ว่าที่ร้อยตรี สุทธิศักดิ์ ประศาสน์ครุการ ทนายความ ของ บริษัท เอเจ แอดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) กล่าวชี้แจง ประเด็นที่ สินค้านำเข้า 3 รายการ ของ บ. เอเจฯ ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์หม้อทอดไร้น้ำมัน ผลิตภัณฑ์หม้อไฟฟ้า Electric Grill with pot แบบรุ่น Eg-002 , ผลิตภัณฑ์เตาไฟฟ้า Induction Cooker แบบรุ่น In-001B ที่ถูกสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือ สมอ. อายัดไว้ ว่า
กรณีที่ บ. เอเจฯ ได้ไปยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ผ่านศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันพุธที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา เพื่อร้องขอความเป็นธรรมว่า นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือ สมอ. พิจารณาเรื่องร้องเรียน ถอนอายัด สินค้า ของ บ.เอเจฯ ล่าช้า ทั้ง 3 รายการ
เพราะปัจจุบันสินค้า 3 รายการนี้ทาง บ.เอเจฯ มีใบอนุญาต ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือ มอก.ครบถ้วนแล้วเมื่อกลางปี 2563 ที่ผ่านมา เราดำเนินการตามครรลองของกฎหมายจนครบถ้วนแล้ว จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่ได้รับคำตอบ กระทั่ง บ.เอเจฯ ได้รับหมายเรียกของตำรวจปคบ. ทนายความ ก็พากรรมการผู้บริหารของ บ.เอเจฯ ไปให้การเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มี เจตนาที่จะฝ่าฝืนกฎหมาย
ทนายความได้ระบุด้วยว่า เมื่อปี 2561 มีใบอนุญาต มอก. 2 รายการ และ อีก 1 รายการได้ขออนุญาตแล้วเสร็จเมื่อเดือนกรกฎาคม 2563 ซึ่งเมื่อกลางปีที่ผ่านมาฝ่ายกฎหมายของสมอ. ได้ติดต่อเพื่อขอหลักฐานต่างๆ ทั้งใบอินวอย หลักฐานเกี่ยวกับโรงงานผู้ผลิตที่ต่างประเทศ ทาง บ.เอเจฯ ก็จัดส่งให้เป็นที่เรียบร้อย
เมื่อทวงถามไปว่าเมื่อไหร่จะมาถอนอายัดให้ โดยทำหนังสือทวงถามไปหลายครั้ง ก็ไม่ได้รับคำตอบ จนต้องเรียกร้องความเป็นธรรมที่นายกรัฐมนตรี เพื่อต้องการขอความเป็นธรรม ซึ่งการอายัดสินค้าของบริษัท เอเจ ฯ ปัจจุบันมี มอก.แล้ว และทาง สมอ.ยังไม่ยอมถอนอายัดสินค้า ทำให้ผู้ประกอบการได้รับความเดือดร้อน และธุรกิจมีความเสียหาย ไม่สามารถนำสินค้าที่มี นำไปทำมาหากิน ค้าขายได้ในภาวะโรคโควิดระบาดและในยุคเศรษฐกิจฝืดเคืองในขณะนี้
ทางบริษัท เอเจ ฯ ยืนยันว่าได้รับอนุญาตให้นำเข้าสินค้าและผ่านด่านตามพิธีการศุลกากร ตามกฎหมายศุลกากรเรียบร้อย และชำระภาษีอากรทุกประเภทถูกต้องเรียบร้อยแล้ว เพราะทางบริษัท ฯ คำนึงถึงหลักข้อกฎหมาย ความถูกต้อง ความปลอดภัยของประชาชน เป็นหลักการดำเนินธุรกิจที่ยึดถือปฏิบัติมาเสมอ ขณะเดียวกันทางบริษัท เอเจ ฯ ต่างหากที่แสดงความบริสุทธิ์ใจ เป็นคนแจ้งให้ สมอ.เข้ามาตรวจสอบสินค้าขณะรอทำเรื่องขอใบอนุญาต มอก. ให้เสร็จสมบูรณ์ ไม่ได้ถูกบุกตรวจค้นจนเป็นที่มาของการอายัดสินค้าแต่อย่างใด
ทนายความ บ.เอเจฯ ยังกล่าวถึงกรณีเงินค่าปรับ 7.5 ล้านบาท ที่ทางสมอ. เรียกปรับจากผู้ประกอบการ เห็นว่าไม่เป็นธรรม เชื่อว่าอาจเป็นการกลั่นแกล้งกันหรือไม่ เพราะตามกฎระเบียบไม่ได้ปรับเยอะขนาดนี้ มูลค่าสินค้าก็แค่ 2 ล้านกว่าบาท จึงขอความเป็นธรรมกับนายกรัฐมนตรีแต่งตั้งกรรมการเพื่อตรวจสอบความถูกต้อง
อย่างไรก็ตาม หากยังไม่แก้ไขเยียวยากับสิ่งที่ทำให้บริษัท เอเจฯ เสียหาย ทางบริษัทจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด โดยจะยื่นฟ้องร้อง ต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) และศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เป็นขั้นตอนต่อไป