ททท.จ่อลดเป้าท่องเที่ยวปี64-65 ปั้น7+7ขยายพื้นที่

19 ส.ค. 2564 | 02:30 น.
อัปเดตล่าสุด :19 ส.ค. 2564 | 10:11 น.

ททท.หารือก.ท่องเที่ยวจ่อปรับลดเป้า คาดปีนี้ต่างชาติเที่ยวไทยแค่ 1.2 ล้านคน แม้ได้อานิสงส์เปิดกระบี่ พังงา 7+7 เชื่อมภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ แรงหนุนคนฉีดสปุตนิก วี จาก 69 ประเทศเที่ยวได้ เผย 3 ซีนาริโอท่องเที่ยวปี65 ดีสุดอยู่ที่ 1.9 ล้านล้านบาท เลวร้ายสุดเหลือ1.3 ล้านล้านบาท

จากโควิดระลอก 3 ที่สถานการณ์มีความยืดเยื้อ และมียอดการติดเชื้อในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้นทะลุ 2 หมื่นคนต่อวัน ส่งผลแนวโน้มการเติบโตของการท่องเที่ยวในปีนี้และปีหน้า ไม่สามารถเดินได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ก่อนหน้านี้ การลดเป้าหมายจึงอาจเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

 

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศ ไทย (ททท.) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า แนวโน้มการเติบโตของการท่องเที่ยวไทยล่าสุด ททท. คาดว่าในปี2564ไทยน่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติราว 1.2 ล้านคน สร้างรายได้ 85,000 ล้านบาท ส่วนการเดินทางเที่ยวในประเทศน่าจะอยู่ที่ 100 ล้านคน-ครั้ง รายได้ 540,700 ล้านบาท

 

โดยคาดว่าต่ำกว่าเป้าหมายในปีนี้ที่ตั้งไว้ว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 3 ล้านคน สร้างรายได้ 300,000 ล้านบาท ซึ่ง ททท. ก็จะหารือในระดับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาอีกครั้ง ถึงการปรับลดเป้าหมายการท่องเที่ยวในปีนี้และปีหน้าลง จากแนวโน้มสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่มีการติดเชื้อภายในประเทศเพิ่มสูงขึ้นมาก

ยุทธศักดิ์ สุภสร

 

อย่างไรก็ตาม ปีนี้ ททท.จะพยายามทำตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติให้ได้แตะ 1 ล้านคน เพราะเราเป็นหน่วยงานด้านตลาด และเห็นการเพิ่มโอกาสในการทำตลาด ซึ่งมีปัจจัยบวกใน 2 เรื่องที่จะขับเคลื่อนการท่องเที่ยวในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ต่อเนื่องต้นปีหน้า ได้แก่

 

1.การขยายเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์หรือเส้นทาง 7+7 ที่นักท่องเที่ยวอยู่ในภูเก็ต 7 วัน อีก 7 วันที่เหลือสามารถเดินทางไปเที่ยวที่เกาะยาวน้อย เกาะยาวใหญ่ เขาหลัก จ.พังงา เกาะพีพี เกาะไหง ไร่เลย์ จ.กระบี่ และเกาะสมุย-เกาะพะงัน-เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานีได้โดยไม่ต้องกักตัวและเราก็อยู่ระหว่างศึกษาที่จะขยายการเปิด 7+7 ไปยังพื้นที่อื่นๆ เพิ่มเติมด้วย เช่นหมู่เกาะทางภาคตะวันออกอย่าง อย่างเกาะกูด เกาะช้าง

      ททท.จ่อลดเป้าท่องเที่ยวปี64-65 ปั้น7+7ขยายพื้นที่                                                         

2.การเปิดให้นักท่องเที่ยวที่ฉีดวีคซีนสปุตนิก วี มาเที่ยวในพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวได้ ปัจจุบันมี 69 ประเทศที่ฉีดวัคซีน สปุตนิก วี ครอบคลุมประชากร 3.7 พันล้านคน อาทิ เวียดนาม รัสเซีย ตุรกี เม็กซิโก ฮังการี ทั้งคาดว่านักท่องเที่ยวรัสเซียน่าจะเข้าไทยได้ในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งในปี 62 มีรัสเซียเที่ยวไทย 1.4 ล้านคน ถ้าปลายปีนี้กลับมาได้ 5-7 แสนคนเมื่อรวมกับตลาดอื่นๆ ก็หวังว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยได้ 1 ล้านคน

ททท.จ่อลดเป้าท่องเที่ยวปี64-65 ปั้น7+7ขยายพื้นที่

 

ในปีหน้าก่อนหน้านี้ททท.ตั้งเป้านักท่องเที่ยวต่างชาติ 20 ล้านคน แต่เมื่อดูจากสถานการณ์วันนี้ ต้องพิจารณาร่วมกับกระทรวง ท่องเที่ยวเช่นกัน ซึ่งในกรณีที่มีการปรับลดเป้าหมายปี2565 ททท. ประเมินไว้ 3 ซีเนริโอ ได้แก่

 

1.กรณีสถานการณ์ดี (BEST Scenario) คาดว่านักท่องเที่ยวต่างชาติ 18 ล้านคน สร้างรายได้ 1,056,000 ล้านบาท และเที่ยวในประเทศ 160 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ 882,034 ล้านบาท ทำให้ไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยวโดยรวม 1,938,034 ล้านบาท

 

2.กรณีสถานการณ์เป็นไปได้ (BASE Scenario) คาดว่ามีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 13 ล้านคน สร้างรายได้ 818,500 ล้านบาท เที่ยวในประเทศ 140 ล้านคนครั้ง สร้างรายได้ 771,465 ล้านบาท ทำให้ไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยวโดยรวม 1,589,965 ล้านบาท

 

3. กรณีสถานการณ์ไม่ดี (Worst Scenario) คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 10 ล้านคน สร้างรายได้ 625,800 ล้านบาท การเที่ยวในประเทศ 122 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ 680,628 ล้านบาท ทำให้ไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยวโดยรวม 1,306,428 ล้านบาท

ททท.จ่อลดเป้าท่องเที่ยวปี64-65 ปั้น7+7ขยายพื้นที่

ใน 3 ซีเนริโอนี้ ททท.ตั้งเป้าสร้างรายได้อยู่ที่กรณี BEST Scenario ซึ่งไทยจะมีรายได้รวมจากการท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติราว 2 ล้านล้านบาท คิดเป็น 2 ใน 3 ของรายได้การท่องเที่ยวทั้งหมดในปี 62 ส่วนเงื่อนไขของความสำเร็จในการสร้างรายได้ให้เป็นไปตามเป้าหมายในปี 65 จะมี 5 เรื่องได้แก่

 

1.พัฒนาการเชิงบวกด้านการกระจายวัคซีนจะคุมการระบาดได้ต้นไตรมาส 4 ปีนี้ ทำให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ในครึ่งปีแรกของปี 65 และเศรษฐกิจไทยจะกลับสู่ระดับก่อนระบาดปลายปี 65

 

2.เปิดประเทศได้ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ 65 ทั้งการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศแบบไม่กักตัวเป็นไปตามแผนและปลดล็อกการท่องเที่ยวในประเทศ

 

3.กำหนด SOP เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เอื้อต่อการตัดสินใจท่องเที่ยว พร้อมยอมรับวัคซีนที่หลากหลายและครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายทางการตลาด

 

4.นโยบายออกนอกประเทศ และการกักกันตัว เมื่อเดินทางกลับจากต่างประเทศของประเทศต้นทาง

 

5.รัฐบาลมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวต่อเนื่อง

 

ข่าวหน้า1 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3,706 วันที่ 19-21 สิงหาคม 2564