นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ตามที่ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีนโยบายตลาดนำการผลิต มุ่งเน้นให้เกษตรกรสามารถวางแผนการผลิตให้ตรงตามความต้องการของตลาด และมีตลาดรับซื้อที่แน่นอน เพื่อประกันว่าเกษตรกรจะมีรายได้ที่ดีขึ้น มีช่องทางการตลาดที่เหมาะสมกับสินค้า กลุ่มผู้บริโภค และสถานการณ์ ดังนั้นเพื่อเป็นการอุดหนุนสินค้าของเกษตรกร กรมส่งเสริมการเกษตรจึงได้บูรณาการความร่วมมือกับบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ในการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าเกษตร
โดยการจัดหาพื้นที่จำหน่ายสินค้าเกษตรในสถานีบริการน้ำมัน PTT Station ทั่วประเทศให้กับเกษตรกรโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ภายใต้ชื่อ “โครงการพื้นที่ปันสุข” มาตั้งแต่เดือนมกราคม 2564 เพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตรกร วิสาหกิจชุมชนในช่วงการระบาดของโรค COVID-19 และช่วงสินค้าล้นตลาดในแต่ละพื้นที่ โดยจะหมุนเวียนให้เกษตรกรเข้ามาจำหน่ายรายละ 1 เดือน ภายใต้ชื่อ "โครงการพื้นที่ปันสุข" สำหรับสินค้าที่จะนำเข้าไปจำหน่ายในสถานีบริการน้ำมันจะต้องเป็นสินค้าเกษตรจากเกษตรกรโดยตรง
หรือสินค้าแปรรูปจากวิสาหกิจชุมชน ประเภทสินค้าสด สินค้าแปรรูป สินค้าเกษตรอินทรีย์ และต้องเป็นสินค้าเกษตรที่มีมาตรฐานรับรอง เช่น GAP อินทรีย์ ฮาลาล อย. หรือเป็นสินค้าที่ต้องการจำหน่ายเร่งด่วน เช่น กรณีผัก ผลไม้ล้นตลาด และไม่เป็นสินค้าที่ทับซ้อนกับผู้เช่า หรือมีจำหน่ายในสถานีบริการน้ำมันอยู่แล้ว
สำหรับผลการดำเนินงานโครงการระหว่างเดือนมีนาคม – เมษายน 2564 มีเกษตรกรและกลุ่มเกษตรกรที่สนใจสมัครเข้าร่วมจำหน่ายสินค้าในโครงการพื้นที่ปันสุขของสถานีบริการน้ำมันจังหวัดต่างๆ จำนวน 8 ราย จาก 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นครสวรรค์ จันทบุรี สงขลา และจังหวัดเพชรบุรี ประเภทสินค้าที่นำมาจำหน่าย ประกอบด้วย สินค้าที่มีผลผลิตออกมามากต้องกระจายเร่งด่วน คือ มะม่วงน้ำดอกไม้ ของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ รวมทั้งสินค้าและผลิตภัณฑ์แปรรูป เช่น ผลิตภัณฑ์ข้าวสาร พริกไทย อาหารแปรรูป ผลผลิตผักสด เป็นต้น
อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวอีกว่า ล่าสุด กรมส่งเสริมการเกษตรได้รับการประสานงานเป็นการภายในจากทาง OR ว่า เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) มีความรุนแรงมากขึ้น จึงขอชะลอเรื่องการสนับสนุนพื้นที่ให้เกษตรกรมาจำหน่ายสินค้าในโครงการพื้นที่ปันสุขออกไปก่อน จนกว่าสถานการณ์จะบรรเทาลง สำหรับเกษตรกรที่สนใจจะเข้าร่วมโครงการสามารถติดต่อสอบถามได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอและสำนักงานเกษตรจังหวัดใกล้บ้าน เพื่อประสานงานเบื้องต้นไว้ก่อน เมื่อสถานการณ์การระบาดดีขึ้น เกษตรกรจะได้เข้าใช้พื้นที่ได้ทันที