การเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้าร่วม “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” เดินทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงระหว่างจังหวัดภูเก็ตกับพื้นที่นำร่องอื่น (7+7 Phuket Extension) ไปยัง 9 พื้นที่ คือ เกาะพีพี เกาะไหง หาดไร่เลย์ จ.กระบี่ เขาหลัก เกาะยาวน้อย เกาะยาวใหญ่ จ.พังงา และเกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า จ.สุราษฏร์ธานี ไม่เพียงแต่เป็นการสร้างจุดขายให้ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ แต่ยังเป็นแรงขับเคลื่อนการเปิดการท่องเที่ยวใน 3 จังหวัดนี้เพื่อให้กลับรับนักท่องเที่ยวได้อีกครั้ง
นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลางและอเมริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าการเปิดเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์หรือ 7+7 เริ่มมีนักท่องเที่ยวเข้ามาพักที่ภูเก็ตแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา และได้ทยอยเดินทางไปยังพื้นที่นำร่อง 3 จังหวัดนี้ตั้งแต่วันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา เบื้องต้นพบว่ามียอดจองล่วงหน้าในพื้นที่นำร่องนี้แล้วกว่า1,874 คืน โดยมีการเข้าพักในพื้นที่นำร่องเกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า รวม 1,026 คืน (ไม่รวมสมุยพลัสโมเดล) พักที่เกาะพีพี/ไร่เลย์ 319 คืน พักที่เขาหลัก เกาะยาวน้อย เกาะยาวใหญ่ รวม 527 คืน
นักท่องเที่ยวต้องจองโรงแรมล่วงหน้าตั้งแต่การยื่นขอ CEO เข้ามาประเทศ อยู่ภูเก็ต 7 วัน และพื้นที่นำร่องได้อีก 7 วัน โดยต้องเลือกพื้นที่นำร่องในจังหวัดใดจังหวัดหนึ่ง ไม่สามารถเที่ยวข้ามจังหวัดได้ เมื่ออยู่ครบ 14 วันก็เดินทางไปเที่ยวไหนในไทยก็ได้
ส่วนกรณีที่อยู่พื้นที่นำร่องไม่ถึง 7 วัน สามารถเดินทางเข้ามาได้ ใน 2 รูปแบบ คือ 1.เมื่อเที่ยวครบวันที่ระบุในCOE ต้องแสดงหลักฐานตั๋วเครื่องบินขากลับของวันนั้น เพื่อเดินทางจากพื้นที่นำร่องไปภูเก็ตขึ้นเครื่องบินกลับประเทศ หรือ 2.อยู่ภูเก็ต 7 วัน , สมุย/พังงา/กระบี่ 3-4 วัน แล้วกลับไปต่อภูเก็ต 3-4 วันให้รวมครบ 14 คืนได้ โดยต้องจองที่พัก Sha+ ทุกคืนล่วงหน้าก่อนเดินทาง ไม่สามารถ Walk in หรือ ปรับเปลี่ยนเองภายหลัง ซึ่งทุกอย่างต้องมีการจองไว้ล่วงหน้าทั้งหมด
การเดินทางจากภูเก็ตไปยังพื้นที่นำร่อง จะมีการออกใบรับรองจากทางโรงแรม ซึ่งจะมีรายละเอียดของนักท่องเที่ยว, โรงแรมต่อไปที่จะพัก, รายละเอียดของคนขับรถหรือเรือที่เป็นยานพาหนะในการเดินทาง, และผลการตรวจโควิดครั้งที่ 1 และ 2 ต้องเป็นลบ และจะต้องได้รับใบ transfer form ในการข้ามจังหวัด การเดินทางไปเกาะพีพี เกาะไหง ไร่เลย์ เกาะยาวน้อย เกาะยาวใหญ่ เรือที่รับนักท่องเที่ยว 7+7 จะต้องมีใบอนุญาต sha+ เดินทางไปเขาหลัก ต้องใช้รถที่เป็นบริการSHA+ ไปสมุย ต้องเดินทางด้วยเครื่องบินเท่านั้น เมื่อพักในพื้นที่นำร่องต้องตรวจโควิดครั้งที่ 3
กระบี่-พังงาเปิดรับต่างชาติ
นางสาวศศิธร กิตติธรกุล นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจ.กระบี่ เผยว่าที่ผ่านมาจังหวัดกระบี่ไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเลยนับเป็นเวลากว่า 1 ปีครึ่งแล้ว 7+7 เชื่อมโยงภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ทำให้ผู้ประกอบการในพื้นที่นำร่อง 3 พื้นที่ คือ เกาะพีพี เกาะไหง และไร่เลย์ สามารถเปิดรับนักท่องเที่ยวได้ โดยพื้นที่ทั้ง 3 เกาะนี้มีโรงแรม ร้านอาหาร ธุรกิจที่เกี่ยวข้องได้รับมาตรฐาน SHA+ แล้วรวมกว่า 33-34 แห่ง
ทั้ง 3 เกาะนี้ประชากรในพื้นที่ได้รับวัคซีน 100% และจังหวัดมีแผนเผชิญเหตุทั้งการเตรียมความพร้อมของโรงพยาบาล การปรับแผนรับมือ แผนชะลอ หรือยกเลิกโครงการ กรณีพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ของจังหวัดกระบี่มากกว่า 70 รายต่อสัปดาห์ มีการระบาดเกิน 3 คลัสเตอร์ที่หาสาเหตุเชื่อมโยงไม่ได้ มีผู้ติดเชื้อครองเตียงเกิน 80% ของศักยภาพ เป็นต้น
“เรามองว่าการเปิด 7+7 น่าจะกระตุ้นการท่องเที่ยวของกระบี่ได้ เพราะนับจากโควิดระลอก 3 ก็ทำให้นักท่องเที่ยวไทย รวมถึงกลุ่มต่างชาติที่พำนักในไทย (EXPAT) ชลอการเดินทางเข้ามาเที่ยว จึงทำให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก” นางสาวศศิธร กล่าวทิ้งท้าย
ในส่วนของพังงานั้น ล่าสุดททท.สำนักงานพังงา พบว่าเบื้องต้นพบว่ามีนักท่องเที่ยวบุ๊กกิ้งเข้ามา 3 แห่ง คือ โรงแรม เคปคูดู เกาะยาวน้อย ,ลาฟรอล่า เขาหลัก และ บันดารี เขาหลัก ขณะที่สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดพังงา คาดการณ์ปริมาณนักท่องเที่ยวไว้ที่ 3 พันคนต่อเดือน คาดรายได้ 500 ล้านบาทต่อเดือน และคาดว่า นักท่องเที่ยวนิยมเข้าพักในพื้นที่ เขาหลัก มากกว่าเกาะยาว เนื่องจากมีโรงแรมที่เข้าร่วมโครงการ 7+7 มากกว่า
สมุยมั่นใจ7+7ดันทัวริสต์
นายรัชชพร พูลสวัสดิ์ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย กล่าวว่าการเปิดเส้นทางท่องเที่ยว7+7เชื่อมโยงภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ เรามั่นใจจะช่วยทำให้สมุย เกาะเต่า และเกาะพะงัน มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเพิ่มมากขึ้น เพราะเมื่อนักท่องเที่ยวภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์อยู่ภูเก็ตครบ 7 วันแล้ว สามารถบินโดยสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส จากภูเก็ตเข้ามาสมุยได้เลย โดยพักในโรงแรมที่ได้มาตรฐานSHA+ แล้วจะไปเที่ยวที่ไหนก็ได้ในพื้นที่ 3 เกาะ
เพราะถือว่านักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ผ่านขั้นตอนการคัดกรองจากภูเก็ตแล้วในช่วง 7 วันแรกมีการตรวจเชื้อมาแล้ว 2ครั้ง และเมื่อเข้ามาก็จะเหลือการตรวจเชื้ออีก 1 ครั้ง และด้วยวันที่มาอยู่ในช่วง 7 วันหลังก็ถือว่าเลยข้อกำหนดของ SOP ของสมุยพลัสไปแล้วที่กำหนดว่าในวันที่1-3 นักท่องเที่ยวต้องอยู่ภายในบริเวณโรงแรม วันที่4-7 เดินทางได้เฉพาะพื้นที่ที่กำหนดหรือ Sealed Route วันที่ 8 - 14 นักท่องเที่ยวสามารถเปลี่ยนโรงแรมได้ แต่เป็นโรงแรมได้รับเครื่องหมาย SHA Plus ทั้งบนเกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า และเดินทางเที่ยวทั้ง 3 เกาะ ดังนั้นเมื่อนักท่องเที่ยวเข้าสมุยก็จะตรงกับวันที่ 8 ก็ทำให้เที่ยวได้ตามปกติ
การท่องเที่ยวแบบ 7+7 จะเป็นอีกช่องหนึ่งในการขยายจำนวนนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเที่ยวสมุยตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคมนี้ เพิ่มเติมจากเดิมที่มีอยู่ 2 รูปแบบ คือ 1.นักท่องเที่ยวภายใต้โครงการสมุยพลัสโมเดล และ2.นักท่องเที่ยวต่างชาติที่อยู่ครบ 14 วัน เดินทางเข้ามาเที่ยว ซึ่งที่ผ่านมานับจากวันที่ 15 กรกฏาคม64 ที่สมุยเปิดเกาะรับนักท่องเที่ยวครบ 1 เดือน พบว่าสมุยมีนักท่องเที่ยวจาก 2 กลุ่มนี้อยู่ที่ราว 600 คน โดยเป็นนักท่องเที่ยวจาก สมุยพลัส 331 คน ที่เหลือเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติที่อยู่ครบ 14 วัน เดินทางเข้ามาเที่ยว สร้างรายได้เข้าสมุยราว 30 ล้านบาท จากค่าใช้จ่ายเฉลี่ยอยุ่ที่ 5 หมื่นบาทต่อคน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากยุโรป
“สมุยพลัสโมเดล" ตัวเลขอาจจะต่ำกว่าเป้าหมาย ซึ่งเราเข้าใจได้ว่าเป็นผลกระทบจากยอดการติดเชื้อในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้นและระบบการเปิดCOE ที่ตรงกับวันเปิดเกาะพอดี แต่ตัวเลขก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อเปิด7+7 ก็มั่นใจว่านักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวสมุย เกาะเต่า เกาะพะงัน ก็จะมาจากช่องทางมากขึ้น เนื่องจากมีความสะดวกในการเดินทาง เพราะภูเก็ตมีเที่ยวบินตรงจากต่างประเทศจำนวนมากกว่า ที่จะเป็นช่องทางหลักในการเดินทางของนักท่องเที่ยว มากกว่าบินเข้าสมุยโดยตรงที่สนามบินมีข้อจำกัดในการรองรับ”
ทั้งนี้หลังจากรัฐบาลมีนโยบายการเปิดเส้นทาง7+7 ก็ทำให้โรงแรมในสมุยมียอดจองเข้ามาแล้ว บางโรงแรมมีเข้ามา20-30% ซึ่งผู้ประกอบการต่างจัดโปรโมชั่นในการกระตุ้นนักท่องเที่ยวและจากการสอบถามก็ได้จะเห็นว่า7+7 ได้รับการตอบรับที่ดีกว่าสมุยพลัส
ส่วนการควบคุมการติดเชื้อในพื้นที่ทางพื้นที่อยู่ระหว่างควบคุมดูแล ซึ่งการติดเชื้อส่วนใหญ่เป็นการติดเชื้อในประเทศ ที่ได้มีการเร่งตรวจเชิงรุก ยกระดับมาตรการคัดกรองการเดินทางเข้าเกาะ และมีการปรับโรงแรมที่เป็นLQ มาเป็นโรงพยาบาลสนาม ก็ทำให้เรายังมีศักยภาพในการเปิดสมุยพลัสได้ต่อ
หน้า 14-15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 ฉบับที่ 3,708 วันที่ 26 - 28 สิงหาคม พ.ศ. 2564