นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.เปิดเผยว่าขณะนี้ ทอท.ได้ทำเรื่องถึงกระทรวงคมนาคม เพื่อให้นำเสนอ ครม.พิจารณาอนุมัติการต่ออายุสัญญาสัมปทานจำนวน 28 สัญญาชั่วคราว
จนกว่าทอท.จะได้ผู้ประกอบการจากการคัดเลือกเอกชนเข้าดำเนินโครงการตาม พ.ร.บ.การร่วมลงทุนฯ พ.ศ. 2562 และประกาศคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐละเอกชน ตามมาตรา 9
เนื่องจาก เมื่อวันที่ 20 ก.ค. 2563 ทางกระทรวงการคลังได้ออกแนวทางและกระบวนการที่ชัดเจนการคัดสรรผู้ประกอบการตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ ซึ่ง เมื่อ ทอท. ประเมินกระบวนการที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา แล้ว พบว่าต้องใช้เวลาคัดสรรผู้ประกอบการราว 20 เดือน
ขณะที่ 28 สัญญาร่วมทุนของ ทอท. จะหมดอายุลงภายในช่วงระยะเวลาดังกล่าว ทำให้ไม่สามารถหาผู้ประกอบการรายใหม่ได้ทัน ตามเกณฑ์การคัดสรรใหม่ ซึ่งอาจจะกระทบต่อกิจการของท่าอากาศยาน
ทำให้ทอท. จึงเตรียมขออำนาจคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขอขยายระยะเวลาสัญญาร่วมทุนออกไปก่อนเป็นการชั่วคราว เบื้องต้นจะขอต่อสัญญาไปจนถึงเดือนก.พ.ปี 2566 หรือต่อสัญญาไปอีก 20 เดือน ซึ่งก็เท่ากับระยะเวลาที่ ทอท. ต้องดำเนินการตามกระบวนการตามกฎหมาย นายนิตินัย กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับ 28 สัญญาร่วมทุนที่ ทอท. จะดำเนินการนั้นเกี่ยวข้องกับกิจกรรมเกี่ยวเนื่องจำนวน 12 กิจกรรม อาทิ การให้บริการล้างเครื่องบินด้วยระบบเคลื่อนที่ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ , การให้บริการขนส่งสัมภาระที่เกิดการตกค้างระหว่างเดินทาง ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ , การให้บริการด้านผู้โดยสาร (Passenger Handing Service) ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เชียงใหม่ หาดใหญ่ ภูเก็ต และ เชียงราย
รวมถึงกิจการคลังสินค้า ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง เชียงใหม่ เชียงราย,ระบบให้บริการเชื้อเพลิงอากาศยาน ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง,กิจการอุปกรณ์บริการภาคพื้นและสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการซ่อมบำรุง (GSE) ณ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ หาดใหญ่ และเชียงราย,ครัวการบิน ณ ท่าอากาศยานเชียงใหม่และภูเก็ต,การให้บริการซ่อมบำรุงอากาศยาน ท่าอากาศยานภูเก็ต