สิ้นสุดการรอคอย"เปิดประเทศรับท่องเที่ยวต่างชาติฉีดวัคซีน"ถกครม.วันนี้

กระทรวงท่องเที่ยวฯเตรียมเสนอครม.วันนี้ถกแนวทางเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบแล้ว และมีผลตรวจโควิด-19 เป็นลบ เที่ยวไทย ตามไทม์ไลน์ 3  ระยะ ดีเดย์ 1 เม.ย.นี้ เข้า 6 จังหวัดได้ กักตัว 7 วัน คาด 3 เดือนต่างชาติต่างชาติเที่ยวไทย 1 แสนคน ส่วน 1 ก.ค.เริ่ม “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” ไม่ต้องกักตัว และจะขยายไปในพื้นที่กระบี่ พังงา สมุย พัทยา เชียงใหม่

วันนี้ (30 มีนาคม 2564)นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กระทรวงท่องเที่ยวฯเตรียมรายงานที่ประชุมครม.ถึงแนวทางการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ได้รับการฉีดวัคซีนครบแล้ว และมีผลการตรวจโควิด-19 เป็นลบซึ่งจะนำร่องในวันที่ 1 เมษายนนี้ เบื้องต้นคาดว่าในระยะ 3 เดือน (เมษายน-มิถุนายน) จะมีต่างชาติเดินทางเข้ามา 1 แสนคนในระยะแรก

“ขณะนี้เริ่มมีต่างชาติแสดงเจตจำนงในการเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยแล้ว อาทิ รัสเซีย ยูเครน เยอรมัน และสแกนดิเนเวีย รวมถึงวางแผนในการดึงประเทศในระยะใกล้ หรือเอเชีย เข้ามาเที่ยวไทยเพิ่มขึ้น อาทิ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น เนื่องจากประเทศเหล่านี้มีกำหนดการเปิดประเทศและอนุญาตให้พลเมืองเดินทางออกนอกประเทศแล้ว”

โดยการนำร่องเปิดประเทศวันที่ 1 เมษายนนี้ มีเงื่อนไขคือ เป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนต้านไวรัสครบ 2 โดสแล้ว ต้องกักตัว 7 วัน ตรวจหาเชื้อโควิด-19 เมื่อเดินทางถึงไทย และพำนักอยู่ในพื้นที่ที่กำหนดเท่านั้น ซึ่งจะนำร่องที่จังหวัดภูเก็ต กระบี่ พังงา เกาะสมุย พัทยา และเชียงใหม่

ส่วนการทำแซนด์บ็อกซ์(Sandbox) เพื่อนำร่องเปิดประเทศรับต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบแล้ว โดยไม่ต้องกักตัวนั้น จุดสำคัญคือคนในพื้นที่จะต้องได้รับการฉีดวัคซีนต้านไวรัสครบ 2 โดสไม่น้อยกว่า 70% ของภาพรวม โดยหากจำนวนวัคซีนที่เข้ามานั้นไม่เพียงพอในการฉีดให้คนในพื้นที่ ก็จะรับต่างชาติมาแบบ “บล็อก แอเรีย” ให้อยู่จำกัดในพื้นที่นั้นๆ เท่านั้น ซึ่งส่วนนี้จะต้องหารือร่วมกับสาธารณสุขอีกครั้ง

แต่ยืนยันว่าในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ จะเปิดรับต่างชาติเข้ามาเที่ยวไทยแบบไม่กักตัว นำร่องที่ภูเก็ตได้ก่อนแน่นอน แต่ต้องอยู่ภูเก็ตก่อน 7 วัน หากปลอดภัยจึงจะสามารถเดินทางไปเที่ยวที่อื่นได้

นายพิพัฒน์ กล่าวยังกล่าวต่อว่าเมื่อวันที่ 26 มีนาคม2564ในการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ จากผลกระทบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) ได้อนุมัติโรดแมป การเปิดรับต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบแล้วเข้าไทยได้ แบ่งเป็น 3 ระยะ

ระยะที่1 ไตรมาส2  เดือน เมษายน – มิถุนายน 2564  เข้าพื้นที่ท่องเที่ยวหลัก ภูเก็ต กระบี่ พังงา สมุย พัทยา และเชียงใหม่ โดยให้กักตัวในโรงแรม หรือ พื้นที่จำกัด 7 วัน

ระยะที่2 ไตรมาส 3 (กรกฎาคม – กันยายน 2564) ต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบ 2 โดสเข้าเข้าไทยปลายทางที่จังหวัดภูเก็ต ภายใต้โมเดล “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” ไม่ต้องกักตัว  ที่จะเริ่ม 1 ก.ค.นี้ เมื่อเที่ยวในภูเก็ตครบ 7 วัน สามารถเดินทางออกนอกภูเก็ตได้  และใช้มาตรการ Vaccine certificate และแอปพลิเคชั่นติดตามตัว ขณะที่ในพื้นที่อื่นยังใช้มาตรการ กักตัว 7

ระยะที่ 3 ไตรมาส 4 (เดือน ตุลาคม – ธันวาคม 2564) ขยายพื้นที่รับต่างชาติแบบไม่กักตัวไปยังพื้นที่นำร่อง กระบี่ พังงา สมุย พัทยา และเชียงใหม่ ใช้แอพพลิเคชั่นไทยแลนด์พลัสติดตามตัว ก่อนเปิดประเทศรับต่างชาติไตรมาส 1 ปี 2565 ในเดือนมกราคมเป็นต้นไป

“ศบศ.เห็นชอบในหลักการ เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว 2 โดสเข้า จังหวัดภูเก็ต ไม่ต้องกักตัวตามข้อเสนอของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เริ่มดําเนินการใน วันที่ 1 กรกฎาคมนี้ โดย ททท.ต้องนำเรื่องดังกล่าวเข้าหารือกับ ศบค. และ ครม.ก่อนในสัปดาห์หน้า เบื้องต้นจะเริ่มที่ภูเก็ต เป็นจังหวัดแรกและจังหวัดเดียว ในวันที่ 1 กรกฎาคมที่ไม่ต้องกักตัว เพราะทุกอย่างพร้อม ส่วนสมุย คงยังต้องรอความพร้อมก่อน” นายพิพัฒน์ กล่าวทิ้งท้าย

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ( ททท.) กล่าวว่า โรดแมปการเปิดรับต่างชาติเข้าไทย เริ่มดำเนินการภายใต้เงื่อนไข คนในพื้นที่ต้องยินยอมและกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ต้องเร่งดำเนินการการฉีวัคซีนให้คนในท้องที่นำร่องเบื้องต้น คือจังหวัดภูเก็ต ก่อนถึงวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ต้องฉีดวัคซีนให้ครบ 2 โดสจำนวน 70% ของประชากรทั้งหมด และกระจายวัคซีนไปจนทั่วประเทศ ให้ครบ 70% ก่อนวันที 1 มกราคม 2565

เบื้องต้นประเมินต่างชาติ จะเข้าภูเก็ตได้ในไตรมาส 2 ประมาณ 1 แสนคน หลังจากนั้นในไตรมาส 3 หรือ 1 กรกฎาคมเป็นต้นไปจะมีต่างชาติเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น เพราะไทยเดินทางเข้าไทยโดยไม่ต้องกักตัวแล้ว ดังนั้นตลอดปี 2564 จะมีต่างชาติเดินางเข้าไทยได้จำนวน 6.5 ล้านคน หรือนำรายได้เข้าได้ประมาณ 3.5 แสนล้านบาท

อีกทั้งททท.ได้สำรวจพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวต่างชาติ 18 ตลาดทั่วโลก เพื่อทราบแนวโน้มการเดินทางระหว่างประเทศ ในปัจจุบันและอนาคต รวมถึงข้อมูลการฉีดวัคซีน รวมถึงความเห็นต่อการกักตัว ตลาดระยะไกล 7 ตลาด คือ เยอรมัน กลุ่มนอร์ดิกส์ อังกฤษ อิสราเอล และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดย เยอรมัน กลุ่มนอร์ดิกส์ อังกฤษ แสดงความสนใจจะเดินทางมายังไทยเป็นอันดับแรก หากไม่ต้องกักตัวปลายทางที่ต้องการมาคือ กรุงเทพฯ ภูเก็ต สมุย พัทยา เชียงใหม่ กระบี่ หัวหิน

นายก้องศักดิ์ คู่พงศกร นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ กล่าวว่า การเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนแล้วเข้ามาเที่ยวภูเก็ตโดยไม่ต้องกักตัว ที่เริ่มรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่ 1 ก.ค.นี้ เป็นเรื่องที่ดีมาก แต่คาดว่านักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้ามาน้อย เนื่องจากหลายประเทศยังไม่ให้คนเดินทางออก อาทิ จีน ออสเตรเลีย จึงขอให้กระทรวงต่างประเทศเร่งเจรจาTravel bubble กับประเทศทีมีความเสี่ยงต่ำเข้ามาภูเก็ต

ในส่วนโรงแรมที่เปิดบริการในภูเก็ตตั้งแต่ 1 ก.ค. 64 มีจำนวน 1-2 หมื่นห้อง เพียงพอรองรับตลาดคนไทยและตลาดต่างประเทศ โดยในช่วง 1 ต.ค.นี้โรงแรมจะทยอยเปิดให้บริการกันมากขึ้น แต่ยังมีอุปสรรคเรื่องสภาพคล่องของธุรกิจที่ต้องรีโนเวตก่อนเปิดรับลูกค้า ทางภาคเอกชนได้ขอซอฟต์โลนไปแล้ว รัฐก็ควรต้องช่วยในส่วนนี้ด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• ไทม์ไลน์เปิดประเทศ รับต่างชาติ ปั๊มท่องเที่ยว 1.2 ล้านล้าน
• นำร่อง 3 จังหวัดอันดามัน รับต่างชาติไม่ต้องกักตัว ดันประชากร 70% ฉีดวัคซีน
• “เราเที่ยวด้วยกัน เฟส3" เปิดเงื่อนไขใหม่ใช้สิทธิ์ต้องทำอย่างไร
• เปิดเงื่อนไข "ทัวร์เที่ยวไทย"รัฐจ่ายให้ 5,000บาท 1ล้านสิทธิ์
• 8องค์กรท่องเที่ยว-การบิน ชงรัฐดันแผนเปิดประเทศรับต่างชาติไม่ต้องกักตัว
• ถก3จังหวัดใต้ นำร่อง"Sandbox"เปิดประเทศรับต่างชาติโดยไม่ต้องกักตัว