นายดนัย ประพันธ์สันติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอฟฟิโนม จำกัด กล่าวว่า หลังจากที่แอฟฟิโนม เดินหน้าพัฒนาชุดตรวจแอนติเจน “COVID-19 Ag” สำหรับประชาชนทั่วไป (Self-Test) สามารถใช้ตรวจเองได้ที่บ้าน ซึ่งขณะนี้กระบวนการผลิตแล้วเสร็จและผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาเรียบร้อยแล้ว โดยเริ่มจำหน่ายแล้วตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน 2564 เป็นต้นมา
สำหรับชุดตรวจแอนติเจน “COVID-19 Ag” แบบ Self-Test ของแอฟฟิโนม เป็นชุดตรวจที่ทำการพัฒนาบนพื้นฐานเทคโนโลยีเดียวกันกับชุดตรวจแบบ Professional Use ซึ่งมีความไวและความจำเพาะสูง โดยทางบริษัทได้ทำการปรับรูปแบบให้ประชาชนทั่วไปใช้งานได้สะดวกขึ้น
เช่น เก็บสิ่งส่งตรวจจากการป้ายโพรงจมูกส่วนต้น (Nasal Swab) ที่ประชาชนสามารถทำได้ด้วยตนเอง ปลายก้านเก็บตัวอย่างที่มีขนาดใหญ่ขึ้นทำให้ไม่สามารถแทงลึกได้มากกว่าโพรงจมูกส่วนต้น รูปแบบของน้ำยาที่จัดชุดมาให้เรียบร้อย คู่มือการใช้งานที่เข้าใจง่าย มีรูปภาพประกอบที่ชัดเจน
มีคลิปวิดีโอสาธิตวิธีการใช้งาน และการอ่านผลการทดสอบ เพื่อให้ทุกคนสามารถทำการทดสอบด้วยตนเองได้อย่างถูกต้อง นอกจากนี้ในกลุ่มชุดตรวจยังมีถุงสำหรับใส่อุปกรณ์ต่างๆ หลังจากทำการทดสอบเสร็จแล้ว เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคจากสิ่งส่งตรวจอีกด้วย
โดย แอฟฟิโนม วางแผนกระจายชุดตรวจแอนติเจน “COVID-19 Ag” แบบ Self-Test ทั้งรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์ ผ่านพันธมิตรทางธุรกิจไปตามช่องทางการจัดจำหน่าย อาทิ บริษัทตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในช่องทางโรงพยาบาล คลินิกเวชกรรม คลินิกเทคนิคการแพทย์ และร้านขายยา
เช่น ร้านยากรุงเทพ ซึ่งมีกว่า 100 สาขาในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงผ่านระบบ Telepharmacy หรือเภสัชกรรมทางไกล ด้วยแอปพลิเคชันของร้านยากรุงเทพโดยมีแผนจัดจำหน่ายวันที่ 24 กันยายน 2564 นี้ ให้เกิดการครอบคลุมในทุกช่องทางการจัดจำหน่ายมากที่สุด
และเพื่อให้ประชาชนทุกพื้นที่สามารถเข้าถึงการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยตนเองได้อย่างรวดเร็ว สอดรับวิถีชีวิตในปัจจุบัน รวมทั้งสถานการณ์คลายล็อกดาวน์ที่มีกลุ่มผู้คนเริ่มออกมาใช้ชีวิตนอกเคหสถาน หรือหลายองค์กรเริ่มปรับแผนปฏิบัติงานที่บ้าน แบ่งจำนวนพนักงานเข้ามาปฏิบัติงานภายในองค์กร เป็นต้น
ทั้งนี้แอฟฟิโนมได้ลิขสิทธิ์ในการผลิตและจัดจำหน่ายเชิงพาณิชย์แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ในการพัฒนาชุดตรวจโควิดแอนติเจนโดยฝีมือคนไทย ‘COVID-19 Ag’ สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ (Professional Use) จากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ที่ใช้เวลาในการทดสอบเพียง 15 นาที
เพื่อช่วยแยกผู้ติดเชื้อออกจากครอบครัว หรือชุมชนเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมานั้น ปัจจุบันชุดตรวจแบบ Professional Use โดยแอฟฟิโนม กว่า 40,000 เทสต์ มีการกระจายแล้วสู่โรงพยาบาล คลินิกเวชกรรม คลินิกเทคนิคการแพทย์ และการตรวจเชิงรุกจากองค์กรต่างๆ
นายดนัย กล่าวอีกว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ตลาดอุตสาหกรรมเครื่องมือทางการแพทย์มีการเติบโตอย่างมาก โดยเฉพาะน้ำยาที่เกี่ยวข้องกับการตรวจโควิด-19 ไม่ว่าจะเป็นด้าน RT-PCR แอนติเจน หรือแอนติบอดี คาดว่าภาพรวมของอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ในส่วนห้องปฏิบัติการ โดยรวมน่าจะเติบโตอย่างน้อย 20-30% ขึ้นอยู่กับใครจะสามารถจับตลาดได้ทันมากน้อยแค่ไหน
ในส่วนของแอฟฟิโนม ซึ่งเป็นผู้ผลิตชุดตรวจแอนติเจน ทั้ง Professional use และ Self-Test คาดว่ายอดขายในปีนี้ของบริษัทจะเติบโต 100% เมื่อเทียบกับปีที่แล้วซึ่งยังไม่มีชุดตรวจโควิด-19 ออกจำหน่าย โดยหลังจากนี้ความต้องการชุดตรวจแอนติเจนยังคงมีอยู่อีก 1-2 ปี และจะลดลงไปเมื่อไวรัสโควิด-19 กลายเป็นโรคประจำถิ่นเหมือนเช่นโรคไข้หวัดใหญ่ H1N1
“แอฟฟิโนมตั้งเป้าหมายภายใน 5 ปีจะขึ้นเป็นผู้นำการผลิตชุดตรวจทางการแพทย์ของประเทศไทยในอนาคต นำจุดแข็งของบริษัทฯ ด้านการผลิตชุดตรวจแบบรวดเร็ว (Rapid Test) วางแผนต่อยอดพัฒนาการผลิตชุดตรวจทางการแพทย์อื่นๆ”
หลังจากนี้แอฟฟิโนมจะต้องออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่สอดรับกับความต้องการของตลาดที่มีความหลากหลายของโรคและเทคโนโลยี จากทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ เพื่อรองรับการก้าวเดินที่สำคัญในการเป็นบริษัทผู้นำในการผลิตสินค้าทางห้องปฏิบัติการของประเทศไทยต่อไป
สำหรับบริษัท แอฟฟิโนม จำกัด ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ.2562 เป็นโรงงานผลิตเครื่องมือแพทย์สำหรับการวินิจฉัยภายนอกร่างกาย (IVD) ที่ได้รับมาตรฐานการจัดการด้านคุณภาพ ISO 13485 ประเภทชุดตรวจแบบรวดเร็ว (Rapid test) และผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา
มีบริการแบบครบวงจรให้กับนักวิจัยทั้งของหน่วยงานรัฐและเอกชนที่สนใจพัฒนาและผลิตชุดตรวจแบบรวดเร็ว สามารถให้บริการวางแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพิ่มประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ ทดลองการผลิตระดับอุตสาหกรรม รวมถึงดำเนินการขออนุญาตผลิตจากหน่วยงานรัฐและการผลิตเพื่อจำหน่าย