ยันเดินหน้าไทม์ไลน์เปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ยันเดินไทม์ไลน์เปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติตามกำหนดเดิม แจงปัจจัยสำคัญคือการกระจายฉีดวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ โดยเฉพาะในจังหวัดภูเก็ต ก่อนเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนมาแล้วแบบไม่กักตัว ในวันที่ 1 ก.ค.นี้ ทั้งหลังสงกรานต์จะมีการประเมินว่าจะต้องปรับลดเป้าหมายการท่องเที่ยวในปีนี้หรือไม่

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่าผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิดครั้งล่าสุด ว่า กำหนดการเปิดรับท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ยังคงตามกำหนดการเดิม ปัจจัยสำคัญคือการกระจายฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ โดยเฉพาะในพื้นที่ภูเก็ต จะเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนมาแล้วแบบไม่กักตัว ในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้

นักท่องเที่ยวต่างชาติส่วนใหญ่จะเริ่มเดินทางเข้ามาในไตรมาส ที่ 3/2564 เพราะตอนนี้เดินทางเข้ามาก็ยังคงต้องกักตัวเป็นเวลา 7 วัน เว้นแต่คนที่มีความจำเป็นที่จะเข้ามา ผ่านวีซ่าประเภท สเปเชี่ยล ทัวริสต์ วีซ่า (Special Tourist Visa -STV) และ ทัวริสต์ วีซ่า (Tourist Visa-TR)

ส่วนยอดจองการท่องเที่ยวล่วงหน้ายังคงไม่มีมา เพราะทางนักท่องเที่ยวต่างชาติก็ยังรอมาตรฐานการปฏิบัติงาน (SOPS) ของประเทศไทยอยู่ จะมีการนำมาตรฐานการปฏิบัติงาน เข้าเสนอในที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ (ศบศ.) ให้อนุมัติหลักการภายในเดือนเมษายนนี้

ส่วนผลกระทบที่เกิดขึ้นมีการยกเลิกการท่องเที่ยวบ้าง บรรยากาศไม่ได้คึกคัก เพราะว่าหลายจังหวัดมีมาตรการการกักตัว หรือเมื่อเข้าไปในพื้นที่จะต้องมีการรายงานตัวกับอสม. ทำให้นักท่องเที่ยวหลายคนเลือกเดินทางไปยังพื้นที่ความเสี่ยงต่ำ หรือหลายคนเลือกจะไม่เดินทางเลย คาดว่าจะมีการยกเลิกการท่องเที่ยวช่วงสงกรานต์ประมาณ 20%

สำหรับมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวจะทำให้เร็วยิ่งขึ้น จากเดิมเราคิดว่าในเดือนเมษายนนี้จะฟื้นตัว แต่พอมีการระบาดของโรคโควิด-19 รอบที่ 3 หลังจากนี้ก็คงมีการทำให้เข้มข้นมากขึ้น จะมีการนัดประชุมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา หลังจากหยุดช่วงเทศกาลสงกรานต์ไป เพื่อประเมินผลกระทบ กำหนดการดำเนินงานต่อไป รวมถึงการประเมินว่าจะต้องมีการปรับลดเป้าหมายการท่องเที่ยวในปีนี้ลงด้วยหรือไม่ ” นายยุทธศักดิ์ กล่าวทิ้งท้าย

ขณะที่นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่าแม้ขณะนี้จะเกิดโควิดระลอก3  แต่การเปิดประเทศเพื่อรับนักท่องเที่ยวต่างชาติก็ยังคงเป็นไปตามไทม์ไลน์ที่รัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขเตรียมแผนไว้  โดยยอมรับว่าระยะสั้นในช่วง 1-2 เดือนนี้การท่องเที่ยวจะได้รับผลกระทบบ้าง  แต่ในระยะกลางผมไม่กังวล

เพราะเชื่อว่ากว่าจะถึงวันที่ 1 ก.ค.นี้ ที่จะเริ่มโมเดล ภูเก็ต แซนด์บล็อก โดยเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวีคซีนแล้วเดินทางมาเที่ยวภูเก็ตได้โดยไม่ต้องกักตัว สถานการณ์น่าจะคลี่คลายลงแล้ว  วันนี้แผนการฉีดวัคซีนให้คนภูเก็ตไม่ต่ำกว่า 70% ก่อนเริ่มภูเก็ต แซนด์บล็อกก็ยังคงเป็นไปตามเดิม และถ้าเราเริ่มทำที่ภูเก็ตสำเร็จ พื้นที่นำร่องที่เหลือ คือ กระบี่ พังงา เกาะสมุย พัทยา เชียงใหม่ ก็จะทยอยเริ่มใช้โมเดลนี้ได้ในเดือนต.ค.นี้                                                            

ส่วนเป้าหมายที่เราตั้งว่าช่วงไตรมาส2นี้ (เม.ย.-มิ.ย.นี้)ที่ลดวันกักตัวลงจาก 14 วันเหลือ 7 วันสำหรับนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว เหลือ 10 วัน สำหรับนักท่องเที่ยวที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน ยกเว้นนักท่องเที่ยวจากทวีปแอฟริกาที่ยังคงต้องกักตัว14 วัน ในช่วง 3 เดือนนี้ก็คาดว่าน่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ1 แสนคน เนื่องจากก็มีนักท่องเที่ยวเริ่มจองเข้ามาแล้ว

การแพร่ระบาดของโควิดระลอกใหม่ แน่นอนว่าการเดินทางเที่ยวในประเทศจะชลอตัวลงไปอีกรอบ แต่รัฐบาลก็เตรียมมาตรการในการช่วยเหลือผู้ประกอบการท่องเที่ยวไว้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นซอฟต์โลน วงเงิน 2.5 แสนล้านบาท และโครงการพักทรัพย์ พักหนี้ วงเงิน 1 แสนล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการท่องเที่ยว ซึ่งจะมีการออกพ.ร.ก.ซอฟต์โลนก้อนดังกล่าวไปแล้ว

รวมถึงโครงการกระตุ้นท่องเที่ยวที่จะตามมา ในเดือนพ.ค.นี้ หรือหลังสงกรานต์ ไม่ว่าจะเป็นโครงการ “เราเที่ยวด้วยกันเฟส”3 ที่จะเปิดให้จองได้ในเดือนพ.ค.นี้ โครงการ “ทัวร์เที่ยวไทย” ที่รัฐบาลจะสนับสนุน40%หรือไม่เกิน 5 พันบาทต่อคน ให้คนไทยเดินทางเที่ยวผ่านบริษัททัวร์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

• “พิพัฒน์”เดินหน้าแผนเปิดประเทศ
• ท่องเที่ยวภูเก็ตเฮฉีดวัคซีน22%ของประชากรแล้วรอต่อล็อต2อีก1แสนโดส
• จังหวัดภูเก็ตนำร่องสร้าง “ภูมิคุ้มกันหมู่” ฟื้นฟูท่องเที่ยว-ปลุกเศรษฐกิจ
• ถก3จังหวัดใต้ นำร่อง"Sandbox"เปิดประเทศรับต่างชาติโดยไม่ต้องกักตัว
• Villa Quarantine ศรีพันวา ฉลุยไร้ผู้ติดเชื้อโควิด ขยายผล7จังหวัดรับต่างชาติ
• ปรับเป้าท่องเที่ยวใหม่"ททท."ดันต่างชาติ6.5ล้านคน-อัพไทยเที่ยวไทย