นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า การค้าชายแดนและผ่านแดนของไทย เดือนมกราคม 2564 มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 128,849 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.90% เทียบช่วงเดียวกันของปี 2563 แบ่งเป็นการส่งออก 74,325 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.91% และการนำเข้า 54,524 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.02% โดยไทยยังคงได้ดุลการค้ากับประเทศเพื่อนบ้านอย่างต่อเนื่อง 19,801 ล้านบาท ซึ่งในเดือนมกราคม 2564 การค้าชายแดนของไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน (มาเลเซีย เมียนมา สปป.ลาว และกัมพูชา) มีมูลค่า 72,224 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 6.81% โดยมาเลเซียยังคงเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่ง มีมูลค่าการค้ารวม 26,736 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 32.65% รองลงมาคือ สปป.ลาว มีมูลค่าการค้ารวม 16,771 ล้านบาท ลดลง 8.13% เมียนมา มีมูลค่าการค้ารวม 13,655 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.90% และกัมพูชา มีมูลค่าการค้ารวม 15,063 ล้านบาท ลดลง 3.90% สำหรับสินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปมาเลเซีย ได้แก่ ยางพารา เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และรถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ สปป.ลาว ได้แก่ น้ำมันดีเซล น้ำมันสำเร็จรูปอื่นๆ และรถยนต์นั่ง เมียนมา ได้แก่ เครื่องเทศและสมุนไพร รถจักรยานยนต์ฯ และปูนซิเมนต์ กัมพูชา ได้แก่ เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ รถยนต์นั่ง และรถจักรยานยนต์ฯ
ด้านการค้าผ่านแดนประเทศเพื่อนบ้านไปตลาดจีน สิงคโปร์ เวียดนาม และประเทศอื่นๆ มีมูลค่ารวม 56,625 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48.69% โดยจีนยังคงเป็นคู่ค้าสำคัญอันดับหนึ่ง มีมูลค่าการค้ารวม 22,455 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48.91% รองลงมาคือ สิงคโปร์ มีมูลค่าการค้ารวม 8,894 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43.99% เวียดนาม มีมูลค่าการค้ารวม 5,926 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49.45% และประเทศอื่นๆ มีมูลค่าการค้ารวม 19,350 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50.44% สินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปจีน ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ลำใยแห้ง และยางพารา สิงคโปร์ ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ แผงวงจรไฟฟ้า และเครื่องตัดต่อและป้องกันวงจรไฟฟ้า และเวียดนาม ได้แก่ สินค้าปศุสัตว์อื่นๆ เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์ และไดโอด
สำหรับสถานการณ์การเปิดทำการจุดผ่านแดนเพื่อการขนส่งสินค้า ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ไทยเปิดทำการจุดผ่านแดนเพื่อการขนส่งสินค้าทั้งสิ้น 40 แห่ง เพิ่มขึ้นจากสิ้นเดือนมกราคม 2564 จำนวน 5 แห่ง ประกอบด้วย ด้านชายแดนไทย-เมียนมา 3 แห่ง คือ (1) จุดผ่านแดนถาวรบ้านพุน้ำร้อน จ.กาญจนบุรี (2) จุดผ่อนปรนการค้าด่านพระเจดีย์สามองค์ (จุดผ่านแดนชั่วคราวเพื่อการท่องเที่ยว) จ.กาญจนบุรี และ (3) จุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร จ.ประจวบคีรีขันธ์ และด้านชายแดนไทย-กัมพูชา จ.จันทบุรี 2 แห่ง คือ (1) จุดผ่อนปรนการค้าบ้านซับตารี และ (2) จุดผ่อนปรนการค้าบ้านสวนส้ม ซึ่งจะช่วยเพิ่มช่องทางในการขนส่งสินค้าไปยังประเทศเพื่อนบ้านแก่ผู้ประกอบการ
กรมฯ ได้กำหนดเป้าหมายมูลค่าการค้าชายแดนและผ่านแดนในปี 2564 โดยมุ่งเน้นด้านการส่งออกให้เติบโต 3-6% และคาดว่าการค้าชายแดนและผ่านแดนจะมีมูลค่ารวม 1.36-1.40 ล้านล้านบาท โดยมีปัจจัยบวกที่สำคัญคือ ความคืบหน้าในการพัฒนาและการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 รวมทั้งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและประเทศเพื่อนบ้าน ยกเว้นเศรษฐกิจเมียนมาที่อาจได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในเมียนมา อย่างไรก็ดี พบว่าปัจจุบันสถานการณ์ในเมียนมา ยังไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการค้าชายแดนอย่างมีนัยสำคัญ และผู้ประกอบการไทยยังสามารถทำการขนส่งสินค้าผ่านด่านชายแดนไทย-เมียนมาได้