"สมอ." ตอกกลับ เอเจ บิดเบือนข้อเท็จจริงพร้อมแอบนำสินค้าถูกอายัดไปจำหน่าย

06 ส.ค. 2564 | 06:28 น.
อัปเดตล่าสุด :06 ส.ค. 2564 | 13:27 น.

สมอ.ตอกกลับ เอเจ บิดเบือนข้อเท็จจริงกรณีจับเตาปิ้งย่าง หม้อทอดไร้น้ำมัน แจงขณะนำเข้า สินค้ายังไม่ได้รับใบอนุญาต หลังถูกดำเนินคดีแล้วจึงมาขออนุญาต พร้อมทำผิดแอบนำสินค้าถูกอายัดไปจำหน่าย

นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เปิดเผยถึงข้อเท็จจริงกรณีที่บริษัท เอเจ แอดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายกรัฐมนตรี ให้ตั้งกรรมการสอบเลขาธิการ สมอ. ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยขอเรียนชี้แจงว่า เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2562 บริษัทฯ ได้ยื่นขอตรวจปล่อยสินค้าจำนวน 3 รายการ ได้แก่ หม้อทอดไร้น้ำมัน เตาแม่เหล็กไฟฟ้า และเตาปิ้งย่าง รวม 5,898 หน่วย ผ่านระบบ National Single Window (NSW) ซึ่ง สมอ. ได้ดำเนินการตรวจปล่อยสินค้าดังกล่าวจากศุลกากรเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกและลดภาระค่าเช่าโกดังให้กับบริษัทฯ พร้อมทั้งยึดอายัดสินค้าทั้งหมดไว้ที่คลังสินค้าของบริษัทฯ 
ทั้งนี้ เนื่องจากสินค้าทั้ง 3 รายการยังไม่ได้รับใบอนุญาต ต่อมาได้ตรวจสอบพบว่าบริษัทฯ มีการโฆษณาจำหน่ายหม้อทอดไร้น้ำมันบนเว็บไซต์ www.ajthia.com , www.24catalog.com และ www.lazada.com  จึงเข้าตรวจควบคุมสินค้าที่อายัดไว้ และได้ตรวจนับสินค้า พบว่ามีสินค้าสูญหายทั้ง 3 รายการ รวมทั้งสิ้น 2,805 หน่วย จึงได้ดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยคณะกรรมการเปรียบเทียบปรับ ซึ่งประกอบด้วย ผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ เลขาธิการ สมอ. มีมติเห็นชอบให้ปรับบริษัทฯ โทษฐานกระทำความผิดตามมาตรา 21 นำเข้าสินค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นเงิน 2 ล้านบาท และความผิดตามมาตรา 36 ฐานมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่ไม่ได้รับใบอนุญาตเป็นเงิน 5 แสนบาท รวมเป็นเงิน 2.5 ล้านบาท รวมทั้งปรับกรรมการผู้มีอำนาจอีก 2 ท่าน ท่านละ 2.5 ล้านบาท รวมเป็นเงินค่าปรับทั้งสิ้น 7.5 ล้านบาท 

โดยกำหนดให้ชำระภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ โดยเป็นไปตามระเบียบคณะกรรมการมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณาของผู้มีอำนาจเปรียบเทียบ พ.ศ.2562 โดยหากเป็นความผิดครั้งแรก ให้ปรับไม่เกิน 20% ของมูลค่าของกลางซึ่งมีมูลค่ากว่า 12.5 ล้านบาท พร้อมทั้งส่งเรื่องให้สถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรสาคร สอบสวนดำเนินคดีบริษัทฯ กรณีแอบนำของกลางที่ยึดอายัดไว้ไปจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต สำหรับของกลางที่บริษัทร้องขอให้ปล่อยคืนนั้น ไม่สามารถดำเนินการให้ได้ เนื่องจากยังเป็นคดีความอยู่กับ สภ.เมืองสมุทรสาคร และบริษัทฯ ยังไม่ได้ชำระค่าปรับ อีกทั้งยังพิสูจน์ไม่ได้ว่าของเป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่ โดย สมอ. สรุปไทม์ไลน์การดำเนินการ ตามแนบ

ไทม์ไลน์การดำเนินการ
“สมอ.ตระหนักและให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของประชาชนอย่างถึงที่สุด สินค้าใดที่ไม่ได้มาตรฐานแล้วหากประชาชนนำไปใช้แล้วเกิดอันตรายถึงแก่ชีวิต ไม่มีการอะลุ่มอล่วยอย่างเด็ดขาด เนื่องจากชีวิตคนไม่สมควรที่จะไปแลกกับความมักง่ายและความเห็นแก่ได้ของผู้ประกอบการที่ไร้จิตสำนึกในความรับผิดชอบต่อประชาชน  จึงขอให้เป็นกรณีตัวอย่างสำหรับผู้ประกอบการรายอื่น หากทำหรือนำเข้าสินค้าที่ สมอ. ควบคุมโดยไม่ได้รับอนุญาต ก็จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างถึงที่สุดแบบนี้ทุกราย”