นายร็อบ ฮูเรนคัมป์ ประธานกรรมการ บริษัท มาซาร์ส ประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ดำเนินการเชิงรุก ในการเสริมความแข็งแกร่งด้านการบริการให้กับลูกค้า ล่าสุด ได้แต่งตั้งนายโจนาธาน สจวต สมิธ ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตจากลอนดอน ดำรงตำแหน่งหัวหน้าสายงานบริการด้านภาษีคนใหม่ของบริษัท ย่างก้าวสำคัญในครั้งนี้ จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้แก่บริษัทซึ่งมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือลูกค้าทั้งที่เป็นบริษัทข้ามชาติ และผู้ประกอบการไทยในการคว้าโอกาสสำคัญทางธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อองค์กรต้องการขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศผ่านการควบรวมกิจการ
นายโจนาธาน ที่มีประสบการณ์ยาวนานเคยผ่านการทำงานด้านการให้คำปรึกษาแก่บริษัทต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศมาแล้วในหลากหลายประเทศในเอเชีย อาทิ ประเทศไทย ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และฮ่องกง ความเชี่ยวชาญเฉพาะตัวนี้จะเป็นประโยชน์ต่อแวดวงธุรกิจทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ และช่วยให้บริษัทมาซาร์ส สามารถให้คำปรึกษาด้านการวางแผนภาษีได้อย่างครบวงจรและมีประสิทธิภาพสูงสุด ให้แก่ลูกค้าในทุกอุตสาหกรรมและทุกขนาดองค์กรได้เป็นอย่างดี ซึ่งรวมไปถึงการช่วยให้ลูกค้า สามารถปรับตัวให้เข้ากับกฎเกณฑ์ด้านภาษีระหว่างประเทศที่มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และยังช่วยตรวจสอบเอกสารที่เกี่ยวข้องต่างๆ และสามารถช่วยแนะนำลูกค้าในการกำหนดราคาโอนที่เหมาะสมได้อีกด้วย โดยเขาจะทำงานร่วมกับทีมที่ปรึกษาทางการเงินในการวางโครงสร้างองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ และการควบรวมกิจการ รวมทั้งช่วยกำกับดูแลและแนะนำการบริหารจัดการในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับภาษีทั้งในและระหว่างประเทศจากการทำการตรวจสอบและประเมินทรัพย์สินต่างๆ เป็นต้น
นายโจนาธาน กล่าวว่า ภาษีเป็นส่วนประกอบที่สำคัญในการควบรวมกิจการ ซึ่งต้องมีทั้งการให้คำปรึกษา การประเมินมูลค่า การตรวจสอบวิเคราะห์สถานะ และการให้คำปรึกษาเชิงบูรณาการรอบด้าน ประสบการณ์ ความรู้ และความเข้าใจในธุรกรรมแบบครบวงจรของเรา จะทำให้เราสามารถให้คำแนะนำด้านภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว ลูกค้าจึงสามารถมั่นใจได้ว่าจะสามารถคว้าโอกาสทางธุรกิจได้อย่างทันท่วงทีด้วยราคาที่ดีที่สุด
บริษัทต่างๆ ที่จะขยายธุรกิจด้วยการควบรวมกิจการ จำเป็นที่จะต้องใช้บริการที่ปรึกษาด้านภาษีเพื่อจะได้เข้าใจถึงความเสี่ยงและโอกาสทางด้านภาษี เนื่องจากภาษีเป็นความเสี่ยงที่สำคัญอย่างมากสำหรับกิจการ หากคำนวณค่าใช้จ่ายทางด้านภาษีผิดพลาดไป ก็อาจนำไปสู่สถานการณ์ที่จะต้องชำระภาษี ตลอดจน เบี้ยปรับ และเงินเพิ่มเพิ่มเติม ทั้งยังอาจทำให้บริษัทเสียชื่อเสียงอีกด้วย อย่างไรก็ตาม หากผู้เสียภาษีมีการวางแผนภาษีล่วงหน้าและมีการจัดเตรียมเอกสารเกี่ยวกับการดำเนินการทางภาษีได้อย่างถูกต้องเหมาะสม พวกเขาก็จะสามารถลดความเสี่ยงด้านภาษีและเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนได้
ลูกค้าด้านภาษีนิติบุคคลของมาซาร์ส ส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนต่างชาติที่ดำเนินธุรกิจอยู่ในประเทศไทย การที่นายโจนาธานเคยมีประสบการณ์ทำงานในประเทศญี่ปุ่นมา 15 ปี ทำให้สามารถทำงานร่วมกับทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจและการลงทุนของญี่ปุ่นในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชีย ให้กับมาซาร์สในประเทศไทย เพื่อรองรับการให้บริการแก่ลูกค้าที่เป็นบริษัทญี่ปุ่นจำนวนมากที่มาลงทุนในประเทศไทย นอกจากนี้ บริษัทยังสามารถให้บริการแก่บริษัทไทยที่ต้องการรับคำปรึกษาด้านภาษีอากรในการขยายธุรกิจ การค้า และการลงทุนไปสู่ตลาดในต่างประเทศได้อีกด้วย
มาซาร์สตั้งเป้าที่จะเป็นบริษัทตรวจสอบบัญชีหนึ่งใน 5 อันดับแรกของประเทศไทยภายในปี 2567 ในแง่ของรายได้ บริษัทคาดว่ารายได้จากบริการด้านภาษีจะคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 20% ของรายได้ทั้งหมดในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า และบริษัทมีแผนจะสรรหาบุคลากรที่มีความสามารถเพิ่มเติมเพื่อเข้าร่วมทีมที่ปรึกษาด้านภาษีที่ขณะนี้มีผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีอากรอยู่ถึง 15 คน