บริษัทโรงแรมเซ็นทรัลพลาซาจำกัด(มหาชน)หรือ CENTEL แจ้งผลประกอบการไตรมาส2ปี2564 ต่อตลาด หลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)ระบุว่า ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564 บริษัทฯ มีอัตราส่วนสภาพคล่องดีขึ้นจากสิ้นปี 2563 เป็น 0.7 เท่า
อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนผู้ถือหุ้นลดลงป็น 1.2 เท่า ดีขึ้นจากสิ้นปีก่อน จากการเพิ่มขึ้นของส่วนผู้ถือหุ้นเนื่องจากการตีราคาที่ดินเป็นสำคัญ และมีอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ย (ไม่รวมหนี้สินตามสัญญาเช่า) ต่อส่วนผู้ถือหุ้น 0.7 เท่า
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีเงื่อนไขกับสถาบันการเงินเกี่ยวกับการรักษาอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ย (ไม่รวมหนี้สินตามสัญญาเช่า) ต่อส่วนผู้ถือหุ้น อยู่ที่ 2.0 เท่า
อย่างไรก็ดี เนื่องด้วยความไม่แน่นอนในการฟื้นตัวของธุรกิจ บริษัทฯ ได้จัดเตรียมวงเงินกู้ทั้งระยะสั้นและระยะยาวที่สามารถเบิกถอนได้ประมาณ 8,300 ล้านบาท ณ 30 มิถุนายน 2564 ซึ่งเพียงพอสำหรับการดำเนินงานภายใต้ความผันผวนของธุรกิจถึงไตรมาส 4 ปี 2565
สำหรับนำใช้ไปเพื่อการดำเนินงานบริหารจัดการค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ค่าใช้จ่ายสำหรับลงทุนและดอกเบี้ยจ่าย (ไม่รวมดอกเบี้ยจ่ายตามมาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 16 เรื่อง สัญญาเช่า) รวมสุทธิเดือนละประมาณ 370-380 ล้านบาท
ในขณะที่ธุรกิจอาหารยังคงสามารถสร้างกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน รวมถึงเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดในมือเพียงพอในการดำเนินงานและการลงทุน
ไตรมาส 2/2564: บริษัทฯมีรายได้รวม 2,690 ล้านบาท (ไตรมาส 2/2563: 2,336 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 354 ล้านบาท (หรือเพิ่มขึ้น 15%) โดยสัดส่วนของรายได้จากธุรกิจโรงแรมต่อรายได้จากธุรกิจอาหาร อยู่ที่ 12%: 88% (ไตร มาส 2/2563: 6% : 94%)
ขณะที่กำไรขั้นต้นรวม 1,408 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยคิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 55% ของรายได้ (ไม่รวมรายได้อื่น) ลดลงเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (ไตรมาส 2/2563: 57%)
บริษัทฯมีกำไรก่อนค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย ดอกเบี้ยจ่าย และภาษีเงินได้ (EBITDA) รวม 302 ล้านบาท (ไตรมาส 2/2563: 439 ล้านบาท) ลดลง 137 ล้านบาท (หรือลดลง 31%) จากไตรมาส 2/2563
โดยคิดเป็นอัตรากำไรก่อนค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย ดอกเบี้ยจ่าย และภาษีเงินได้ ต่อรายได้รวม (% EBITDA) 11% ลดลงเทียบกับปีก่อน (ไตรมาส 2/2563: 19%)
บริษัทฯ มีผลขาดทุนจากการดำเนินงาน 652 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้น 186 ล้านบาท หรือ -40% เทียบปีก่อน อย่างไรก็ดี เมื่อรวมรายการพิเศษจากการกลับรายการด้อยค่าสินทรัพย์จำนวน 45 ล้านบาท
บริษัทฯขาดทุนสุทธิ 607 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้น 141 ล้านบาทหรือ-30% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน
6 เดือน ปี 2564 : บริษัทฯมีรายได้รวม 5,463 ล้านบาท (6 เดือน ปี 2563: 6,938 ล้านบาท) ลดลง 1,475 ล้านบาท (หรือลดลง 21%) โดยสัดส่วนของรายได้จากธุรกิจโรงแรมต่อรายได้จากธุรกิจอาหารอยู่ที่ 15%:85% (สำหรับ 6 เดือนปี 2563: 28%:72%)
ขณะที่กำไรขั้นต้นรวม 2,947 ล้านบาท ลดลง 949 ล้านบาท หรือลดลง 24% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยคิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 56% ของรายได้ (ไม่รวมรายได้อื่น) ลดลงเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (6 เดือน ปี 2563: 58%)
บริษัทฯมีกำไรก่อนค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย ดอกเบี้ยจ่าย และภาษีเงินได้ (EBITDA) รวม 788 ล้านบาท (6 เดือน ปี 2563: 1,492 ล้านบาท) ลดลง 704 ล้านบาท (หรือลดลง 47%) จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
โดยคิดเป็นอัตรากำไรก่อนค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย ดอกเบี้ยจ่าย และภาษีเงินได้ ต่อรายได้รวม (% EBITDA) 14% ลดลงเทียบปีก่อน (6 เดือน ปี 2563: 22%) บริษัทฯมีผลขาดทุนจากการดำเนินงาน 1,127 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้น 652 ล้านบาท เทียบปีก่อน (หรือ -137%)
ทั้งนี้ หากรวมรายการพิเศษกลับรายการ (สำรอง) ด้อยค่าของสินทรัพย์ บริษัทฯจะมีขาดทุนสุทธิ1,082 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้น 571 ล้านบาท เทียบปีก่อน (หรือลดลง 112%)