิชชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยันฮี วิตามิน วอเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ออกวางจำหน่ายต่อเนื่อง โดยในช่วงซัมเมอร์หรือหน้าร้อนนี้จะส่งน้ำวิตามินซี รสชาติต่างๆ ออกสู่ตลาดเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค โดยตั้งเป้าที่จะเพิ่มยอดขายอีก 20 %
อย่างไรก็ดีกรณีที่มีข่าวน้ำดื่มยันฮี วิตามิน ซี วอเตอร์ ตรวจไม่พบสารวิตามินซีในน้ำนั้น เป็นการนำน้ำมาตรวจโดยไม่ใช่วิธีมาตรฐานสากล ทำให้ค่าที่ได้มีความเบี่ยงเบนจนไม่พบสารวิตามินในน้ำ ซึ่งกลายเป็นข่าวแล้วนั้น ทำให้เกิดผลกระทบต่อผู้บริโภค
จากเหตุดังกล่าวทำให้กระทรวงสาธารณสุข มีคำสั่งไปถึงสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี (สสจ.) เพื่อเก็บตัวอย่างน้ำจากโรงงานผลิตโดยตรง โดยเก็บใน Lot และช่วงเวลาเดียวกันกับ Lot ที่เป็นข่าว ต่อมาในวันที่ 28 มกราคม 2564 ทางบริษัทยันฮี วิตามิน วอเตอร์ ได้เข้าชี้แจงกับคณะอนุกรรมาธิการผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีตัวแทนจากหลายๆองค์กร
อาทิ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์, สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค, กองปราบปราม, นักวิชาการจากม.จุฬาลงกรณ์ และ ม.เกษตรศาสตร์ ร่วมรับฟังการชี้แจง โดยมีสำนักคุณภาพและความปลอดภัยอาหาร กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้นำน้ำไปตรวจโดยใช้เครื่อง (HPLC) ซึ่งเป็นเครื่องมือมาตรฐานสากลได้รับการยอมรับทั่วโลกว่าสามารถใช้แยกสารประกอบที่ผสมอยู่ในน้ำตัวอย่างได้แม่นยำ มีค่าเบี่ยงเบนน้อย
หลังจากนั้น ในวันที่ 1 มีนาคม 2564 ได้มีประกาศรับรองจากสำนักคุณภาพและความปลอดภัย กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ว่า น้ำยันฮี วิตามิน ซี วอเตอร์ มีวิตามินซีผสมอยู่ในน้ำในปริมาณที่กำหนดตามมาตรฐานจริงตรงกับที่ได้ขออนุญาตไว้
สำหรับผลตรวจที่ได้จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี(สสจ.นนทบุรี) ระบุว่า น้ำดื่มยันฮี วิตามินซี วอเตอร์ พบว่า มีวิตามินซีจริงตามมาตรฐานและมีประโยชน์ต่อร่างกาย
“เชื่อมั่นว่า จากผลการทดสอบที่ได้มาตรฐานระดับสากล จะทำให้ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นและมั่นใจได้ว่า การดื่มน้ำยันฮี วิตามิน ซี วอเตอร์นั้น มีวิตามินซีผสมอยู่จริงตามข้อมูลในฉลาก และบริษัทยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาน้ำดื่มให้มีคุณภาพ มาตรฐาน ภายใต้การพัฒนาสูตรแบบออแกนิค โดยทีมแพทย์ที่มีความรู้และประสบการณ์ เพื่อสร้างความแตกต่างจากน้ำวิตามินยี่ห้ออื่นๆในท้องตลาด และครองความเป็นผู้นำตลาดน้ำวิตามินต่อไป”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :