นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า ในสถานการณ์วิกฤติโควิดความร่วมมือจากทุกฝ่ายเป็นสิ่งสำคัญ เซ็นทรัลพัฒนาได้ดำเนินการตามหลัก ‘ร่วมมือ-รุกเร็ว-เป็นระบบ’ หลังจากภาครัฐประกาศแผนโรดแมปเร่งด่วนในการช่วยกระจายพื้นที่ฉีดวัคซีน
เซ็นทรัลพัฒนาได้เสนอให้ใช้พื้นที่ศูนย์การค้า 23 สาขา (จากทั้งหมด 33 สาขาทั่วประเทศ) ที่มีศักยภาพเป็น Provincial Vaccination Centersซึ่งได้รับความไว้วางใจจากหน่วยงานท้องถิ่น และโรงพยาบาลในหลายจังหวัดในการใช้พื้นที่ศูนย์การค้าเป็นพื้นที่ให้บริการฉีดวัคซีน
โดยล่าสุด เซ็นทรัล สมุย ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน 4 จุดที่ให้บริการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ให้กับประชาชนบนเกาะสมุย เมื่อวันที่ 23-27 เม.ย. 64 โดยมีเจ้าหน้าที่ของภาครัฐและเอกชน สลับหมุนเวียนกันมาให้บริการ อาทิ โรงพยาบาลเกาะสมุย, โรงพยาบาลกรุงเทพ สมุย, และสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวสมุย
ซึ่งเซ็นทรัลพัฒนาได้นำเอาต้นแบบการใช้พื้นที่ศูนย์การค้าเป็นพื้นที่ให้บริการฉีดวัคซีนไปก่อนหน้านี้แล้วที่เซ็นทรัล ระยอง เมื่อวันที่ 21 เม.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งมีการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ มีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถนำไปปรับใช้กับศูนย์การค้าในจังหวัดอื่นๆ ได้ทันที
ในขณะเดียวกัน เราพร้อมให้ความร่วมมือภาครัฐในการดำเนินการในศูนย์การค้าที่มีศักยภาพ อาทิ จังหวัดนนทบุรี ที่เราพร้อมเสนอให้ใช้พื้นที่ 3 สาขาที่เรามี ได้แก่ เซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์, เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ และเซ็นทรัล เวสต์เกต เป็นต้น”
และอีกส่วนหนึ่งที่เซ็นทรัลพัฒนาปฏิบัติการอย่างเร่งด่วนไปพร้อมกันคือ การให้ความร่วมมือกับภาครัฐในการฉีดวัคซีนให้กับพนักงานบริษัทและร้านค้าในศูนย์การค้า โดยนำร่องฉีดวัคซีนให้พนักงานที่บริการลูกค้าแล้วที่เซ็นทรัล ภูเก็ต พร้อมทั้งตั้งเป้าหมายชัดเจนที่จะดำเนินการให้ 85% ของพนักงานได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มภายในกลางเดือน พ.ค. 64 นี้ ซึ่งเป็นอัตราที่จะช่วยสร้าง Herd Immunity หรือภูมิคุ้มกันหมู่ภายในศูนย์การค้าเป็นแห่งแรกของไทย และจะขยายผลไปสู่การผลักดันเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในจังหวัดต่อไป
ทั้งนี้ศูนย์การค้าเซ็นทรัลมีความใกล้ชิดชุมชน เป็นศูนย์กลางการใช้ชีวิตของผู้คนในทุกจังหวัด ทุกทำเลที่ไปตั้งอยู่ อีกทั้งสถานที่ยังมีความพร้อม มีพื้นที่ขนาดใหญ่ สะอาดปลอดภัยด้วยมาตรการแผนแม่บท ‘เซ็นทรัล สะอาด มั่นใจ’ ที่คุมเข้มและยกระดับมาอย่างต่อเนื่อง มีการจัดการ Social Distancing อย่างเป็นระบบ จึงไม่แออัด สามารถรองรับเจ้าหน้าที่และประชาชนจำนวนมากได้ ซึ่งจะเป็นการลดภาระ ลดความแออัดภายในโรงพยาบาลประจำจังหวัดอีกด้วย
อย่างไรก็ตามศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั้ง 33 แห่งทั่วประประเทศ ยังคงเดินหน้าคุมเข้มมาตรการเชิงรุกด้วยมาตรการ 5 แกนหลัก คือ 1) การคัดกรองอย่างเข้มงวด 2) ย้ำมาตรฐาน Social Distancing ทุกจุด งดความแออัด 3) การติดตามให้มั่นใจ เพื่อความปลอดภัย 4) การใส่ใจในความสะอาดทุกจุดในเชิงรุก และ 5) ลดการสัมผัส เพื่อความมั่นใจและความปลอดภัยสูงสุดของทุกท่านที่มาใช้บริการ
พร้อมการป้องกันไว้ล่วงหน้าด้วย Big Cleaning ทุกวัน หลังศูนย์ฯ ปิด และมั่นใจสูงสุดด้วยปฏิบัติการ Extra Deep Cleaning ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ COVID-19 ที่มีประสิทธิภาพสูงผ่านการรับรองโดยองค์กรระดับสากล ทันทีทุกจุดทั่วศูนย์ฯ ตามมาตรการแผนแม่บทเชิงรุก เพื่อความมั่นใจและความปลอดภัยสูงสุดของลูกค้าทุกท่านที่มาใช้บริการ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง