สายการบินไทยเวียตเจ็ท เดินหน้า ปักหมุดขยายเครือข่ายเส้นทางบินระหว่างประเทศ เชื่อมต่อการเดินทางทางอากาศในภูมิภาคเอเชีย ประกาศเปิดเส้นทางบินใหม่ ระหว่าง กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) สู่ สิงคโปร์ และ ไทเป พร้อมเที่ยวบินตรงเชื่อมระหว่างภูเก็ต –สิงคโปร์ รับภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์
โดยจะเปิดเส้นทางบินใหม่จากกรุงเทพฯ (BKK) สู่ ไทเป (TPE) และสิงคโปร์ (SIN) จะเริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม 2564 และ 21 ตุลาคม 2564 ตามลำดับ ขณะที่เส้นทางบินตรงระหว่างภูเก็ต สู่ สิงคโปร์ จะเริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป
สายการบินฯ ยังได้ให้บริการเที่ยวบินเชื่อมต่อจากกรุงเทพฯ ไปยังภูเก็ต สำหรับผู้โดยสารที่เดินทางจากไทเปมายังกรุงเทพฯ มอบตัวเลือกการเดินทางเชื่อมต่อ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” ที่สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
ในช่วงแรกของการให้บริการ เส้นทางบินจากกรุงเทพฯ สู่ ไทเป และสิงคโปร์ จะเริ่มให้บริการสัปดาห์ละ 3 เที่ยวบิน โดยเส้นทาง กรุงเทพฯ - ไทเป จะให้บริการทุกวันพุธ ศุกร์ และอาทิตย์ และเส้นทาง กรุงเทพฯ – สิงคโปร์ จะให้บริการทุกวันอังคาร พฤหัสบดี และอาทิตย์ ขณะที่เส้นทางบินตรงระหว่างภูเก็ต สู่ สิงคโปร์ จะเริ่มให้บริการสัปดาห์ละ 2 เที่ยวบิน ทุกวันพฤหัสบดี และอาทิตย์
โดยสายการบินฯ จะปรับเพิ่มความถี่เที่ยวบินของทั้งสามเส้นทางบินอย่างต่อเนื่องในภายหลัง เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารและตอบรับกับความต้องการเดินทางที่เพิ่มสูงขึ้น
ในฐานะ “สายการบินโลว์คอสต์ที่เติบโตเร็วที่สุดแห่งปี 2020” จากนิตยสาร โกลบอล บิสซิเนส เอาท์ลุค กรุงลอนดอน สายการบินไทยเวียตเจ็ทยังคงมุ่งมั่นขยายเครือข่ายเส้นทางบินอย่างต่อเนื่อง ทั้งเครือข่ายเส้นทางบินภายในประเทศและระหว่างประเทศ
เร็ว ๆ นี้ สายการบินฯ ยังได้ขยายเส้นทางบินใหม่และกลับมาให้บริการเส้นทางบินข้ามภูมิภาคภายในประเทศ ได้แก่ เส้นทางบินจาก ภูเก็ต สู่ เชียงใหม่ เชียงราย และ อุดรธานี รวมทั้งเส้นทางบินระหว่าง หาดใหญ่ และ เชียงราย
มอบตัวเลือกการเดินทางที่คุ้มค่าและสะดวกสบายและแก่ผู้โดยสาร ผู้โดยสารสามารถตรวจสอบตารางเที่ยวบินและสำรองบัตรโดยสารในเส้นทางบินภายในประเทศและระหว่างประเทศของไทยเวียตเจ็ทได้ที่ www.vietjetair.com
ปัจจุบัน สายการบินฯ ยังคงให้บริการเที่ยวบินขนส่งสินค้าทางอากาศและเที่ยวบินกึ่งพาณิชย์ระหว่างประเทศตามปกติ สายการบินไทยเวียตเจ็ทมุ่งมั่นในการให้บริการด้วยความปลอดภัยสูงสุดแก่ผู้โดยสาร พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสาร ด้วยช่องทางการติดต่อที่สะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้นในช่วงการระบาดของโรคไวรัสโควิด-19