นายบุญยง ตันสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ZEN ผู้ประกอบธุรกิจบริการอาหาร (Food Services) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2564 (มกราคม – มีนาคม 2564) กำไรเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีกำไรสุทธิ 28.5 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน มีรายได้รวม 605.1 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 643.7 ล้านบาท
โดยผลการดำเนินงานของเซ็นกรุ๊ปที่มีกำไรฟื้นตัวเป็นผลจากบริษัทปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจให้สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคในแต่ละช่วงเวลา โดยมุ่งนำเสนอโปรโมชั่นที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาด การขยายสาขาภายใต้โมเดลแฟรนไชส์ การมุ่งเน้นเพิ่มสัดส่วนรายได้จากการให้บริการเดลิเวอรี่และแพลตฟอร์มออนไลน์
ทั้งนี้ในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา กลุ่มธุรกิจร้านอาหาร เซ็น เรสเตอร์รอง มุ่งสร้างประสบการณ์แปลกใหม่ให้กับลูกค้า โดยจัดแคมเปญ ‘ZEN Premium Buffet’ ในราคาคนละ 599 บาท เป็น Value Promotion ที่ร้านอาหารญี่ปุ่นเซ็น ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยม สามารถเพิ่มยอดขายร้านอาหารญี่ปุ่น ZEN เติบโตจากช่วงไตรมาสเดียวกันปีก่อน 20%
และได้จัดแคมเปญอย่างต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นยอดขายในไตรมาส 2 ส่วนร้าน ‘เขียง’ สามารถขยายสาขาแฟรนไชส์ได้อย่างรวดเร็วและมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการให้บริการเดลิเวอรี่ เนื่องจากลูกค้าเปลี่ยนพฤติกรรมมาสั่งอาหารผ่านแอปพลิเคชัน
ส่วนธุรกิจรีเทลหรืออาหารค้าปลีกมียอดขายเติบโตได้ดี เนื่องจากผู้บริโภคส่วนหนึ่งซื้ออาหารกลับไปรับประทานหรือปรุงเองที่บ้าน และในขณะเดียวกันบริษัทฯ ได้ร่วมมือกับบริษัท เค.เอส.เอฟ. ฟู้ดส์ โปรดักส์ จำกัด จัดตั้งบริษัทร่วมทุนภายใต้ชื่อบริษัท เซ็น แอนด์ โกสุม อินเตอร์ฟู้ดส์ จำกัด (ZEN and Kosum Interfoods Co.,Ltd) เพื่อต่อยอดขยายธุรกิจอาหารค้าปลีก
โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์กลุ่มเครื่องปรุงรสเพื่อจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเติบโตจากการขยายสาขาร้านอาหารแบรนด์อื่นๆ ในเครือเซ็น กรุ๊ป อาทิ เขียง, อากะ โดยได้ขยายร้านเขียงในรูปแบบโมเดลแฟรนไชส์ได้เปิดสาขาเพิ่มขึ้น 10 สาขา และวางแผนเปิดเพิ่มอีก 15-20 สาขา ในช่วงไตรมาสที่ 2/2564
“ผลดำเนินงานที่เติบโตได้ดีในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา สะท้อนว่าธุรกิจร้านอาหารของบริษัทฯ สามารถปรับกลยุทธ์การตลาดให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา จากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แม้ว่าในปัจจุบันรัฐบาลมีมาตรการล็อกดาวน์ 14 วัน ในพื้นที่สีแดงเข้ม 6 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ ชลบุรีและเชียงใหม่”
อย่างไรก็ตามมั่นใจว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อรายได้มากนัก เนื่องจากบริษัทฯ มีการให้บริการเดลิเวอรี่และนำเสนอโปรโมชั่นที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ และหากสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย เชื่อว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคจะกลับมาใช้บริการนั่งทานในร้านอาหารเครือเซ็นกรุ๊ปเช่นเดิม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :