นายปราโมทย์ เจริญศิลป์ นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ในช่วงนี้ ข้าวเปลือกนาปรังหลายพื้นที่เก็บเกี่ยวส่งขายโรงสี มีทั้งข้าวเปลือกเจ้า และข้าวเหนียวนาปรัง ซึ่งปีนี้มีพื้นที่เพาะปลูกมากกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากในหลายพื้นที่มีน้ำเพียงพอ กอปรกับราคาข้าวเปลือกทั้งสองชนิดปรับตัวลดลงจากช่วงที่ผ่านมา ทำให้ขณะนี้ ข้าวเปลือกเจ้าเกี่ยวสด อยู่ที่ราคาหน้าลาน 6,800-7,000 หรือคิดเป็นข้าวแห้งราคาประมาณ 8,000 กว่าบาท
“จากเดิมที่ผ่านมาราคาข้าวเปลือกเจ้าเกี่ยวสด อยู่ที่ประมาณ 8,500-8,700 หรือเป็นข้าวแห้งประมาณ 10,000 กว่าบาท เท่ากับว่าราคาปรับตัวลดลงค่อนข้างมาก ข้าวเหนียวก็เช่นเดียวกัน ราคาปรับตัวลดลงมามาก “ทราบว่าโรงสี ไม่ชอบข้าว กข61 เพราะเปลือกหนา สีได้ข้าวสารน้อย ซึ่งจะส่งผลต่อราคาข้าวเปลือก”
นายปราโมทย์กล่าวว่า เข้าใจว่าเกษตรกร ราคาสินค้าเกษตร เป็นเรื่องของกลไกตลาด ที่ควบคุมไม่ได้ ดังนั้นรัฐบาลต้องสนับสนุนในเรื่องปัจจัยการผลิตต่างๆ โดยเฉพาะเรื่อง เมล็ดพันธุ์ข้าวที่มีผลผลิตสูงตอบโจทย์ทุกฝ่าย เพื่อไม่ให้กระทบต่อต้นทุนการผลิต ไม่ว่าจะค่าปุ๋ย ค่ายา ซึ่งในขณะนี้ใกล้เข้าสู่ "ฤดูนาปี" ก็ขอให้ชาวนาพิจารณาในการเลือกพันธุ์ข้าวที่จะใช้ปลูก เลือกใช้พันธุ์ที่ดีมีคุณภาพ ให้ผลผลิตต่อไร่สูง มีความต้านทานต่อโรค ตรงกับความต้องการของตลาด เหมาะสมกับพื้นที่ที่เราจะเพาะปลูก
ที่สำคัญโดยเฉพาะชาวนาในกลุ่ม "ข้าวหอมมะลิ" ต้องพิถีพิถัน ในเรื่องของพันธุ์ข้าวปลูก และการเตรียมพื้นที่ เพื่อป้องกันปัญหาข้าวที่จะมีข้าวเมล็ดสั้น และเมล็ดแดงปน และการที่มีผลผลิตต่อไร่สูง เป็นการชดเชยผลตอบแทนในสัดส่วนของราคา เพื่อให้เกษตรกรอยู่ได้ในสถานการณ์ปัจจุบัน เช่นเดียวกับการเลือกสายพันธุ์ที่เหมาะสมกับหลักภูมิศาสตร์ และความชำนาญ เพื่อให้ตรงกับความต้องการของตลาด จึงมีความสำคัญมาก สำหรับชาวนา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง