ททท.เชิญทูตทั่วโลกในไทยเยือน“ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์”สร้างความเชื่อมั่น

18 ส.ค. 2564 | 02:12 น.

ททท. ผนึกกระทรวงการต่างประเทศ หนุนสถานทูตไทยต่างประเทศ สื่อสารแยกภูเก็ตออกจากภาพรวมการติดเชื้อในไทย ทั้งเตรียมเชิญทูตทั่วโลก ประจำประเทศไทย เยือนภูเก็ตสร้างความเชื่อมั่น “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” ทั้ง จ่อเปิด ‘เกาะช้าง-เกาะกูด-เกาะล้าน หวังต่อลมหายใจธุรกิจท่องเที่ยว

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่าททท.มีแผนทำงานร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ (กต.)ในการทำความเข้าใจกับสถานทูตไทย ในต่างประเทศ ในการสื่อสารแยกภูเก็ตออกจากพื้นที่อื่นในไทย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ต่างประเทศเห็นว่าโครงการ "ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์" มีการมาตรการในการเปิดรับนักท่องเที่ยวควบคู่กับการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี
 

โดยในช่วง45วันของการเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา 2 หมื่นคน พบการติดเชื้อโควิด-19 น้อยมากอยู่ในระดับเหมาะสมที่รับได้  คิดเป็นสัดส่วน 0.28%  ไม่มีการติดเชื้อของชาวต่างชาติปะปนกับคนท้องถิ่น เพราะส่วนใหญ่พบการติดเชื้อในการตรวจครั้งที่1 เพราะภูเก็ตมีมาตรการกักตัวทันที และคนท้องถิ่นติดจากนักท่องเที่ยวก็ไม่มี

 

อีกทั้งในขณะนี้จังหวัดภูเก็ตก็อยู่ระหว่างการเร่งตรวจเชื้อเชิงรุกในพื้นที่ โดยเฉพาะควบคุมการแพร่ระบาดของแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้าเมือง ซึ่งก็คาดว่าจะลดการติดเชื้อในพื้นที่ให้เหลือในระดับหลักหน่วยได้ภายในสิ้นเดือนนี้

    ยุทธศักดิ์ สุภสร                                                                     

นอกจากนี้ยังมีแผนจะประชุมกับทางทูตต่างประเทศประจำประเทศไทย โดยททท.จะเชิญท่านทูตพร้อมคู่สมรส ลงพื้นที่ภูเก็ต เพื่อสัมผัสความสวยงามของภูเก็ต และมาตรการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ของไทย รวมถึงอัพเดทสถานการณ์ในภูเก็ต รวมถึงแนวทางการเปิดรับนักท่องเที่ยวเชื่อมโยงภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์หรือ7+7 ด้วย

 

สำหรับนโยบายการเปิดประเทศตามนโยบาย 120 วัน ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ททท.ก็ได้เดินตามแผนตามนโยบายของนายกฯ ซึ่งนายกฯระบุชัดว่าเปิดในพื้นที่ที่พร้อม พื้นที่ไหนพร้อมก่อนเปิดก่อน เราก็ได้เปิด “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” เมื่อ 1 ก.ค.64 เปิด “สมุยพลัส” เมื่อ 15 ก.ค.64 และการเปิดเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ หรือเส้นทางท่องเที่ยว7+7 ที่มีผลในวันที่ 16 ส.ค.นี้ ก็จะ

ททท.เชิญทูตทั่วโลกในไทยเยือน“ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์”สร้างความเชื่อมั่น

ทำให้มีการเปิดรับนักท่องเที่ยวในบางพื้นที่ ของจ.กระบี่และจ.พังงา และททท.ก็จะเตรียมถอดรหัสความสำเร็จของภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ไปยังพื้นที่อื่นๆที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยว อย่าง พื้นที่เกาะ อาทิ เกาะช้าง เกาะกูด เกาะล้าน เป็นต้น

รวมถึงเตรียมหารือกับเอกอัครราชทูตรัสเซีย ประจำประเทศไทย หลังจากคณะกรรมการด้านวิชาการ ตามพ.ร.บ. โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 มีมติให้เปิดรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่ได้รับวัคซีนสปุตนิก วี (Sputnik V) จากประเทศที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วสามารถเดินทางเข้าไทยได้

 

ทั่วโลกมี 69 ประเทศ ที่ฉีดวัคซีนสปุตนิก วี แล้ว จะทำให้ยอดนักท่องเที่ยวรัสเซียเดินทางเข้าเที่ยวไทยในปี 2564 ประมาณ 5-7 แสนคน จากปี 2562 ก่อนการระบาดของโควิด-19 นักท่องเที่ยวรัสเชียมาไทยจำนวน 1.4 ล้านคน

ททท.เชิญทูตทั่วโลกในไทยเยือน“ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์”สร้างความเชื่อมั่น

 

อย่างไรก็ตามหลังคณะกรรมการด้านวิชาการ ตามพ.ร.บ. โรคติดต่อ อนุมัติให้ผู้ที่ฉีดวัคซีน สปุตนิก วี เดินทางเข้าไทยได้ จะทำให้เป้าหมายที่ตั้งไว้ ปรับลดลงบ้าง ในเวลาที่เหลือจะมีรัสเชีย และประเทศอื่นๆ ที่ฉีดวัคซีน สปุตนิก เดินทางหนีหนาวมาเที่ยวภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์

 

ส่งผลให้ทั้งปีน่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 1 ล้านคน การเตรียมเปิดพื้นที่เกาะฝั่งตะวันออก ได้แก่ เกาะช้าง เกาะกูด เกาะล้าน เป็นแผนที่ทำสอดรับกับนโยบายเปิดประเทศของนายกรัฐมนตรี ในพื้นที่พร้อม เป็นการทะยอยเปิด เพื่อต่อลมหายใจให้ผู้ประกอบการ ที่ต่างหวังว่าอนาคตสถานการณ์ จะดีขึ้น

นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ขณะนี้ชาวรัสเซียก็ฉีดวัคซีนไปแล้ว 20 ล้านคน ครอบคุลมประชากรในเมืองหลักทางด้านการท่องเที่ยวที่เป็นตลาดหลักของไทย

ศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร

 

ทั้ง มอสโก เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก และวลาดิวอสต็อก ที่มีจำนวนเที่ยวบินพร้อมทำการบินมาประเทศไทย ซึ่งที่ผ่านมาทั้งเที่ยวบินปกติ และเช่าเหมาลำของรัสเซียมาไทยสัดส่วนครึ่งต่อครึ่ง เบื้องต้นเมื่อไทยปลดล็อกให้นักท่องเที่ยวฉีดวัคซีนสปุตนิก วี เข้ามาได้ จะเริ่มเห็นเที่ยวบินเช่าเหมาลำเข้ามาในเดือนต.ค.นี้แน่นอน ที่ลุ้นกันมากคือ อยากเห็นเข้ามาตั้งแต่เดือนก.ย.นี้

 

ททท. ยังเตรียมความพร้อมการเดินทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงระหว่างภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ กับ 3 จังหวัด คือ เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า จ.สุราษฏร์ธานี และไร่เลย์ เกาะพีพี เกาะไหง จ.กระบี่ ตลอดจนเขาหลัก เกาะยาวน้อย เกาะยาวใหญ่ จ.พังงา ในรูปแบบ 7+7

เส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ หรือ 7+7

 

คืออยู่ในภูเก็ตครบ 7 วันก่อน หากไม่มีการติดเชื้อก็เดินทางไปเที่ยวพื้นที่นำร่องอื่นได้อีก 7 วัน ซึ่งนักท่องเที่ยวต้องระบุมาตั้งแต่ต้นทางว่าจะเดินทางไปเที่ยวในพื้นที่ใดหลังจากอยู่ภูเก็ตครบ 7 วัน